คนสุดขีดนักกล้ามหญิงปลาน้ำลึกรถแต่งซิ่ง7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกสิ่งก่อสร้างสุดขีดพับกระดาษสมุดระบายสี

สึนามิหนี้สหรัฐ



สำหรับรัฐสหรัฐในตอนนี้ หากไม่สามารถผ่านการปรับเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะได้คงได้ เจ๊ง แน่ เนื่องจาก ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2011 รัฐบาลสหรัฐเหลือเงินที่สามารถจับได้เพียง 73.768 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ บริษัทแอปเปิ้ล เจ้าของโทรศัพท์ ไอโฟน มีเงินสดอยู่ 76.156 พันล้านเหรียญสหรัฐ
  • แอปเปิ้ล ยังก้าวขึ้นมาเป็นบริษัท ที่มีมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์(Market cap)สูงเป็นอันดับที่ 2 ของสหรัฐ ด้วยมูลค่า 364 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นรองเพียงแต่บริษัท Exxon เท่านั้น
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://moneyland.time.com/2011/07/29/brother-can-you-spare-a-billion-apple-has-more-cash-than-uncle-sam/
  • http://www.independent.co.uk/opinion/the-daily-cartoon-760940.html?ino=8

ปลาดุกยักษ์



ปลาดุก(Catfish เป็นกลุ่มปลาไม่มีเกล็ด มีหนวดบริเวณปาก)ยักษ์เผือก ตัวนี้นับเป็นสถิติปลาที่หนักที่สุดที่ตกได้ด้วยเบ็ด มันหนักอยู่ที่ 87 กิโลกรัม ยาว 2.4 เมตร ใช้เวลาเย่อ อยู่ครึ่งชั่วโมง จากแม่น้ำ Ebro ในสเปน ตกได้โดยนาย plucky Chris Grimmer


ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2020734/What-whopper-Angler-enters-record-books-catching-EIGHT-FOOT-albino-catfish.html

กะหล่ำดอก หลากสี



เทสโก้ อังกฤษ เตรียมจะนำ กะหล่ำดอก หลากสี ออกจำหน่าย โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ เด็กๆที่ไม่ชอบกินผัก แต่ ไม่ต้องกลัวเรื่องสารให้สี เนื่องจาก กะหล่ำดอกสี พวกนี้เกิดจากการผสม ข้ามระหว่าง ผักในวงศ์ brassica เช่น ผักกะหล่ำปลีเขียว(green cabbage) , ผักบล็อกเคอรี่(broccoli) เป็นต้น

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2020484/Quirky-coloured-cauliflowers-boost-veg-appeal-kids.html

ส้อมใหญ่ กับ ส้อมเล็ก


เมื่อไม่นานมานี้ wowboom เคยนำเสนอบทความ เปลือกถั่ว เปลือกขนม ช่วยลดความอ้วนได้ อันเป็นผลมาจากการที่ เปลือกที่เราเหลือทิ้งไว้บนโต๊ะนั้นช่วยให้เราทราบว่าเราทานขนมไปมากน้อยเพียงใดได้ วันนี้มีเรื่องราวเกี่ยวกับ การกินอาหารมาให้ชมกันอีก แต่ เป็น ส้อมขนาดใหญ่ ทำให้ทานอาหารน้อยกว่า ส้อมขนาดเล็ก

รายละเอียด

  • เป็นที่รู้กันว่าการเคี้ยวอาหารนานๆ ทำให้ทานอาหารน้อยลงอันเป็นผลมาจากการที่ร่างกายจะรู้สึกว่าอิ่มนั้นต้องใช้ระยะเวลาระยะหนึ่ง ฉะนั้นการกินช้าๆจะกินอาหารได้ปริมาณน้อยลงเมื่อรู้สึกอิ่มเท่าๆกันกับการกินแบบรวดเร็ว
  • เมื่อทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยยูทาห์ สหรัฐอเมริกา ใช้ระยะเวลาทดสอบในภัตตาคารอาหารอิตาเลียนอยู่ 2 วัน โดยโต๊ะอาหารAจะให้ส้อมขนาดหใหญ่ ส่วนโต๊ะBใช้ส้อมขนาดเล็ก
  • เมื่อจบการทดลอง พบว่าค่าเฉลี่ยของโต๊ะAปริมาณอาหารที่กินนั้นลดลง 20% กว่าปริมาณปกติของร้าน(การวัดทำโดย อาหารทุกจานก่อนเสริฟจะถูกชั่งน้ำหนักบันทึกไว้ อาหารที่เหลือจะถูกชั่งน้ำหนักอีกครั้ง)
  • ส่วนโต๊ะฺB นั้นปริมาณการกินเพิ่มขึ้น 20%
  • ทีมวิจัย ศึกษาพบว่าขนาดของส้อม ทำให้ผู้กินอาหารรู้สึกถึงปริมาณการกินอาหารได้มากน้อยเพียงใด โดยส้อมขนาดเล็กทำให้ผู้กินอาหารรู้สึกว่าตนเองกินได้น้อย ทำให้ต้องรีบกินขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความรู้สึกหิวที่มีอยู่ การรีบกินจะทำให้ได้รับปริมาณอาหารมากขึ้นกว่าจะถูกสึกอิ่ม เมื่อเทียบกับการกินช้าๆ ตามที่กว่าวไว้ข้างต้น
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2015349/The-key-dieting-If-want-eat-use-larger-fork.html

เคยสงสัยกันหรือเปล่า


เคยสงสัยกันหรือเปล่าว่าทำไมเราถึงไม่สามารถหยุดกิน อาหารมันๆ อาหารทอด ไม่ได้เสียทีทั้งๆที่รู้ว่ากินแล้วอ้วน กินแล้วไม่ดีต่อสุขภาพ อย่าโทษตัวเองอีกเลยเพราะมันเป็นผลมาจาก ขบวนการทางเคมี ในร่างกายของเรา ที่ทำให้เราอดใจไม่ได้........................

รายละเอียด

  • สาเหตุที่ทำให้เราไม่สามารถหยุดกินอาหาร มันๆ เป็นผลมาจากสารเคมีที่เรียกว่า endocannabinoids
  • นักวิจัยจากแคลิฟอร์เนีย ค้นพบว่า เมื่อหนูทดลองได้กินอาหารที่มีไขมัน เซลล์ภายในลำไส้ส่วนบนจะผลิตสาร endocannabinoids
  • โดยขบวนการนี้จะเริ่มตั้งแต่ เมื่อลิ้นสัมผัสกับไขมันในอาหาร จะเกิดสัญญาณเดินทางไปสู่สมอง และสู่ระบบประสาทที่เรียกว่า Vagus และสู่ลำไส้ ที่จะการผลิตสาร endocannabinoids
  • สาร endocannabinoids จะทำให้เซลล์ส่งสัญญาณ กระตุ้นให้เกิดอยากกินอาหารมันๆ ไขมันสูงๆ เพิ่มขึ้น มากขึ้น นั้นเอง
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2011463/Why-love-chips-The-natural-cannabis-like-chemicals-drive-lust-junk-food.html#ixzz1ROqvSYxy

แหวน ของ โทมัส เอดิสัน


เมื่อปี 1967 มีการค้นพบ แหวนดีบุกบิดๆเบี้ยวๆ อยู่วงหนึ่งในก้นลิ้นชัก ภายในห้องแล็ปของ โทมัส เอดิสัน ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร มีไว้ทำอะไร แต่ด้วยมันเป็นสมบัติของ เอดิสัน มันจึงถูกเก็บรักษาไ้ว้ และความลับนับร้อยปี ก็คลี่คลายในที่สุด

รายละเอียด

  • หลังจากที่มันถูกสร้างมา 123 ปี แหวนบิดๆเบี้ยวๆ กับ ความลับของก็ถูกไขออกได้ เมื่อใช้เทคโนโลยีการถ่ายภาพคุณภาพสูง ก็พบว่ามันมีร่องขนาดเล็กที่เหมือนได้จากเครื่องบันทึกเสียงแบบ โฟโนกราฟ(Phonograph เครื่องบันทึกเสียงแบบใช้คลื่นเสียงไปขยับเข็มให้กีดลงเนื้อท่อจนเกิดเป็นร่อง โดยร่องก็คือข้อมูลเสียงที่ถูกบันทึกไว้นั้นเอง)
  • วงแหวนดังกล่าว มีเนื้อวัสดุเป็นดีบุก(โลหะเนื้ออ่อนสามารถ กีดให้เกิดร่องได้ง่าย) เส้นรอบวง 2.5 นิ้ว เส้นผ่านศูนย์กลาง 1 นิ้ว ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นแถบบันทึกเสียง
  • แหวนบิดเบี้ยวนี้บันทึกถ้อยคำว่า "Twinkle Twinkle Little Star" ซึ่งเป็นเนื้อเพลง มีความยาว 12 วินาที เพื่อไว้ใช้ในการสร้าง ตุ๊กตาพูดได้ ตัวแรกของโลก และถือเป็นก้าวย่างแรกของวงการบันทึกเสียงใน สหรัฐครั้งแรก
  • แต่เทคโนโลยี่นั้น ก้าวเดินอย่างรวดเร็ว และงานนี้ เอดิสัน นั้นก้าวช้าไปก้าวหนึ่ง จึงมีเทคโนโลยี่บันทึกเสียงบนขี้ผึ้ง(Wax recording) ในปี 1890 มาทดแทน วงแหวนเหล็กบันทึกเสียงนี้จึงไม่เคยถูกนำมาผลิตเป็นตุ๊กตาพูดได้ ออกวางจำหน่าย
  • เนื่องจากแหวนวงนี้บิดเบี้ยวเกินกว่าจะนำไปเล่นบนเครือง โฟโลแกรม ได้อีก แต่ด้วยเทคโนโลยี่สมัยใหม่ นักวิทยาศาสาตร์จาก the Lawrence Berkeley National Laboratory ใน Berkeley รัฐแคลิฟอร์เนียได้ใช้การวิเคราะห์จากภาพขยาย เพื่อแกะสิ่งที่ถูกบันทึกไว้บนวงแหวน แล้วจัดทำเป็นรูปแบบเสียง ดิจิตอลไฟล์ ขึ้นมาใหม่
คลังภาพถ่าย

เมื่อมองด้านข้างจะเห็นว่ามีร่องเล็กอยู่โดยรอบ

เมื่อทำการส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะเห็นร่องอย่างชัดเจนที่เกิดจากเครื่องบันทึกเสียงแบบ โฟโลแกรม

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2015253/Voice-Thomas-Edisons-talking-doll-heard-123-years-scientists-crack-code-mysterious-metal-ring.html

ปลูกถ่ายอวัยวะสังเคาะห์


การผ่าตัดครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในโลก ที่เป็นการผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะที่ได้จาก เพาะเลี้ยงจากเซลล์ต้นกำเนิดในห้องแล็ป

รายละเอียด

  • การผ่าตัดนี้นับเป็นความก้าวหน้าอย่างยิ่งอันเป็นผลมาจาก การที่อวัยวะที่เพาะเลี้ยงนี้ ได้จากเซลล์ของผู้ป่วยเองจึงไม่เกิดการต่อต้านจากร่างกาย อวัยวะนี้ถูกหล่อขึ้นจากการสแกนอวัยะเดิมของผู้ป่วยทำให้มีขนาดใกล้เคียงอวัยวะเดิมของผู้ป่วยทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องขนาดอวัยวะไม่สมดุลย์กับร่างกาย
  • การผ่าตัดนี้เป็นการผ่าตัดเปลี่ยน หลอดลม ในผู้ป่วยโรคมะเร็งหลอดลม
  • การผ่าตัดเปลี่ยนหลอดลมนี้ทำที่โรงพยาบาล Karolinska University Hospital ในประเทศสวีเดน(Sweden)
วิธีสร้างอวัยวะ

  • รูปร่างและขนาดของหลอดลม ได้จากการสแกนสามมิติ(3D) หลอดลมของผู้ป่วยเองเพื่อนำมาสร้างโมลด์(แบบหล่อ) โดยโมลด์สร้างจากแก้ว
  • ทำการหล่อโครงของหลอดลม ในโมลด์แก้ว โดยวัสดุที่ใช้หล่อโครงของหลอดลม เป็น วัสดุสังเคาะห์ที่คล้ายพลาสติกที่เรียกว่า nanocomposite ที่มีลักษณะยืดหยุ่น เป็นรูพรุน
  • นำโครงหลอดลมพลาสติก ลงไปแช่ในน้ำที่เป็นส่วนผสมของเซลล์ต้นกำเนิดที่ได้จากคอลลาเจนจากไขกระดูก ของ ผู้ป่วย รอเป็นเวลา 2 วัน จนเซลล์ต้นกำเนิดเติบโตเป็นเนื้อเยื่อห่อหุ้มโครงหลอดลมพลาสติก
ผลการผ่าตัด

  • หลังจากการผ่าตัดมาแล้ว 1 เดือน ร่างกายของผู้ป่ายไม่มีอาการต่อต้าน หลอดลมใหม่ และผู้ป่วยจะได้กลับบ้านในเร็ววันนี้
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/health/article-2012415/Surgeons-implant-worlds-stem-cell-windpipe-grown-lab.html

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ฟองแช่แข็ง


ภาพที่เห็นนี้ ต้องยอมรับว่าตอนแรกที่ Admin DEN เห็นรู้สึกประหลาดใจว่ามันคืออะไร ที่ซ่อนอยู่ในน้ำแข็ง ตอนแรกก็คิดว่าเป็น แมงกะพรุน แต่ผมคิดผิด

รายละเอียด

  • ภาพนี้เป็นภาพถ่ายบริเวณแห้งแล้ง(Arid area) ของภูเขาร็อคกี้ ใน ประเทศแคนนาดา
  • เนื่องจากในช่วงเวลาถ่ายภาพสภาพอากาศนั้นหนาวเย็นจัด โดยมีอุณหภูมิอยู่ที่ ติดลบ 30 องศาเซลเซียส แต่ ในช่วงเวลานั้นไม่มีหิมะตก จึงเผยให้เห็นแผ่นน้ำแข็งของทะเลสาบ
  • สิ่งที่เห็นอยู่ในแผ่นน้ำแข็งนั้นคือ ฟองก๊าซ ที่ถูกกักอยู่ในน้ำแข็ง
  • ส่วนก๊าซนั้นถูกปล่อยออกมาจาก พื้นทะเลสาบ
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://travel.nationalgeographic.com/travel/traveler-magazine/photo-contest/entries/gallery/outdoor-scenes-week-8/#/42635_0_608x911.jpg

ไม่ดื่ม



เมื่อไม่กี่วัน wowboom ได้นำเสนอเรื่อง จิ้งจกหน้าทะเล้น ที่มีวิธีหาน้ำดื่มแปลกจากหมอกที่กลั่นตัวเป็นน้ำค้าง เกาะอยู่ที่ลูกตาของพวกมัน แต่มันยังไม่สุดยอดเหมือน หนูจิงโจ้ ที่ไม่ต้องดื่มน้ำเลย

รายละเอียด

  • ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า หนูจิงโจ้ นั้นเป็นหนู ไม่มึความสัมพันธ์อะไรกับ จิงโจ้แม้แต่น้อย นอกจากท่าทางในการเดินที่ใช้การกระโดดด้วยขาหลัง และรูปลักษณ์ที่มีขาหลังขนาดใหญ่ ที่เหมือนจิงโจ้ อันเป็นที่มาของชื่อพวกมัน
  • หนูจิงโจ้ เป็นหนูขนาดเล็กเมื่อโตเต็มวัยจะมีน้ำหนัก 70-170 กรัม เป็นสัตว์ประจำถิ่นของอเมริกาเหนือ
  • หนูจิงโจ้ ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำ เนื่องจากระบบย่อยอาหารที่มีประสิทธิภาพที่สามารถ สกัดน้ำจากเมล็ดพืชแห้งได้
  • ยิ่งหนูจิงโจ้ ยังมีระบบป้องกันการสูญเสียน้ำที่ดีเยี่ยม คือ พวกมันไม่มีเหงือ ไม่สูญเสียน้ำกับการหายใจ(สำหรับมนุษย์ สูญเสียน้ำไปกับการหายใจมากที่สุด) และระบบไตของหนูจิงโจ้มีความสามารถสกัดน้ำออกจาก ปัสสาวะ แล้วนำน้ำที่ได้วนกับไปใช้ใหม่
ข้อมูลอ้างอิง
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Kangaroo_rat
  • http://travel.nationalgeographic.com/travel/national-parks/weird-animals-quiz/

รู้หรือเปล่าว่า ยางรถยนต์ อะไรแพงที่สุดในโลก
คงจะไม่มียางรถยนต์อะไรจะแพงไปกว่า ยางรถยนอต์ยี่ห้อ มิชลิน รุ่น 59/80R63 XDR ที่ผลิตมาเพื่อใช้กับรถบรรทุกดัมพ์ยี่ห้อ แคทเทอร์พิลลาร์ 797

  • ยางเส้นนี้มีราคา 42,500 เหรียญสหรัฐ(ประมาณ 1.2 ล้านบาท/เส้น)
  • หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันวิเศษวิโส มาจากไหนถึงแพงพอๆกับรถ 1 คัน สาเหตุก็มาจากมันถูกออกแบบมาเพื่อรับน้ำหนักบรรทุกมหาศาล คือ ยาง6เส้นต้องรับน้ำหนักบรรทุกถึง 1.375 ล้านปอนด์(600 ตัน) แค่ลำพังตัวยางเองแต่ละเส้นหนักถึง 5.3 ตัน มีสูงเกือบ 4 เมตร(13 ฟุต) พูดไปก็เท่านั้นเอารูปไปดูจะเข้าใจกว่า
รถบรรทุก Caterpillar 797

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://most-expensive.net/tires

มินิคูเ้ปอร์



ใครๆก็ชอบพูดว่ารถมินิคูเปอร์นั้นเล็ก วันนี้พี่ยุ่นปี่ญี่ปุ่น จึงออกมาโชว์ว่ารถมินิ(รุ่นเก่า)นั้นสามารถที่จะให้สาวจากโรงเรียนสอนเต้นรำ the Caless Dance School จำนวน 21 คน อัดกันเข้าไปอยู่ได้ โดยสถิตินี้ได้รับการรับรองโดยกินเน็สบุ๊ค ในระหว่างรายการทีวีในสตูดิโอ the Shiodome Nihon TV ในกรุงโตเกียวเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2011

กฏ กติกามารยาย
  • แน่นอนมันต้องมีกฎ กติกามารยายในการทำสถิติ ไม่ใช่อยู่ๆจะนำเด็กอนุบาลตัวนิคเดิ๋ยวมาทำสถิติ มันก็จะเอาเปรียญกันเกินไป ฉะนั้นผู้ที่จะเข้าทำสถิติจะต้องมีความสูงไม่น้อยกว่า 5 ฟุต(1.5 เมตร)
  • รถจะต้องยังคงมีอุปกรณ์มาตรฐาน ครบสมบูรณ์ ไม่ว่า เบาะ กระจกหน้า กระจกข้าง พวงมาลัย เกียร์ ไม่มีการตัดออกเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่าง
  • เมื่อทำการปิด ประตูทุกบาน จะต้องอยู่ในรถให้ได้อย่างน้อย 5 วินาที
  • หลายคนอาจจะสงสัยแล้วถ้าใช้รถมินิคูเปอร์รุ่นใหม่ ที่คันใหญ่กว่าจะอัดกันได้กี่คน คำตอบก็คือ 26 คน โดยสถิตินี้ทำไว้โดยเหล่านักเต้นจาก the Pilobolus Dance Company ทำสถิติไว้ที่ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2010

ถ้าเป็น นิวมินิคูเปอร์ สถิติอัดคนเข้าไปได้มากที่สุดในโลก คือ 26 คน
หลายคนอาจจะสังเกตเห็นว่า ทำสองสถิติทำไม ผู้ทำสถิติจึงมีความเกี่ยวข้องกับการเต้นรำ คำตอบก็คือ นักเต้นเหล่านี้นั้นมีพื้นฐาน บัลเล่ต์ทำให้มีตัวที่อ่อน ดัดตัว คู้ตัวได้ดี ทำให้สามารถใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://community.guinnessworldrecords.com/_Most-people-crammed-in-a-Mini-Cooper/photo/14191572/7691.html
  • http://community.guinnessworldrecords.com/_Most-people-crammed-in-a-Mini-Cooper-new-model/photo/12718247/7691.html

ข่าวด่วน จ้า



ชาวนอร์เวย์เจียน กำลังตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัวอย่างสุดขีดเมื่อถูกโจมตีด้วยผู้ก่อการร้าย ที่คาดว่าเป็นผลจากการเข้าร่วมในปฎิบัติืการใน อัฟกานิสสถาน

รายละเอียด

วันที่ 22 กรกฎาคม 2011 (เวลาท้องถิ่น)
  • เวลา 13:30 น. เกิดระเบิดคาร์บอมบ์ขนาดใหญ่ขึ้นในบริเวณพื้นที่ศูนย์ราชการ ในเมือง ออสโล(Oslo เมืองหลวงของนอร์เวย์) มีผู้เสียชีวิต 2 คน
  • เวลา 15:30 น. ผู้ก่อการร้ายปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าสู่บริเวณงานยุวชนนอร์เวย์ ที่มีประธานาธิบดีเป็นประธาน ได้เปิดฉากยิงจนมีผู้เสียชีวิตอีก 5 ศพ (ภายในงานมีเยาวชนอายุระหว่า 14-18 ปี กว่า 700 ชีวิต) บนเกาะ
  • เวลา 17:50 น. มีรายงานจากผู้ที่ว่ายน้ำออกมาจากเกาะที่เกิดเหตุยิงกัน ว่าบนเกาะยังคงมีการยิงกันอยู่
  • มีรายงานจากสถานีโทรทัศน์ TV2 ว่ามีพัสดุต้องสงสัยถูกส่งมายังสถานี
คลังภาพ


ซากรถ บริเวณหน้าตึกราชการ ใน ออสโล


หน่วยกู้ภัย กำลังเร่งมือในการลำเลียง และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ


สภาพที่สับสนวุ่นวายในเมือง ออสโล


สภาพตึกที่พังพินาจ ไฟลุกท่วม

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2017709/Oslo-explosion-Huge-bomb-blast-kills-maims-dozens-attack-government-office-block.html

พลังงานไฟฟ้า ทางเลือก


ก่อนอื่นต้องขอเน้นว่า พลังงานไฟฟ้านี้ผลิต จากอากาศ ไม่ใช่แรงลม(อากาศที่เคลื่อนที่) หลายคนอาจจะเริ่มแปลกใจแล้วว่าแล้วมันจะผลิตไฟฟ้าได้อย่างไร เมื่ออากาศไม่เคลื่อนที่ก็ไม่เกิดพลังงานจลน์

รายละเอียด

  • พลังงานไฟฟ้า ทางเลือกนี้ผลิตกระแสไฟฟ้าโดยการแปลง คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า(Electromagnetic คือ เมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านเส้นลวด จะเกิดคลื่นแม่เหล็กกระจายตัวอยู่รอบๆเส้นลวด คลื่นแม่เหล็กนี้เรียกว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) เป็น ไฟฟ้ากระแสตรง(DC) หรือ กระแสสลับ(AC)
  • รอบตัวของมนุษย์ที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆมากมายนั้น ย่อมีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจำนวนมากมากกระจายตัวอยู่รอบ แต่ยังไม่เคยมีใครสามารถนำมันมาใช้ประโยชน์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้ามาก่อน
  • จนกระทั้ง ศาสตราจารย์ Manos Tentzeris จาก the Georgia Tech School of Electrical and Computer Engineering และทีมงานได้ประดิษฐ์ เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยใช้ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท ร่วมเซ็นเซอร์(Sensors) เสาอากาศ(Antenna) และ energy scavenging(อุปกรณ์รับพลังงานจากแหล่งภายนอก) ลงบนแผ่นกระดาษ หรือ แผ่นโพลิเมอร์
  • แต่พลังงานที่ได้นั้นไม่ได้มากมายอะไร เพียงแค่ ไมโครวัตต์(Microwatts) ถึง มิลลิวัตต์(Milliwatts) แต่มันสามารถนำรวมกัน เพื่อใช้กับเซ็นเซอร์ขนาดเล็ก หรือ RFID tags
  • โดยจากการทดสอบอุปกรณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยใช้อุปกรณ์ผลิตกระไฟฟ้าจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจากสถานีโทรทัศน์ที่อยู่ห่างไปครึ่งกิโลเมตร เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อใช้กับเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิขนาดเล็ก(Temperature sensor) ได้สำเร็จ
  • ทีมวิจัยเชื่อมั่นว่าในอนาคต มันจะถูกประยุกต์ไปใช้อย่างแพร่หลาย เมื่อราคาถูกลงกว่านี้ และเมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยี่ตัวเก็บประจุ(capacitor)ชั้นสูง มันจะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากถึง 50 มิลลิวัตต์ อย่างแน่นอน
  • ตัวอย่างที่จะนำไปประยุกต์ใช้ เช่น เซ็นเซอร์ไร้สายสำหรับตรวจจับวัตถุระเบิด ตรวจจับสามารถเคมีอันตรายบนอาหาร เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้มอูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2016302/Powered-air-Researchers-discover-gadget-extract-energy-sensors-us.html

มนุษย์ต่างดาว บุก เมืองจีน



นาง Mao Xiping จากหมู่บ้าน Gezhai ในมณฑลเหอหนาน(Henan) ประเทศจีน ต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบ มนุษย์ต่างดาวมาขโมยกินแตงกวาในแฟลตของเธอ เมื่อชาวบ้านร้านตลาดมาเห็นต่างก็ลงความเห็นว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตจากโลกอื่นอย่างแน่นอน เนื่องจากมันมีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้
พวกเขาจึงช่วยกันจับตัวมันใส่ตะกร้าส่งไปให้เจ้าหน้าที่ ผู้เชียวชาญกล่าวว่า สิ่งมีชีวิตนี้ก็คือ
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
ลิงขาดสารอาหารผอมโซ จนซี่โครงบาน เท่านั้นเอง
โอละพ่อ


ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2017658/Chinese-villagers-mistake-malnourished-monkey-alien.html

เพชรระเหย



เป็นที่รู้ๆกันว่า เพชร เป็นธาตุที่แข็งที่สุดในโลก(แต่เปราะ ถ้าทุบจะแตกอย่างง่ายดาย แต่แข็งในที่นี้คือไม่มีวัตถุใดนอกจากเพชรด้วยกันเองจะสามารถ ขูด กรีด ให้เพชรเป็นรอยได้) แต่ก็มีการค้นพบว่า พวกมันกับสามารถระเหยได้เมื่อวางตากแดด

รายละเอียด

  • การทดลองนี้นำโดย Richard Mildren จากมหาวิทยาลัย Macquarie University
  • เมื่อทำการทดลอง นำเพชร ไปวางภายใต้ช่วงความถี่แสง UV-C เพชรจะปลดปล่อยรังษีอุลตร้าไวโอเลตออกมา และเกิดเป็นหลุมเล็กบนพื้นผิวเพชร
  • แต่อย่ากังวลไป เนื่องจากถ้าวางอยู่ในสภาพแสงธรรมชาติ หรือภายใต้แสงจากหลอดไฟ เพชรจะระเหยช้ามากเจนแทบจะเรียกว่าไม่ระเหยเลยก็ได้เนื่องจากต้องใช้เวลากว่า 10,000 ล้านปีกว่าการระเหยนี้จะเกิดขึ้นมากพอจะสังเกตุเห็น
  • การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่ทำให้เราทราบถึงความมั่นคงระยะยาวของเพชร ทั้งยังสามารถนำไปประยุกต์สร้างอุปกรณ์แสงขนาดเล็กเพื่อสร้าง แสงเลเซอร์ประสิทธิภาพสูง การประมวลผลแบบควอนตัน หรือ แม้แต่ประยุกค์หาเพชรบนพื้นผิวของดาวอื่น
ข้อมูลอ้างอิิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2016487/Diamonds-arent-forever-Earths-hardest-natural-material-evaporates-exposure-light.html

ดวงจันทร์บริวาร ของ ดาวพลูโต


นาซ่าออกมาแถลง ว่ากล้องโทรทรรศน์อวกาศ ฮับเบิล ได้ค้นพบดวงจันทร์บริวาร ดวงที่ 4 ที่โคจรรอบดาวพลูโต(Pluto) โดยขณะนี้ดวงจันทร์ ดวงนี้จะถูกเรียกว่า P4 ไปพลางๆก่อนที่จะมีการตั้งชื่อย่างเป็นทางการ

รายชื่อดวงจันทร์บริวาร ของ ดาวพลูโต

  • ดวงที่ 1 ชื่อ Charon อยู่ใกล้ดาวพลูโตที่สุด และมีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาดวงจันทร์บริวารทั้งหมด โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1,207 กิโลเมตร
  • ดวงที่ 2 ชื่อ Nix มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 90 กิโลเมตร
  • ดวงที่ 3 ชื่อ P4(ชื่อไม่เป็นทางการ เป็นดวงที่พึ่งมีการค้นพบล่าสุด)
  • ดวงที่ 4 ชื่อ Hydra อยู่ไกลที่สุดจาก ดาวพลูโต โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 112 กิโลเมตร
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2016948/Hubble-telescope-discovers-Pluto-tiny-fourth-moon.html

มาอีกแล้ว กล็อบสเตอร์



มาอีกแล้วครับ ก้อนเนื้อลึกลับเกยตื้น ซากนี้ถูกพบเกยตื้นอยู่ที่หาด ใน Bridge of Don เมืองAberdeen ประเทศอังกฤษ ซากนี้มีความยาวประมาณ 9 เมตร ยังไม่ได้มีการตรวจสอบว่ามันเป็นซากของตัวอะไร แต่ลองมาฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญกัน

นาย Rob Deville ผู้เชี่ยวชาญสิ่งมีชีวตทางทะเล จากสวนสัตว์ลอนดอน กล่าวว่า
  • ซากนี้คาดว่าจะเป็น วาฬเพชรฆาต(Killer whale) หรือ วาฬนำร่อง(Pilot whale)รุ่นเล็ก
นาย Mark Simmonds ผู้เชี่ยวชาญวาฬ กล่าวว่า

  • คาดว่า มันเสียชีวิตมานานพอสมควร และถูกกระแสน้ำซัดขึ้นมาเกยตื้น
คลังภาพ


โครงกระดูกของ วาฬนำร่อง


โครงกระดูก วาฬเพชรฆาต

อ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2016781/Couple-walking-dog-discover-30-ft-carcass-sea-creature-rotting-beach.html
  • http://www.eveandersson.com/photo-display/large/argentina/ushuaia-museo-maritimo-pilot-whale-calderon-dolphin-skeleton.html
  • http://www.racerocks.com/racerock/marmam/whale/L51orca/L51orca.htm

เขียนชื่อบนชายหาด



คนทั่วๆไปถ้าไปชายหาดอาจจะใช้แค่ไม้เขียนชื่อไว้บนชายหาด แต่ถ้าเป็นอภิมหาเศรษฐีแห่งราชวงศ์อบูดาบี คงต้องพูดว่าเล็กไม่ใหญ่ทำ จึงทำซะใหญ่จนมองเห็นจาก อวกาศ มันซะเลย

รายละเอียด

  • ข้อความที่ถูกเขียนนั้นเป็นชื่อย่อของ ชีค Hamad Bin Hamdan Al Ahyan วัย 63 ปี ผู้เป็นประธานาธิบดี ของ อาหรับเอมิเรตส์
  • ชื่อถูกขุดลงในเกาะ Al futaysi ใน อาบูดาบี ด้วยข้อความว่า "HAMAD"
  • โดยวัดความสูงตัว H ได้ถึง 1 กิโลเมตร ยาวจาก H ถึง D ได้ 3.2 กิโลเมตร
  • ชีค Hamad นั้นมีฉายาว่า ชีคสีรุ้ง อันเป็นผลจากท่านนั้นร่ำรวยมีรถ 200 กว่าคัน 1 ในคอลเลคชั่นสะสมของท่านก็คือ รถเบนซ์ รุ่น 500 SELs จำนวน 7 คัน 7 สี อันเป็นที่มาของฉายา ชีคสีรุ้ง

ใหญ่ขนาดมองเห็นจากภาพถ่ายดาวเทียม กันทีเดียว

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2016841/Hamad-Arab-sheikh-carves-miles-long-sand-visible-SPACE.html

ลดความอ้วนได้ ด้วยเปลือกขนน



ใครจะเชื่อว่า เปลือกขนน และเปลือกถั่ว ถุงมันฝรั่งทอด ที่เราไม่กินแล้ววางทิ้งไว้บนโต๊ะ จะสามารถทำให้เราสามารถลดจำนวน แคลอรี่ ได้มากถึง 40%

รายละเอียด

  • จากการศึกษาของ US. Academics ที่ได้ทำการทดลองโดยให้ ถั่วฟิสทาชิโอ(pistachios)แก่เด็กนักเรียนซึ่งเป็นกลุ่มทดลองจำนวน 140 คน
  • โดยแบ่งกลุ่มทดลองเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มAได้รับถั่วฟิสทาชิโอแบบแกะเปลือก ส่วนกลุ่มBได้รับถั่วฟิสทาชิโอแบบมีเปลือก ก่อนเข้าห้องเรียน
  • เมื่อสิ้นคาบเรียน นักวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ไดัรับถั่วแบบแกะเปลือกแล้วคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่กินไปได้ 211 แคลอรี่ ขณะกลุ่มตัวอย่างที่ได้รับถั่วแบบมีเปลือกที่ต้องแกะเปลือกและกองเปลือกที่กินแล้วไว้บนโต๊ะเรียนคำนวณปริมาณแคลอรี่ที่กินไปได้เพียง 125 แคลอรี่น้อยกว่ากลุ่มแรกถึง 41%
  • สาเหตุที่ทำให้เปลือกถั่ว ทำให้รับแคลอรี่ลดลงนั้นเกิดจาก การที่กลุ่มตัวอย่างเห็นปริมาณเปลือกถั่วที่เหลือบนโต๊ะ ทำให้ทราบว่ากินถั่วไปมากน้อยขนาดไหนแล้ว
  • ผลที่ได้จากการทดลองนี้จึงมีชื่อเรียกว่า The Pistachio Effect จึงสามารถนำไปประยุกต์กับของกินอื่นได้ ทั้งท๊อฟฟี่ ขนมต่าง โดยเวลากินให้ทิ้งเปลือกไว้บนโต๊ะเพื่อให้เราปริมาณการกินของเราว่ามันมาก หรือ น้อยเพียงใดแล้ว
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2016238/The-Pistachio-Effect-Shelling-nuts-unwrapping-sweets-cut-calories-40-cent.html

ยาอายุวัฒนะ



ไม่ต้องเล่นแร่แปรธาตุ ไม่ต้องบุกป่าผ่าดงเพื่อค้นหาบ่อน้ำอัมฤทธิ์ ไม่ต้องค้นหาจอกศักดิ์สิทธิ์กันอีกต่อไป เมื่อ ยาอายุวัฒนะ นั้นอยู่ในร่างกายของเราทุกคนนั้นเอง

รายละเอียด

อีกฝันอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ ก็คือการมีชีวิตอันเป็นอมตะ ยิ่งเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต ไม่เว้นแม้แต่ ฮิตเลอร์ หรือ นโปเลียน มนุษย์ที่ใกล้เคียงจะเป็นเจ้าโลก ก็มุ่งหวังจะครอบครองชีวิตอันเป็นนิรันดร์ แต่ก็ยังไม่มีใครที่หลุดพ้นจาก เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไปได้แม้แต่คนเดียว แต่ วิทยาศาสตร์กำลังจะเปลี่ยนมันไปตลอดกาล เมื่อ
  • ทีมนักวิจัย ที่นำโดย ด็อกเตอร์บิลล์ แอนดริวส์(Bill Andrews) จากเนวาดา(Nevada) ผู้ก่อตั้ง Sierra Sciences(ชื่อบริษัทไบโอเทคโนโลยี) ที่สร้างชื่อขึ้นจากการค้นพบ เทโลเมอเรส (Telomerase)
  • เทโลเมอเรส คือ เอนไซค์(Enzyme) ที่ทำหน้าที่สร้างส่วนปลายของ ดีเอ็นเอ(DNA) ที่แสดงให้เห็นว่ามีผลต่อการขบวนการชรา ในสิ่งมีชีวิต
  • โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ความชรา นั้นเป็นผลมาจาก เทโลเมอเรสในยีนที่ลดน้อยลงเรื่อยเมื่อเราอายุมากขึ้น
  • ภายในเซลล์จะมี ดีเอ็นเอ(DNA) และอาร์เอ็นเอ(RNA) เป็นพื้นฐานของเซลล์ โดยอาร์เอ็นเอเป็นพวกโปรทีน และไขมัน ที่เมื่อเสือมสลายไปสามารถหามาทดแทนได้ ในทางตรงกันข้ามดีเอ็นเอนั้นไม่สามารถหามาทดแทนได้ทำได้แต่การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไป ทำให้สิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถในการซ่อมแซมดีเอ็นเอได้ดี จะแก่ชราช้า เมื่อเซลล์ที่มีดีเอ็นเอที่ชำรุดทรุดโทรมมาก มันก็จะแสดงออกมาในรูปของความชรา
  • ด็อกเตอร์บิลล์ แอนดริวส์ จึงค้นหาวิธีทางการที่เซลล์สร้างเทโลเมอเรส และวิธีการในการป้องกันให้เทโลเมอเรสเสื่อมสลาย โดยการค้นพบล่าสุดที่ได้มีการนำเสนอเมื่อเดือนสิงหาคม ในงานประชุมทางวิชาการในแคมบริดจ์ ว่ามีสสารที่แตกต่างกันเกือบ 40 ชนิดที่สามารถใช้ในการสร้าง เทโลเมอเรส
  • แต่มันก็ยังเร็วไปที่จะนำเทคโนโลยีนี้มาใช้กับ มนุษย์ แต่มันกับง่ายมากที่จะนำมาใช้กับสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีกฎระเบียบควบคุมที่เข้มงวด มันจึงถึงนำมาผสมในอาหารสัตว์ เพื่อเป็นการชลอความชรา(ต่อไปคุณอาจจะเลี้ยง สุนัขแค่ตัวเดียว ไปจนคุณแก่ตายเลยก็ได้ เมื่อพวกมันได้กินอาหารสูตรเทโลเมอเรส)
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2015710/Scientists-discover-secret-long-life--dog-benefit.html
  • http://dewchatchawan.blogspot.com/2011/02/telomere-telomerase.html อันนี้บล็อคของคนไทยมีการพูดถึง การสังเคราะห์ดีเอ็นเอ ที่จะสั้นลงเรื่อยๆ ครับ

กระโดด ด้วย จักรยาน



นาย Oliver Rege ชาวอิตาเลียน เมื่อชาติก่อนเขาคงเกิดเป็นจิงโจ้มั้ง และชาิติก่อนหน้านั้นแก่คงเกิดเป็นค้างคาวมั้ง ชาตินี้ถึงมาทำสถิติกระโดดโดยล้อหน้า ด้วยจักยาน ได้ถึง 378 ครั้ง

รายละเอียด

  • กฎ ในการทำสถิติโลกนี้ก็มีอยู่ว่า ตลอดการทำสถิติกระโดด ห้ามมีส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย และจักรยานนอกจากล้อหน้าสัมผัสพื้น
  • นายโอลิเวอร์ ทำสถิติกระโดดได้ถึง 378 ครั้ง เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2011 ที่เมืองตูริ(Turin) ประเทศอิตาลี
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://community.guinnessworldrecords.com/_Most-continuous-front-wheel-hops-on-a-bicycle-/photo/14382318/7691.html

กระโดดจั๊ม ด้วยโรเลอร์เบรด



สถิติกินเน็สบุ๊ค กระโดดจั๊ม จากเนินลาด(Ramp) ไกลที่สุดในโลกนี้เป็นของ นาย Taïg Khris ชาวฝรั่งเศล ทำไว้ที่ the Sacré Coeur ในปารีส เมื่อวันที่ 2 กรกฏาคม 2011 ได้ระยะทาง 29 เมตร(95 ฟุต 1.73 นิ้ว)


ข้อมูลอ้างอิง

  • http://community.guinnessworldrecords.com/_Longest-ramp-jump-on-rollerblades-inline-skates-/photo/14420242/7691.html?enlarge=true

น้ำ + ทะเลทราย



น้ำ เป็น พื้นฐานของสิ่งมีชีวิตบนโลกทุกชนิด แต่ในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายสุดขีดอย่างในทะเลทราย น้ำนั้นหายากยิ่ง พวกมันจึงวิวัฒนาการวิธีหาน้ำ แปลกๆ กันขึ้นมา

รายละเอียด

  • วันนี้เรามาดูวิธีหาน้ำดื่มของ จิ้งจกหน้าทะเล้น(cheeky gecko) ซึ่งเป็นจิ้งจกที่หากินในเวลากลางคืน ทำให้ผิวของมันเป็นสีชมพูบางๆที่ไม่สามารถทนแสงในเวลากลางวัน ที่พบได้ในบริเวณเนินทรายใกล้ชายฝั่งระหว่างทะเล กับ ทะเลทราย ในประเทศนามิเบีย
  • จิ้งจกหน้าทะเล้น มีวิธีดื่มน้ำโดยใช้ลิ้นเลีย น้ำจากลูกตา ของมัน
  • น้ำที่อยู่บนลูกตาของ จิ้งจก นั้นเกิดจากหมอก กลั่นตัวเป็นน้ำค้างสะสมอยู่บน ลูกตาสีดำขนาดใหญ่ของพวกมัน
  • โดยหมอกนี้จะมีเกิดขึ้นบริเวณใกล้ๆชายฝั่งเพียง 2 - 3 ไมล์เท่านั้น อันเป็นผลจากการที่อากาศร้อนจากทะเลทราย ปะทะเข้ากับ อากาศเย็นจากมหาสมุทรแอตแลนติค ทำให้เกิดหมอกหนาทุกๆเช้าในบริเวณนี้จนถึงช่วงเวลา 9 โมงเช้า
  • ภาพถ่ายนี้เป็นผลงานของ นาย Isak Pretorius ที่ต้องสำรวจเนินทรายทุกตารางเมตรเพื่อค้นหาจิ้งจกหน้าทะเล้นเหล่านี้ถึง 3 วัน กว่าจะได้ภาพ เนื่องจากพวกมันเป็นจิ้งจกขนาดเล็กตัวเล็กเพียง 3-4 นิ้วเท่านั้นเอง

จิ้งจกหน้าทะเล้น ผิวบางๆสีชมพูที่ไม่สามารถทนแสงในเวลากลางวัน

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2011760/Cheeky-gecko-uses-tongue-drink-morning-dew-EYES.html

ทำไมโดนัท ต้องมีรู



แต่ก่อน Admin DEN จำได้ว่าเคยมีโฆษณาโดนัทยี่ห้อหนึ่ง ที่ยิงคำถามว่า ทำไมโดนัทต้องมีรู

สาเหตุ

  • สาเหตุที่ฟังดูเข้าท่าที่สุดคือ เพื่อให้สามารถทอดให้แป้งนั้นสุกอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็มีคนแย้งว่าโดนัทที่ไม่มีรูก็เยอะไปอย่างที่อังกฤษเป็นต้นโดนัทก็ไม่มีรู
  • บ้างก็ว่าเกิดจากการที่ร้านเบเกอรี่ต้องการลดต้นทุนแป้งโดนัท ก็เลยเจาะเนื้อแป้งตรงกลางออก
  • บ้างก็ว่ามาจาก กัปตันเรือนามว่า Mason Crockett Gregory กัปตันเรือก็ต้องควบคุมเรือโดยการจับพวงมาลัยไว้ มือเลยไม่ว่างที่จะถือขนมโดนัทที่แม่ทำมาให้กิน จึงคิดว่าถ้าโดนัทมีรูน่าจะแขวนมันไว้กับก้านพวงมาลัยได้คงจะดีไม่น้อย เมื่อกับไปบ้านจึงขอร้องให้แม่ทำโดนัทมีรูจะได้แขวนโดนัทบนพวงมาลัยได้
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://itotd.com/articles/314/the-story-of-doughnuts/
  • http://wiki.answers.com/Q/Why_do_donuts_have_holes

ไดโนเสาร์ เป็น สัตว์เลือดอุ่น



มีความเชื่อว่า ไดโนเสาร์ นั้นเป็นสัตว์เลือดเย็น แต่จากการศึกษาล่าสุดค้นพบว่า ไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ นั้น มีอุณหภูมิร่างกาย ใกล้เคียง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม(Mammals) หรือ นก

รายละเอียด

  • กิ้งก่า งู และ จระเข้ ล้วนเป็นสัตว์เลือดเย็น ทำให้อุณหภูมิร่างกายของพวกมัน จะสูงขึ้น หรือต่ำลงตามสภาพแวดล้อม
  • เหมือนสัตว์เลื้อยคลาน ในปัจจุบัน ที่พวกมันจะเคลื่อนไหวช้าลงเมื่ออุณหภูมิร่างกายต่ำลง และจะกระฉับกะเชิงขึ้นเมื่อ อุณหภูมิร่างกายอุ่นขึ้น
  • นักวิจัยทำการวิเคราะห์ ฟัน 11 ซี่ ของ ไดโนเสาร์ Brachiosaurus และ ไดโนเสาร์ Camarasurus
  • จาก รูปแบบการฟอร์มตัวของแร่ธาตุบนเคลือบฟัน ที่เป็นผลมาจากอุณหภูมิ โดยการวัดความสัมพันธ์ระหว่างระดับของ คาร์บอน กับ ออกซิเจนไอโซโทรป ความแตกต่างกันของรูปแบบธาตุชนิดเดียวกันบนเคลือบฟันบนช่วงเวลาที่ต่างกัน ทำให้นักวิจัยทราบว่าไดโนเสาร์นั้นมีอุณภูมิร่างกายค่อนข้างคงที่ มีขึ้นลงบ้างประมาณ 1 ถึง 2 องศาเซลเซียส เท่านั้น(ซึ่งถ้าเป็นสัตว์เลือดเย็น อุณหภูมิร่างกายจะมีการขึ้นลงมากกว่านี้มาก) ด้วยวิธีนี้ทำให้เราทราบอุณหภูมิร่างกาย ของสัตว์ที่สูญพันธ์ไปแล้วกว่า 150 ล้านปีได้
  • ในไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ อย่าง Sauropod มักจะมีความร้อนสะสมในร่างกาย เนื่องจากมีร่างกายใหญ่ เนื้อ และผิวหนังที่หนาจะเสมือนเป็นฉนวนความร้อนห่อหุ้มร่างกาย ทำให้เกิดความร้อนสะสมภายในร่างกาย(เหมือนการห่มผ้านวมหนาๆหลายๆชั้นย่อมทำให้ร่างกายร้อนขึ้น)
  • แต่ปริศนานั้นก็ยังไม่คลี่คลายทั้งหมด เนื่องจาก ในเมื่อค้นพบขบวนการที่ไดโนเสาร์ทำให้ร่างกายร้อนแล้ว แต่ยังไม่ค้นพบขบวนการที่พวกมันควบคุมให้อุณหภูมิลดลง(เพราะถ้าร้อนขึ้นอย่างเดียวภายในของไดโนเสาร์คงร้อนจนสุก)
  • ร่างกายลดลง บางทีอาจจะใช้ขบวนการลดอัตราการย่อยอาหาร(Metabolic) หรือ ใช้การกระจายความร้อนโดยใช้ลมที่พัดผ่านร่างกาย
  • ด้วยวิธีข้างต้นทำให้นักวิจัยพบว่าไดโนเสาร์ Brachiosaurus นั้นมีอุณหภูมิร่างกายประมาณ 38.2 องศาเซลเซียส และไดโนเสาร์ Camarasaurus มีอุณหภูมิร่างกายประมาณ 35.7 องศาเซลเซียส
  • ตอนนี้นักวิจัยก็เหลือเพียงการวิเคราะห์ ไดโนเสาร์ ขนาดเล็กที่ไม่มีความร้อนสะสมในร่างกายเหมือนไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ ถ้าพบว่าพวกมันมีอุณหภูมิร่างกายสูง ก็จะสามารถชี้ชัดไปได้ว่าไดโนเสาร์เป็นสัตว์เลือดอุ่น
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2007613/Dinosaurs-hot-blooded-creatures-claim-scientists-measured-body-temperatures-time.html

ท่าแกล้งตาย OUT แล้ว



เมื่อไม่นานมานี้(ปี 2011) มีกระแสการถ่ายรูปด้วยท่าแกล้งตาย(planking) โดยการนอนทำตัวแข็งทื่อ คว่ำหน้า ตามสถานที่ต่างยิ่งไปนอนในสถานที่เสี่ยงเขาว่ายิ่งเท่ห์ซะไม่มี แล้วถ่ายรูปไปโชว์เพื่อนๆ แต่อะไรที่มันเป็นแฟชั่นมันก็มาเร็วไปเร็ว ตอนนี้มีท่าใหม่ที่กำลังมาแรงสุด ที่เรียกว่า ท่านกฮูก(Owling) โดยการนั่งยองๆ เหมือนนกฮูกเกาะกิ่งไม้
อย่างไรก็ระวังเรื่องความปลอดภัย ในการถ่ายรูปด้วยนะครับ
ทั้งท่าแกล้งตาย และท่านกฮูก เท่ห์มันกินไม่ได้แต่ตายได้นะ
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2015034/Owling-new-planking-New-crouching-craze-springs-internet.html

คางคง สีรุ้ง



พวกมันเป็น คางคก ที่หายากยิ่งหลังจากที่มีการค้นพบพวกมันเมื่อปี 1924(กว่า 90 ปีล่วงมาแล้ว) ก็ไม่มีการค้นพบพวกมันอีก และภาพนี้คือภาพถ่ายภาพแรกของพวกมัน

รายละเอียด

  • พวกมันมีชื่อเรียกว่า Sambas stream toad หรือ คางคกสีรุ้งบอร์เบียว(Bornean rainbow toad)
  • พวกมันเป็น คางคกที่มีสีสันสวยงาม มีขายาว มีความยาว 5.1 เซ็นติเมตร พบได้ที่เกาะบอร์เนียว ประเทศมาเลย์เซีย (ตำแหน่งที่มีการค้นพบที่แน่นอนไม่เป็นที่เปิดเผย เนื่องจากเกรงกลัว จะมีคนเข้าไปล่าเพื่อนำออกมาขาย)
  • การค้นพบนี้เป็นผลงานของ Conservation International's (CI)

ภาพเต็มตัว

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2014829/Elusive-rainbow-toad-photographed-colour-time-century-hiding.html

เต่าเอวคอด



เห็นภาพนี้อย่าพึ่งคิดว่าวันนี้ wowboom นำสัตว์แปลกๆมาใช้ดูกัน
แต่
มันเป็นเพียงน้อยเต่าโชคร้าย ที่ตอนละอ่อนว่ายเข้าไปติดในห่วงพลาสติก เมื่อมันโตขึ้นห่วงพลาสติกมันไม่กินข้าวมันจึงไม่โตตามตัวน้องเต่า มันจึงเริ่มบาดลึกเข้าสู่กระดอง จนน้องเต่าตัวแทบขาด


ส่วนภาพนี้คือ ขยะที่พบในท้องของเต่า(1ตัว)ที่ตายเกยอยู่ที่ เกาะฮาวาย
วันนี้คุณไปทะเล ยังจะทิ้งขยะไม่เป็นที่กันอีกหรือเปล่า ?
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2014849/Victim-great-garbage-patch.html

เตาผิง



มีเรื่องแปลกอยู่ว่า เมื่อทำการจุดเตาผิง ในฤดูหนาวอุณหภูมิโดยรวมของบ้านจะเย็นลง

รายละเอียด

  • ฟังดูแล้วมันแปลก ทำไมเตาผิงถึงทำให้บ้านเย็น
  • แน่นอนถ้าคุณนั่งผิงไฟ อยู่ข้างเตาผิงภายในบ้านความร้อนจากไฟจะทำให้คุณอุ่น
  • แต่โดยธรรมชาติของ ความร้อนจะลอยขึ้นสู่ที่สูง ฉะนั้นความร้อนจากเตาผิงจะลอยขึ้นไปตามปล่องควัน
  • เมื่ออากาศบางส่วนลอยออกไปทางปล่องควัน อากาศหนาวจากภายนอกจะถูกดึงเข้ามาตามรอยรั่วต่างๆ รอบๆบ้าน
  • ฉะนั้นความร้อนส่วนใหญ่จากเผาผิงจะลอยออกไปทางปล่องควัน แต่อากาศหนาวภายนอกจะถูกดึงเข้ามาในบ้านแทนที่อากาศส่วนที่หายไปตามรอยรั่วต่างๆรอบๆบ้าน ทำให้อากาศโดยรวมในบ้านจะเย็นลง
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.yourdiscovery.com/web/mythbusters/games/quizzes/winter-myths/

สีชมพู
  • สองหนูน้อย Noah Battelley และ Meg Willis ไปพบตั๊กแตนสีชมพู 2 ตัว ใน west Norfolk ในบริเวณที่พึ่งเกิดไฟป่าในเขตอนุรักษ์
  • ผู้เชี่ยวชาญ นามว่า Matt Shardlow จาก conservation group Buglife กล่าวว่า ตั๊กแตนสีชมพูนั้นเกิดจาก พันธุ์กรรมผิดปกติ คุณมีโอกาสพบเห็นพบมันได้
  • พันธุ์กรรมสีชมพูนั้นมีอยู่ ตั๊กแตนตามธรรมชาิต แต่ยังไม่สามารถไขปริศนาว่า ทำไมพวกมันถึงวิวัฒนาการมาเช่น มันมีประโยชน์อะไรสำหรับตั๊กแตน
บทความที่เกี่ยวข้อง


ข้อมูลอ้าอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2014441/They-tickled-pink-Seven-year-old-friends-discover-pair-rare-coloured-grasshoppers-devastated-nature-reserve.html

หุ่นยนต์ ที่มี กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และ ปัญญาประดิษฐ์



ใกล้ความจริงเข้าไปอีกขั้น เมื่อ นักวิทยาศาสตร์ ได้สร้างหุ่นยนต์ ที่ มีระบบกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้มันสามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดจากสิ่งที่ทำในอดีต

รายละเอียด

  • หุ่นยนต์ ตัวนี้ถูกสร้างให้มีสรีระเลียนแบบมนุษย์ ยกเว้นมันมีตาแค่ดวงเดียว มีโครงสร้างเลียนแบบระบบกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และกระดูก ที่ทำจากพลาสติก เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้ใกล้เคียงมนุษย์
  • หุ่นยนต์ ตัวนี้มีชื่อว่า Ecci ที่ได้รับการพัฒนาโดย นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยลัยซูริช(University of Zurich)
  • โดยชื่อ Ecci นี้เป็นชื่อย่อมาจากคำว่า Eccerobot โดยคำว่า “Ecce” นั้นมาจากภาษาลาติน ที่มีความหมายว่า ดูนั้น(Behold หรือ Lo)
  • Ecci ใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ในการขยับเส้นเอ็น เพื่อทำให้หุ่นยนต์เคลื่อนไหว
  • แต่สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดนั้นไม่ใช่ กล้ามเนื้อ หรือ เส้นเอ็นพลาสติก แต่ เป็น สมองกลของ Ecci ที่มีความสามารถในการเรียนรู้จากสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต ยกตัวอย่างเช่น ถ้า Ecci ถือสิ่งของอยู่แล้วเกิดเหตุทำสิ่งของตก ระบบสมองกลจะวิเคราะห์ถึงข้อมูลในการเคลื่อนไหวที่ผ่าน ที่น่าจะนำไปสู่ความผิดพลาด แล้วทำการปรับแก้ข้อมูลการเคลื่อนไหวใหม่ให้ดียิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดเหตุทำสิ่งของตกอีกในครั้งต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2007740/Ecci-worlds-advanced-robot-muscles-tendons--ability-correct-mistakes.html

โรงแรมสุดฮิพ ใช้ หุ่นยนต์ แทน เด็กยกกระเป๋า



ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป ว่าจะให้ทิปเหล่าพนักงานยกกระเป๋า(Bellboy) น้อยไป หรือ มากไปอีกต่อไป ถ้าคุณไปพักที่โรงแรมโยเทล(Yotel)

รายละเอียด

  • หมดปัญหาเรื่องการให้ ทิป ไม่ต้องกลัวของหาย เนื่องจากโรงแรมโยเทล ในนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เนื่องจากทางโรงแรมได้นำ หุ่นยนต์ เข้ามาแทนที่ มนุษย์
  • ด้านหน้าของโรงแรมโยเทล มีแขนกลสูง 20 ฟุต(6 เมตร) ที่จะนำกระเป๋าเดินทางไปเก็บในตู้ล็อคเกอร์ให้อัตโนมัติ สำหรับ แขกที่ต้องการออกไปเที่ยวชมเมืองนิวยอร์ค
  • ห้องพักของโรงแรมโยเทล นั้นถูกออกแบบโดยนักออกแบบอากาศยาน ที่มีหลักในการออกแบบให้ห้องพักแลดูใหญ่กว่าความเป็นจริง(ห้องพักมีขนาด 15.3 ตารางเมตร) โดยการออกแบบเป็นการรวมกันระหว่าง แนวคิดการออกแบบพื้นที่ใช้สอยแบบบนเครื่องบิน กับ โรงแรมแคปซูล ไว้ด้วยกัน
  • ในห้องพักมีห้องน้ำ แต่ไม่มีอ่างอาบน้ำเพื่อลดพื้นที่ โซฟานั้นสามารถแปลงร่างเป็นที่นอนได้โดยการกดปุ่ม
  • เจ้าของโรงแรมโยเทล กล่าวว่ากลุ่มลูกค้าของโยเทล นั้นคือ “ผู้ที่มีหัวใจวัยรุ่น” และคาดว่ารูปแบบที่โยเทลได้นำเสนอไว้นี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนในอุตสาหกรรมโรงแรม เหมือนที่ iPad ได้ทำมาแล้วในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์
  • โรงแรมโยเทล เป็นโรงแรมในสนามบิน เปิดครั้งแรกในปี 2007 ที่สนามบินHeathrow ในลอนดอน และแห่งที่สองในสนามบิน Gatwick และแห่งที่สามที่สนามบิน Schiphol ในอัมสเตอร์ดัม ทำให้โยเทลนิวยอร์คเป็นแห่งแรกที่ไม่อยู่ในสนามบิน และไม่ได้ก่อสร้างในยุโรป
คลังภาพภายในห้องพักโรงแรมโยเทล


ด้วยหลักการออกแบบให้ห้องพักดูโปร่งสบายกว่าความเป็นจริง


มุมหน้าห้องน้ำมีอ่างล้างมือ และตู้เก็บของเล็กๆน้อยๆ


แปลห้องพัก และอุปกรณ์ประกอบต่างภายในห้อง

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-1374845/Yotel-New-Yorks-newest--smallest--luxury-hotel.html
  • http://www.dailymail.co.uk/travel/article-2007670/New-York-Yotel-introduces-robotic-bell-boy.html

กล้องขนาดเล็ก จนสามารถกลืนลงคอได้



กล้องจิ๋ว ขนาดเล็กที่ใช้ในการถ่ายภาพระบบทางเดินอาหารจากภายในร่างกายมนุษย์นั้นมีมานานแล้ว แต่พวกมันมีข้อด้อยสำคัญคือ พวกมันเคลือนที่ไปตามการบีดรัดตัวของกล้ามเนื้อ ทำให้บางครั้งไม่สามารถถ่ายภาพบริเวณที่ต้องการ หรือถ้าถ่ายได้ก็เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น

รายละเอียด

  • จึงได้มีการประดิษฐ์กล้องจิ๋วชนิดใหม่ที่มีลักษระเป็นแค็ปซูลขนาดเล็กจนสามารถกลืนได้ ที่ชื่อว่านางเงือก
  • แต่ต้องขอบคุณทีมวิจัย จากวิทยาลัยทางการแพทย์โอซาก้า(Osaka Medical College) นำทีมวิจัยโดยนาย Kazuhide Higuchi ที่ได้ทำการเพิ่ม ครีบหางพลังงานสนามแม่เหล็ก(Magnetic field-power) ให้แก่กล้องนางเงือก
  • ครีบจิ๋วเพิ่มเข้านี้จะช่วยให้ กล้องนางเงือก สามารถ ทำการว่ายวนยังตำแหน่งที่ต้องการ เพื่อส่งภาพมายังแพทย์ที่ควบคุมแบบไร้สายอยู่ภายนอกร่างกาย เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยได้อย่างละเอียดแม่นยำยิ่งขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2007341/The-submarine-endoscope-swim-entire-human-digestive-tract.html

คลังบทความ wowboom

เพื่อนๆ wowboom