คนสุดขีดนักกล้ามหญิงปลาน้ำลึกรถแต่งซิ่ง7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกสิ่งก่อสร้างสุดขีดพับกระดาษสมุดระบายสี

ลิงยักษ์


หากคุณเคยคิดว่า คิงคองคือลิงไร้หางที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนั้นคุณอาจต้องเปลี่ยนความคิดนั้นเมื่อได้พบกับ พญาวานรบาบูน(Baboon) ที่ได้ทุบทำลายรถของครอบครัว Chez ในสวนสัตว์ Knowsley Safari Park ในเมือง Merseyside ประเทศอังกฤษ หรือ เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่อง จูลาสสิคพาร์ค จะเป็นความจริง ที่ทางสวนสัตว์แอบทำการทดลองลับ ตัดต่อพันธุ์กรรม ........

ภาพที่เห็นนี้คือ รถของครอบครัว Chez
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
ความจริง ลิงบาบูนยืนอยู่บน กระจกหน้ารถของ ครอบครัว Chez นายโอเวนเป็นคนถ่ายภาพจากภายในรถของเขาเอง แต่เมื่อเขากลับมาดูภาพ มุมกล้องที่พอเหมาะพอดี ท่าทางของลิง และรถคันหน้า ทั้งหลายทำให้ภาพนี้ออกมาดูเหมือน ลิงธรรมดา จะดูตัวใหญ่ยักษ์ขึ้นมาจนกลายเป็น พญาวานร ซะงั้น

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-1370559/Chez-Owens-baboon-photo-captures-optical-illusion-King-Kong-crushing-car.html

คัมภีร์โลหะโบราณ


เหล่านักโบราณคดีกล่าวว่า คัมภีร์โลหะ นี้ล้ำค่า และเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อยไปกว่าการค้นพบ เดธซีสคอร์ล( the Dead Sea Scrolls) ความลับบางประการในช่วงต้นของ คริสตกาล อาจจะได้รับการปลดล็อค จากเนื้อหาที่บรรจุอยู่ใน คัมภีร์โลหะ เหล่านี้

รายละเอียด

  • คัมภีร์โลหะ นี้ สร้างจากแผ่นโลหะขนาดไม่ใหญ่ไปกว่า บัตรเครดิต เย็บโดยการคล้องด้วยเส้นลวด
  • ผู้เชี่ยวชาญ คาดว่า คัมภีร์โลหะนี้คงเป็นบางส่วนที่ขาดหายไปของจารึกโบราณ ที่ใช้อ้างอิงใน คัมภีร์ไบเบิลวิวรณ์ (the Bible's Book Of Revelation)
  • ภายในคัมภีร์แต่ละแผ่น จะประกอบไปด้วย รูปภาพ สัญลักษณ์ และตัวอักษรที่เข้ารหัส ทำให้ยังไม่ทราบถึงเนื้อหาภายใน แต่ก็คาดว่าคงกล่าวถึง พระผู้เป็นเจ้า เหตุการณ์ตรึงกางเขน(Crucifixion) เหตุการณ์ฟื้นคืนชีพของพระเยซู(Resurrection)
  • คัมภีร์โลหะ นี้เป็นสมบัติตกทอดกันมาในตระกูล Hassan Saeda ที่เป็นชาวไร่ที่ปู่ทวดของเขาค้นพบ คัมภีร์เหล่านี้ภายใน ถ้ำเมื่อกว่า 100 ปีล่วงมาแล้ว ภายในถ้ำที่ห่างไกลของ จอร์แดน(Jordan) ในบริเวณชาวคริสเตียนใช้ในการหลบหนีเมื่อครั้ง กรุงเยรูซาเล็มล่มสลาย เมื่อ 70 ปีหลังคริสตกาล (ในบริเวณดังกล่าวมีการค้นพบเอกสารสำคัญ ในช่วงต้นคริสตกาล)
  • จากการตรวจสอบอายุ ของ คัมภีร์เหล็ก ในเบื้องต้นพบว่า คัมภีร์ มีอายุอยู่ในช่วงต้นของคริสตกาล ซึ่งอาจจะทันช่วงปีท้ายที่พระเยซูยังคงมีพระชนม์ชีพอยู่
  • การตรวจสอบเบื้องต้นใช้การประเมิน สภาพการกัดกร่อน ของแผ่นโลหะ ซึ่งไม่อาจทำการปลอมแปลงได้
  • และหากอายุของคัมภีร์โลหะนี้ได้รับการยืนยันว่าถูกต้อง เป็นไปตามที่ประเมินแล้ว คัมภีร์เหล็กนี้จะเก่าแก่กว่างานเขียนของเซนต์จอร์น(St Paul) เสียอีก
ภายในมีปรากฏเป็น รูปภาพ สัญลักษณ์ และตัวอักษร

ถ้ำที่เป็น สถานที่ค้นพบ คัมภีร์โลหะ


  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1371290/Could-biggest-Dead-Sea-Scrolls-70-metal-books-cave-Jordan-change-view-Biblical-history.html

ตำรวจเขาต้องอย่างนี้

รถหุ้มทองคำคันนี้ จอดอยู่ริมถนนในเมือง Nanijing ในมณฑล Jiangsu ในพื้นที่ห้ามจอดรถ คุณคิดว่าถ้าเป็นเมืองไทย เหตุการณ์จะจบลงอย่างไร? ผมไม่รู้แต่ผมรู้อย่าง 1 ว่ามันไม่จบอย่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองจีนกระทำแน่ๆ
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v

ประทับใจผมมากๆ ตำรวจเขาไม่กลัวเมื่อพบผู้กระทำผิดกฎหมาย ไม่กลัวตอ นับถือๆ : )
จอดในที่ห้ามจอด ก็ต้องโดนลาก ตามระเบียบจีน แต่ไม่รู้ว่าถ้าตามระเบียบไทยจะเป็นอย่างไรเหมือนกัน

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.chinadaily.com.cn/photo/2011-03/30/content_12249291_2.htm

ดินน้ำมัน


เมื่อกล่าวถึงดินน้ำมัน ก็ต้องบอกว่าไม่ได้เล่นมานานมากแล้ว สำหรับรูปทรงในการปั้นดินน้ำมันพื้นฐานที่สุดก็คือ ปั้นงู โดยการคลึงดินน้ำมันด้วยฝ่ามือบนพื้นไล่ไปเรื่อยๆจนดินน้ำมันเรียวยาวได้รูปทราง ก็นำมาขดเป็นวง นำส่วนหัวชูขึ้น ใช้เล็บจีกส่วนปลายให้เป็นปาก แต่ สำหรับบางคนเขาบอกว่าปั้นงูนั้นเด็กๆ มันต้องปั้นเป็นรถ Scale 1:1 ถึงจะเจ๋ง(ดังภาพ)


รายละเอียด

  • ภาพจั่วหัวที่เห็นนี้เป็น โมเดลรถยี่ห้อ Chevrolet รุ่น Orlandoที่ปั้นโดยดินน้ำมัน(Play-Doh)
  • โมเดลนี้ใช้ดินน้ำมันรวมกันหนัก 1.5 ตัน (คิดเป็นเงินค่าดินน้ำมันประมาณ 6,000 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยก็ 3 แสน)
  • ใช้นักปั้น 8 คน กับเวลาในการปั้น 2 อาทิตย์
  • ถ้าอยากไปชมโมเดลนี้ด้วยตาตัวเอง ต้องบินไปอังกฤษ โมเดลนี้จอดอยู่ข้าง Lakeside shopping centre
  • ในกรุงลอนดอน(London) แต่ต้องรีบหน่อยนะเพราะจะตั้งโชว์ถึงอาทิตย์หน้าเท่านั้น
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-1364634/Do-like-soft-Chrysler-launch-new-car-model-Play-doh-0-60-um--.html

เกาะสวรรค์



ภาพที่เห็นนี้ งดงาม ดั่งเกาะสวรรค์ เกาะหินสีขาวสะอาด มีแอ่งน้ำสีฟ้าสด ความงดงามนี้ดุจดั่งเกาะสวรรค์ บนพื้นพิภพก็ไม่ปาน

รายละเอียด

  • เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ภายในหมู่หมู่เกาะกาลาปากอส(Galapagos Islands) ประเทศเอกวาดอร์(Ecuador)
  • เกาะแห่งนี้เป็นเกาะหิน มีลักษณะเป็นอ่างน้ำกร่อยสีฟ้าสดใสอยู่ภายในเกาะ
  • เกาะมีลักษณะไม่สมมาตร อันเนื่องมาจากคลื่นลม
  • บนเกาะนั้นเต็มไปด้วยชีวิต โดยเฉพาะแอ่งน้ำกร่อยสีส้าสด นั้นเป็นที่ชื่นชอบนักของนก ฟลามิงโก(flamingos)
  • นกฟลามิงโก เป็นนกขนาดใหญ่ มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือ ขนสีชมพูถึงส้มสดใส พวกมัน กิน ปลา กุ้ง เป็นอาหาร นกฟลามิงโกนั้นไม่ได้มีสีชมพูมาตั้งแต่เกิดแต่เกิดจาก การที่พวกมันได้รับ โปรทีนcarotenoin จากอาหารที่พวกมันกิน โดยโปรทีนจะแตกตัวเป็นเม็ดสีไปอาศัยอยู่ในเอนไซม์(Enzyme)
  • ด้วยเหตุนี้เมื่อพวกมันตายลงสีจะซีดจางลง ไม่เหลือความสดใสอีก ทำให้พวกมันรอดพ้นจากมนุษย์ในการล่าเพื่อนำขนมาเป็นเครื่องประดับ

จะเห็นลูกน้อยของ นกฟลามิงโก ที่ซุกอยู่ใต้ปีกของแม่นก ว่าขนนั้นเป็นสีขาว

  • http://twistedsifter.com/2011/01/picture-of-the-day-the-blue-lagoon-ecuador/
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Flamingo

มงกุฎหนาม



มงกุฎหนาม นี้ถูกใช้สวมใส่ในครั้งที่พระเยซูถูกตรึงกางเขน เป็นเป็นการทรมาน หนามของมงกุฎหนาม นี้เต็มไปด้วยเรื่องราว และประวัติ แต่ ในทางตรงกันข้างกับมีหลักฐานเพียงน้อยนิดในการยืนยันประวัิติความเป็มเป็นมาของมัน

ประวัติ ของ หนามของมงกุฎหนาม

  • มงกุฎหนาม ถูกปล้น จากกรุงคอนสแตนติโนเปิล (Comstantinople ซึ่งเป็นเมืองหลวงของโรมัน) ในสงครามครูเสด ครั้งที่ 4 เมื่อราวปี ค.ศ.1200
  • ต่อมา มงกุฎหนาม ถูกนำมาขายต่อให้ แด่ พระเจ้าหลุยส์ ที่ 4 ของฝรั่งเศล ขณะที่พระองค์พำนักอยู่ที่เวนิส(Venice)
  • พระเจ้าหลุยส์ที่4 ทรงสร้างโบสถ์นักบุญ(Saint Chapel) เพื่อเก็บรักษา มงกุฎ ล้ำค่านี้ไว้
  • ต่อมา พระเจ้าหลุยส์ที่4 ได้ทำการหักแบ่ง ส่วน หนาม บางส่วนออกจากมงกุฎ เพื่อ มอบให้แก่ผู้แต่งงานเข้าสู่ราชวงศ์ของพระองค์ เพื่อเป็นของกำนัล
  • หนามของมงกุฎหนาม ส่วน นี้เป็นของ ควีนเมรี่แห่งสกอตส์ ที่ได้รับเมื่อครั้งแต่งงาน กับราชวงศ์ฝรั่งเศล
  • และเมื่อถึงเหตุการณ์ ปฏิวัติในฝรั่งเศล ในปี 1587 หนามของมงกุฎหนาม นี้ถูกสิ่งมอบให้แก่ข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ นามว่า Thomas Percy ก่อนที่พระนางจะถูกบั่นคอ ณ ปราสาท Fotheringhay Castle เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 1587
  • หนามของมงกุฎหนาม นี้ได้ถูกส่งต่อรุ่นต่อรุ่นในตระกูล จาก Thomas Percy สู่ลูกสาวนามว่าElizabeth Woodruff
  • ในเวลาต่อมา Elizabeth Woodruff ได้กระทำบาปบางอย่าง จำไปสารภาพบาทต่อบาทหลวง และได้มอบ หนามของมงกุฎหนาม ให้ แด่ บาทหลวงที่เธอสารภาพบาป ในช่วงปี ค.ศ.1600
  • บาทหลวง ได้นำ หนามของมงกุฎหนาม นี้ไปเก็บรักษาไว้ที่ วิทยาลัย Stonyhurst College หมู่บ้าน Clitheroe เมือง Lancashire จนถึงปัจจุบันนี้ wowboom
  • โดยทุกๆปีในวันสัปดาห์ศักธิ์สิทธิ์ หนามของมงกุฎหนาม จะถูกนำไปให้ คริสนิกชน ได้สักการบูชา ณ โบสถ์ Stonyhurst
  • ต่อมา ทายาทรุ่นที่ 6 ของวิทยาลัย ได้รับการติดต่อ พิพิธภัณฑ์บริติส เพื่อนำ หนามของมงกุฎหนาม ไปจัดแสดง ณ กรุงลอนดอน ในนิทรรศการ สมบัติจากสวรรค์(Treasures of Heaven) โดยภายในนิทศการนี้ จะมีกาารจัดแสดง สมบัติศักธิ์สิทธิ์ จากเหล่านักบุญ และ พระเยซู จากทั่วยุโรป

ซ้าย : ภาพซูมหนามของมงกุฎ จะเห็นว่าบางส่วนมีการนำมุก มาถักรอบ
ขวา : ภาพจากภาพยนตร์ ตอนที่พระเยซู ถูกตรึงกางเขน จะเห็นได้ว่าที่พระเศียร จะถูกสวมด้วยมงกุฎหนามเพื่อ ทรมาน พระองค์

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-1369424/Jesuss-Crown-Thorns-goes-display-British-Museum.html

มิสเตอร์ยางยืด



Mr.Elastic มิสเตอร์ยางยืด เห็นภาพแล้วต้องบอกว่าน่ากลัว เมื่อเขาคนนี้หมุนเท้ากลับไปด้านหลัง แถมด้วยยังสามารถเดินเตาะแตะไปอีกด้วย


รายละเอียด


  • มิสเตอร์ยางยืด คนนี้มีนามว่า มอสส์ เลนแฮม(Moses Lanham) วัย 49 ปี (เมื่อปี 2011)
  • มิสเตอร์ยางยืด มีความสามารถหมุนเท้ากลับไปด้านหลังได้ 120 องศา และฝันว่าซักวันจะได้รับการบันทึกสถิติลงกินเนสบุ๊คให้ได้ โดยหวังจะสร้างสถิติ เดินโดยหมุนเท้าไปด้านหลัง 20 เมตร เร็วที่สุดในโลก
  • มิสเตอร์ยางยืด กล่าวว่าเขานั้นไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรขณะบิดขาไปด้านหลัง แถมเวลานั่งนานเขายังชอบที่จะหมุนขาไปด้านหลังเนื่องจากเขาบอกว่ามันสบายกว่านั่งปกติ
  • มิสเตอร์ยางยืด บอกว่ารู้สึกเสียใจที่ลูก นั้นไม่ได้รับการถ่ายทดความสามารถพิเศษนี้โดยสมบูรณ์ คือเขาบิดเท้าได้ไม่มากเท่าตนเอง แถมลูกยังรู้สึกเจ็บปวดขณะบิดเท้า ถ้าลูกมีความสามารถเหมือนเขาเขากะจะเกษียณมาเป็นผู้จัดการให้ลูกออกแสดงโชว์ซะหน่อย
  • มิสเตอร์ยางยืด ค้นพบความสามารถพิเศษ สุดพิศดารนี้เมื่อครั้งยังเรียนไฮสคูล ตอนอายุ 14 ขวบ ขณะวิชาพละ ที่เขากำลังปีนเชือก แล้วเกิดพลัดตกลงมาจากความสูง 5.4 เมตร โดยเอาขาลง เพื่อนคิดว่าเขาขาหักเนื่องจาก ขาได้บิดผิดรูปไป แต่เขานั้นไม่เจ็บปวดอะไร
  • แพทย์กล่าวว่า การที่มิสเตอร์ยางยืด มีความสามารถพิเศษนี้ เป็นผลมาจากการที่เขามี เนื้อเยื่อ และกระดูกอ่อนที่มีความยืดหยุ่นเป็ฯพิเศษ ในข้อต่อในสะโพก หัวเข่า และข้อเท้า
  • เขากลายเป็นคนดังไปแล้วด้วยความสามารถพิเศษ เมื่อได้ออกรายการทีวีมากมายเช่น Candid Camera', 'Ripley's Believe It or Not!', 'America's Funniest Home Videos', 'Jimmy Kimmel Live' and the Discovery Channel's 'Medical Incredible' เป็นต้น
คลังภาพ



คุณทำได้หรือเปล่าหมุนหัวแม่เท้ามาชนกันอย่างนี้ แต่ มิสเตอร์ยางยืดทำได้


เมื่อใส่เสื้อ กางเกง กลับด้านซะหน่อย ก็แลดูเหมือนเขา สามารถหมุนคอไปได้หลังได้ ทำให้ผมนึกถึง บทความ มนุษย์นกฮูก ว่า มนุษย์นกฮูกที่ว่ากันว่ามีความสามารถหมุนคอกลับหลังได้ อาจจะใช้ ทริก นี้หรือเปล่า


นาย Martin Joe Laurello หรือชื่อจริง Martin Emmerling เป็นชาวเยอรมัน เป็นนักแสดงละครสัตว์ในอดีตที่มีฉายาว่า มนุษย์นกฮูก ที่มีความสามารถในการหมุนคอกลับหลังได้
อ่านบทความ มนุษย์นกฮูก คลิกที่นี้

อ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-1369918/One-small-step-man-Mr-Elastic-Moses-Lanham-goes-Guinness-world-record-incredible-bendy-feet.html

ถ้ำหินปูน ใหญ่ยักษ์ สุดงดงาม



Son Doong cave ถ้ำซันดอง เป็น ถ้ำที่เกิดจากกระแสน้ำที่ไหลกัดเซาะอยู่เบื้องล่าง จนก่อเกิดเป็น อภิมหาสภาพแวดล้อมที่น่าตื่นตาตื่นใจนัก ตัวอย่างเช่น ในถ้ำแห่งนี้มีผืนป่า เป็นของตัวเอง หินงอกหินย้อย อ่างไข่มุกถ้ำ เป็นต้น


รายละเอียด

  • ถ้ำซันดอง(Son Doong cave หรือในภาษาเวียดนามว่า Hang Sơn Đoòng ซี่งมีความหมายว่า ถ้าขุนเขาแม่น้ำ"Mountain River Cave")
  • ถ้ำซันดอง นี้ตั้งอยู่ อุทยานแห่งชาติ Phong Nha-Ke Bang เขตBo Trach จังหวัดQuang Binh ประเทศเวียดนาม
  • ถ้ำนี้ตั้งอยู่ใกล้พรมแดนระหว่างประเทศเวียดนาม กับ ลาว
  • ถ้านี้เป็นถ้ำที่เกิดจาก แม่น้ำใต้ดิน และยังคงมีน้ำไหลอยู่ ทำให้การสำรวจทำได้เฉพาะใน ฤดูแล้วเท่านั้น
  • ถ้ำนี้ถูกค้นพบโดย ชาวบ้าน ชื่อว่า Hồ-Khanh ในปี ค.ศ. 1991
  • เหล่าพราน และคนท้องถิ่นต่างหวาดกลัวต่อถ้ำนี้ยิ่งนัก อันเนื่องมาจากเสียง ปริศนา ภายในถ้ำ(เสียงนี้เกิดจาก น้ำที่ไหลอยู่ภายในถ้ำ)
  • ถ้ำนี้เป็นที่รู้จักของ สาธารณชนเมื่อปี ค.ศ. 2009 เมื่อคณะนักวิทยาศาสตร์ นักสำรวจชาวอังกฤษ ที่นำโดย Howard และ Deb Limbert
  • คณะสำรวจรายงานว่า ถ้ำนี้ใหญ่กว่าถ้ำ Phong Nha ที่ก่อนหน้านี้เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ถึง 4 เท่า
  • โดยโถงที่ใหญ่ที่สุดภายในถ้ำซันดองนี้ ยาวกว่า 4,000 เมตร กว้างกว่า 200 เมตร และสูงกว่า 150 เมตร
คลังภาพ



หนึ่งในความงดงาม ภายในถ้ำซันดอง กับ อ่างตะไคร่


ภายในถ้ำมีอ่าง ไข่มุกถ้ำ ที่เหือดแห้ง ให้พบเห็นดังภาพ


เพดานถ้ำที่ถล่มในอดีต ทำให้แสงอาทิตย์สาดส่องถึงพื้นถ้ำเบื้องล่างก่อให้เกิดเป็น ผืนป่าภายในถ้ำ


ผนังถ้ำบางส่วนมีลวดลายดั่ง กระแสน้ำตก ที่ไหลรินลงสู่เบื้องล่าง ก็ไม่ปาน


ส่วนนี้ของถ้ำซันดอง มีชื่อว่า สวนกระบองเพชร(Cactus Garden)

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://twistedsifter.com/2011/01/picture-of-the-day-cave-stalagmites-vietnam/
  • http://news.nationalgeographic.com/news/2009/07/090724-biggest-cave-vietnam/

บ็อกๆๆๆ......... แกะๆๆๆ........



ชาวไร่ชาวจีน นามว่า Liu Naiying จากมณฑลส่านซี (Shaanxi) นำลูกแกะที่เหมือนลูกหมา หรือลูกหมาที่คล้ายลูกแกะ ออกมาโชว์ว่า มันคือ หมา ที่ คลอดออกมาจากแม่แกะ จริงไม่ได้ไม้


รายละเอีดย

  • นาย Liu กล่าวว่า มันมีขนเหมือนแกะ แต่ ตา จมูก ปาก หาง และอุ้งเท้า เหมือน หมา และดูยังไงๆ มันก็ลูกหมา มากกว่า ลูกแกะ เขาเลี้ยงแกะ มากว่า 20 ปี ไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อน
  • นาย Liu กล่าวว่าเขาเห็นกับตาว่าแม่แกะ คลอดมันออกมาตกตุ๊บลงบนพื้นหญ้า เมื่อเขาเดินเข้าไปดูไกล ก็ต้องร้อง อ้ายหยา นี้ มันลูกหมาหนี่หว่า
  • นาย Liu ยังกล่าวว่า ลูกแกะประหลาดตัวนี้ยังมีพฤติกรรมการเล่น เหมือน พวกสัตว์ล่าเนื้อ
  • นาย Yue Guozhang นักวิจัยจาก Xi'an City Animal Husbandry Technology Centre กล่าวว่า หมา กับ แกะ เป็นสัตว์คนละสปีซี่เป็นไปไม่ได้ที่ แกะ จะออกลูกมาเป็นหมา มันเหมือนจะเป็น ลูกแกะพิการ มากกว่า

ผมสับสนไปหมดแล้ว ว่าตกลงผมเป็นอะไร แกะๆๆๆ.....บ็อกๆๆๆ

ข้อมูลอ้างอิง
  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1369977/Sheep-gives-birth-dog-Chinese-farm-Ewe-got-kidding.html

หมีขาว คนุท



Knut คนุท หมีขาวอาภัพ เกิดมาแม่ก็ไม่รัก เดือดร้อนมนุษย์ต้องเข้าไปอุ้มชูเลี้ยงดูแทนแม่ ด้วยขนสีขาวนัยน์ตาดำขลับน่ารักน่าชัง จึงทำให้มันเป็นดาวเด่นประจำสวนสัตว์เบอร์ลิน และพึ่งเป็นข่าวคลึกโครมเมื่อ 19 มีนาคม 2011 เมื่อมันตายลงอย่างกะทันหัน ต่อหน้าต่อตานักท่องเที่ยว แล้วก็เงียบหายไปเหมือนเสียงประทัด

(ปล. เฉพาะในเมืองไทย ผมไม่ชอบการนำเสนอข่าวของบ้านเมืองเรา ก็ตรงนี้ดีแต่นำเสนอเหตุการณ์ แต่ผลสรุปไม่เคยนั้นไม่เคยได้ติดตามมานำเสนอกันเลย ข่าวของ คนุท นั้นดังจาก รายการเล่าข่าวตอนเช้านำ คลิปมาเล่นออกอากาศ ถ้าไม่มีรายการนี้คงไม่มีใครสนใจข่าวนี้แน่นอน)

ภาพจั่วหัวคือภาพ คนุท ภ่ายเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2007

ผลการชันสูตรเบื้องต้น พบว่า เจ้าคนุท เสียชีวิตจาก เกิดความผิดปกติในสมอง(Brain disorder) ที่คาดว่าเกิดจากโรคลมชัก(epileptic fit)

อ้างอิง

  • http://www.chinadaily.com.cn/photo/2011-03/23/content_12216370.htm

Thailand Only


เมื่อวาน(24/3/54)ผมมีสัมมนาที่ โรงแรม Miracle ใกล้ๆแยกหลักสี่ ขากลับตอนรถติดอยู่ที่แยกหลักสี่ ผมก็เหลือบไปเห็นเข้ากับรถคันนี้

ใครว่ามีแต่ภาษาฝรั่งเศล ที่วัตถุสิ่งของมีเพศ

เมืองไทยรถก็มีเพศเหมือนกัน คันนี้เพศผู้
Thailand Only !

สระลาวา



Lava Lake สระลาวา คือชื่อเรียก บริเวณภายในปากปล่องภูเขาไฟ(Crater) ณ บริเวณที่ยังมีหินหลอมเหลว(ลาวา Lava)เดือดให้เห็นอยู่เบื้องล่างปล่องภูเขาไฟ

รายละเีอียด

  • ใช่ว่าภูเขาไฟทุกลูกจะมี สระลาวา ปรากฏให้เห็น ภูเขาไฟที่จะมีสระลาวาจะต้องเป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ และพร้อมจะปลดปล่อย ลาวา ออกมาได้ทุกเมื่อ ทำให้มีภูเขาไฟเพียง 5 แห่งบนโลกนี้ที่ ปรากฏให้เห็น สระลาวา
  • สระลาวา ใหญ่ที่สุดในโลก แห่งนี้ตั้งอยู่ภายในปากปล่องภูเขาไฟ Nyiragongo
  • ภูเขาไฟ Nyiragongo เป็นภูเขาที่ยังไม่สงบ ตั้งอยู่ในเทือกเขา Virunga ภายในอุทยานแห่งชาติ Virunga National Park ประเทศคองโก
  • ภูเขาไฟแห่งนี้เกิดขึ้นเนื่องจากรอยแตกร้าว ของ แผ่นเปลือกโลกแอฟริกัน(the African Plate)
  • ภูเขาไฟแห่งนี้เป็นภูเขาไฟแบบ stratovolcano (เป็นภูเขาไฟ ที่ สูงขึ้นจากการทับภมเป็นชั้นของ เถ้าภูเขาไฟ ลาวา)
  • ภูเขาไฟมีความสูงประมาณ 3400 เมตร
  • ปากปล่องภูเขาไฟแห่งนี้มึความลึก 390 เมตร มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกว้างถึง 2 กิโลเมตร
  • ด้วยความจุของสระลาวากว่า 282 ล้านลูกบาศก์ฟุต ทำให้มันเป็นสระลาวาที่ใหญ่ที่สุดในโลกมากครอง
  • เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ขึ้นเมื่อ 17 มกราคม 2002 ทำให้ผู้คนกว่า 5 แสนคน ต้องอพยพ จากธารลาวาที่ไหลบ่าลงมาสู่เมือง Goma
คลังภาพ



ในยามค่ำคืนคณะสำรวจกางเต้นท์นอนอยู่ภายในปากปล่องภูเ้ขาไฟ แสงจากหินหลอมเหลว นั้นส่องสว่างแดงฉาน


สระลาวา ใหญ่ที่สุดในโลกยามค่ำคืน ภายในที่เต็มไปด้วยลาวา และฟองก็าซที่ระเบิดขึ้นมาเป็นระยะๆ


โหลๆ หมูกระทะสุกแล้ว


ภาพนี้จะแสดงให้เห็นถึงความใหญ่โตของ สระลาวา แห่งนี้ ถ้าสังเกตดีที่มุมซ้ายล่าง จะมีจุดขาวเล็ก นั้นคือหัวของทีมสำรวจ

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.boston.com/bigpicture/2011/02/nyiragongo_crater_journey_to_t.html
  • http://www.environmentalgraffiti.com/featured/5-most-increbile-lava-lakes/9188?image=1

ปลาดึกดำบรรพ์


ใครจะเชื่อว่าปลาดึกดำบรรพ์ ดั่งภาพฟอสซิล จะสามารถหลบเร้นกายจากเหล่านักสำรวจ นักวิทยาศาสตร์ และการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่มาได้ จนถึงทุกวันนี้ วันนี้มันยังคงแวกว่ายอวดโฉมให้เราได้ชื่นชมอย่างสง่างาม

รายละเอียด

  • ปลาซีลาแคนท์(Coelacanth โดยมีรากศัพท์มาจากภาษาลาตินที่แปลว่า Hollow spine หรือ ไอ้หนามกลวง ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้เรียกปลาทั่วๆในกลุ่ม Sarcopterygii)
  • เดิมทีเหล่านักวิทยาศาสตร์ คิดว่าปลาซีลาแคนท์นั้นได้สูญพันธุ์ไปพร้อมกับเหล่าไดโนเสาร์ เมื่อกว่า 65 ล้านปีล่วงมาแล้ว แต่ก็ถูกค้นพบเมื่อปี 1938 ว่าพวกมันยังคงเหลือรอดจากการสูญพันธุ์เมื่อมีการค้นพบ ที่ แนวชายฝั่งทางตะวันออกของแอฟริกาใต้ บริเวณปากแม่น้ำ Chalumna
  • ปลาซีลาแคนท์ เป็น ปลาที่มีปอด(Lungfishes) มีลักษณะคล้ายเป็นสัตว์ที่มีระยางสี่แขนง(Tetrapods) มากกว่าปลาครีบ(ray-finned fish) ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป(Missing link)ระหว่าง ปลา กับ สัตว์ที่มีระยางสี่แขนง ที่แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของ ปลา มาเป็นสัตว์บก
  • ปลาซีลาแคนท์ สำหรับชาวพื้นบ้านพวกมันแทบจะไม่มีมูลค่านอกจากนำเนื้อมากิน เอามาทำน้ำมันมีกลิ่นที่มีกลิ่นฉุน และเมื่อมีออเดอร์จาก นักสะสม หรือ พิพิธภัณฑ์
ช่างภาพกล่าวว่า ยักษ์ใหญ่เหล่านี้ัไม่มีความตื่นกลัวที่ได้เห็นมนุษย์แม้แต่น้อย

ปลาซีลาแคนท์ มีลักษณะการว่ายน้ำที่ไม่เหมือนปลาอื่น เนื่องจากพวกมันจะว่ายอย่างช้าๆ โดยจะวาดครีบข้างเหงือก(Pectoral)ข้างขวา1ที แล้วค่อยวาดครีบใต้ท้อง(Pelvic)ข้างซ้าย1ที แล้วก็วาดครีบข้างเหงือกข้างซ้าย1ที จบด้วยวาดครีบใต้ท้องด้านขวาอีก1ครั้งอย่างเชื่องช้า สลับไปมา

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Coelacanth
  • http://ngm.nationalgeographic.com/2011/03/fossil-fish/ballesta-photography

ดวงตา ของ ตุ๊กตา


Doll's Eye ดวงตาของตุ๊กตา เคยเห็นรูปมานานพอควร ตอนแรกคิดว่ามันเป็นภาพที่แต่งขึ้น แต่วันนี้เผอิญไปเจอเรื่องเกี่ยวกับ 13 plants that could kill you(13 พืชที่สามารถฆ่าคุณได้) ผลดวงตาของตุ๊กตา ก็เป็น 1 ใน 13 พืชอันตรายนี้

รายละเอียด

  • ต้นดวงตาของตุ๊กตา(Doll's-eyes) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Actaea pachypoda
  • มันได้ชื่อ ดวงตาของตุ๊กตา อันเป็นผลมาจาก ผลขนาดเล็กเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 เซ็นติเมตร มีจุกสีดำ 1 จุด
  • ต้นดวงตาของตุ๊กตา เป็นพืชประจำถิ่นของ อเมริกาเหนือ
  • โชคดีที่ผลของมัน มีรูปร่างน่าสะอิดสะเอียน ไม่น่ารับประทานสำหรับมนุษย์ มันเป็นที่รู้จักในอีกชื่อว่า เบอรี่ขาวพิษ(White Baneberry)
  • ผลของมันมี สารพิษ Cardiogenic สารนี้มีผลกดประสาทฉับพลัน ต่อกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้ผู้ที่บริโภค ผลของมันเข้าไป อาจเกิดสภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.mnn.com/your-home/organic-farming-gardening/photos/13-plants-that-could-kill-you/dolls-eye
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Actaea_pachypoda

Without makeup



Lady Gaga เลดี้กาก้า คงแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักสาวซ่า นางนี้ กับการแต่งตัวที่หลุดโลก แต่วันนี้พอดีไปเห็นรูปตอนเธอไม่แต่งหน้า ตอนเธออายุ 18 ปี สำหรับเธอแปลกจนเป็นเรื่องปกติ พอมาเจอเธอในรูปลักษณ์ปกติผมกับรู้สึกว่ามันแปลก

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/tvshowbiz/article-1368643/Lady-Gaga-releases-emaciated-photo-promote-new-album.html

หน้ากากรูปนก เสื้อคลุมสีดำ



หลายคนที่อ่านการ์ตูนเรื่อง Berserk คงจะเคยเห็นตัวประกอบในการ์ตูนที่มีเครื่องแต่งกายแปลกๆ คือ สวมหน้ากากที่มีจงอยปากเหมือนนก สวมชุดคลุมสีดำ และมักจะปรากฏตัวในฉากที่มีการทรมานร่างกายในห้องใต้ดิน เชื่อหรือไม่ว่าเครื่องแบบนี้ในอดีตมันมีการใช้จริง

รายละเอียด

  • พวกเขามีชื่อว่า Plague doctor หรือ physici epidemeie ในภาษาอิตาลี หรือ pestmeesters ในภาษาดัชท์ และ Pestarzt ในภาษาเยอรมัน
  • เครื่องแบบประหลาดนี้จะประกอบไปด้วย หน้ากากที่มีจงอยปากยาว สวมเสื้อคลุมสีดำยาวคลุททั่วทั้งร่าง และไม้เท้า
  • ผู้ที่สวมชุดเหล่านี้ มีอาชีพเป็น แพทย์เฉพาะทางที่รักษาโรคกาฬโรค(ฺBubonic) ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในยุคกลาง
  • เหล่าหมอกาดำจะ ได้รับการว่าจ้างจากหมู่บ้าน หรือ เมือง ที่กาฬโรคกำลังระบาด ให้เข้ามาทำการรักษาผู้คนในเมืองไม่ว่ายากดีมีจน
  • หมอกาดำ เหล่านี้เป็นพวก แพทย์ชั้นสอง( คือเป็นพวกไม่ประสบความสำเร็จในการเป็นหมอปกติ หรือ พวกไม่จบการศึกษาหลักสูตรแพทย์ศาสตร์)
  • แต่จากงานที่มีความเสี่ยงสูงมาก เหล่าหมอกาดำเป็นที่ต้องการอย่างมาก ในช่วงที่มีการระบาดของกาฬโรคครั้งใหญ่ในยุโรป ได้ค่าจ้างสูงกว่าหมอปกติถึง 4 เท่า บางพื้นที่มีการจับตัวหมอกาดำไปเรียกค่าไถ่กันทีเดียว
  • ถามว่างานนี้เสี่ยงขนาดไหน ขอยกตัวอย่าง การระบาดของกาฬโรคในเมือง Avignon พระสันตะปาปา Clement ที่ 6 ได้ว่าจ้าง หมอกาดำ 18 คน จาก Venice แต่มีหมอกาดำเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เหลือรอดจากภาระกิจนี้ โดย 5 คนตายจากกาฬโรค 12คนหายสาบสูญไปคาดว่าหลบหนีไป
  • การให้คำแนะนำบางอย่างก็เป็นเรื่องถูกต้อง และช่วยระงับการแพร่ระบาดของ กาฬโรค ในอดีต เช่น แนะนำให้ดื่มน้ำต้มสะอาด นอนบนที่นอนที่ปูด้วยผ้าสะอาด เป็นต้น
ความหมาย และความเชื่อเกี่ยวกับเครื่องแบบ ประหลาด

  • โดยหน้ากากที่มีจงอยปากยาว โดยมีความเชื่อว่าจงอยปากยาวนี้สามารถกรองสี่งชั่วร้าย และเชื้อโรคได้ ภายในจงอยปากยาวนี้จะบรรจุด้วย การบูร , สะระแหน่ , กระเทียม , ฟองน้ำชุบน้ำส้มสายชู เพื่อใช้กรองเชื้อโรค
  • เสื้อคลุมสีดำมีที่คลุมศีรษะ(Hood) ทำจากผ้าหนา ลงไข(Wax) เืพื่อกันความหนาว และน้ำ
  • บริเวณดวงตาเป็นกระจก สามารถเปิด-ปิดได้
  • สวมกางเกงหนัง อยู่ใต้เสื้อคลุมยาว
  • ไม้เท้าที่ถือในเมือใช้ในการรักษาผู้ป่วยโดยไม่ต้องสัมผัสตัวผู้ป่วย
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Plague_doctor

ชนเผ่าแปลกๆ จาก แอฟริกา



พวกเขาเป็นชนเผ่า ที่มีลักษณะร่างกายที่สุดแปลก ประหลาด พวกเขาไม่ได้มีร่างกายแปลกประหลาดจากพิธีการแปลกๆ เหมือนหลายๆเผ่าเช่น ชนเผ่าที่ริมฝีปากยื่นยาวจากการใส่แผ่นดินเหนียว หรือชนเผ่าคอยาว แต่เกิดจากการกลายพันธุ์

รายละเอียด

  • คนในเผ่าส่วนมากมีความผิดปกติของร่างกาย ในบริเวณเท้า คือ เท้าทั้งสองข้างจะไม่มีนิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนาง ทำใ้ห้เหลือเฉพาะนิ้วโป้ง และนิ้วก้อยเท่านั้น และทั้งสองนิ้วที่เหลือยังมีลักษณะชี้ถ่างออกไปในทิศตรงข้ามกันอีก ทำให้เท้ามีลักษณะคล้ายเท้าของ นกกระจอกเทศ
  • ลักษณะพิการของนิ้วมือและเท้าเช่นนี้มีชื่อเรียกว่า ectrodactyly
  • ชนเผ่านกจอกเทศ เป็นชนเผ่า Vadoma หรือเรียกว่า Wadoma เป็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในทางตะวันตกของประเทศซิมบับเว(Zimbabwe) โดยเฉพาะในบริเวณ Urungwe และ Sipolilo ตามแม่น้ำ Zambezi
  • การที่ชาวเผ่านกจอกเทศ มีลักษณะพิการดังกล่าวเกิดจากการกลายพันธุ์ใน โคโมโซมหมายเลข 7

ลักษณะเท้าของนกกระจอกเทศ(ของจริง)

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Doma_people

หยิน หยาง




หยินคือด้านมืด ส่วนหยางคือด้านสว่าง ทุกอย่างล้วนมี 2 ด้าน ทั้งดีก็มีร้าย ขาวก็มีดำ ร้อนก็มีหนาว ธรรมชาติพยายามอย่างที่สุดเพื่อจะปรับ หยิน และ หยาง ให้สมดุลย์กัน แต่มนุษย์นั้นไม่รักษากฎ หรือ เกณฑ์อันใด ใครมือยาวก็หยิบก็ฉวย ไม่คิดแบ่งปัน ให้แก่ผู้ด้อยโอกาส
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v

คนร่ำรวยนั้นเบียดบัง หยิบฉวยทุกสิ่งทุกอย่างจน เหล่าคนจนแทบจะไม่เหลือที่ยืนบนสังคมกันแล้ว ดังคำที่มักพูดกันว่า
รวยกระจุก จนกระจาย

ที่มารูปภาพ

  • http://twistedsifter.com/2010/11/picture-of-the-day-the-yin-and-yang-of-hunger-nov-13-2010/

บุหรี่



เมื่อไม่กี่วันมานี้ฟังอธิปรายไม่ไว้วางใจ นายก เรื่อง ภาษีบุหรี่ คุยเรื่องเดียวกันแต่ ข้อมูลไม่ตรงกันเลย ทั้งนายก และ รตอ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็ไม่รู้ว่าใครพูดจริง พูดโกหก หรือจะโกหกทั้งคู่ แต่จริงทั้งคู่นั้นเป็นไปไม่ได้เนื่องจากพูดไม่เหมือนกัน แต่ ที่ผมรู้อยู่อย่างหนึ่งเกี่ยวกับบุหรีตอนนี้คือ

สูบบุหรีทำให้หน้าแก่
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v


ป้าแก่แก Confirm ด้วยภาพ

ที่มารูปภาพ

  • http://news.mthai.com/politics-news/105495.html/attachment/012-25
  • http://twistedsifter.com/2010/11/picture-of-the-day-every-picture-tells-a-story-nov-30-2010/

รถติด



Traffic jam รถติด มันเป็นเสมือนของขึ้นชื่อของ กรุงเทพ เมืองฟ้าอมร และคงจะอยู่คู่กันตลอดกาล ผมเองใช้เวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมงบนท้องถนนในการไปทำงาน แต่อย่าน้อยใจไปที่ไหนๆก็มี รถติด ในแบบของตนเองลองไปดูรถติดตามแบบ เมืองชิคาโก(Chicago) แล้วเราชาวกรุงเทพรับลองว่าต้องเย็นลงบ้าง กับปัญหารถติดของเรา นะครับ
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v


รูปภาพจาก

ผีเสื้อทะเล



Sea Butterfly ผีเสื้อทะเล นะไม่ใช่ ผีเสื้อสมุทร พวกมันเป็นสัตว์ในกลุ่มทากทะเล แต่สิ่งที่ให้พวกมันดูแปลกตาที่สุดก็คือ พวกมันเหมือนหอยที่มีปีก โบยบินอยู่ในทะเล

รายละเอียด

  • ผีเสื้อทะเล(Sea Butterfly) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Helicina
  • ผีเสื้อทะเล อยู่ในสกุล หอยทากนักล่า ในวงศ์(Family) Limacinidae
  • ผีเสื้อทะเล เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลบริเวณ Pelagic(บริเวณของน้ำทะเลที่ไม่ติดกับพื้นทะเล)
  • พวกมันว่ายน้ำโดยอาศัยการ โบก อวัยวะที่เรียกว่า Parapodia(ซึ่งเป็นคำที่มาจากภาษากรีก สองคำคือ para ที่แปลว่าด้านข้าง + feetที่แปลว่าเท้า) และนั้นเป็นเหตุที่มาของชื่อ ผีเสื้อทะเล
  • พวกมันมีเปลือกที่วิวัฒนาการอย่างดี มีลักษณะวนซ้าย ไม่มีสี ขนาดและความหนาแต่ต่างกันไปในแต่ละสายพันธุ์แต่ก็ใหญ่เพียงพอให้ตัวทากเข้าไปหลบภายในได้
  • พวกสายพันธุ์ที่อยู่ในน้ำเย็นบริเวณอาร์ติกเช่น operculum จะมีขนาดเปลือกใหญ่ได้ถึง 15 มิลลิเมตร แต่พวกในเขตน้ำอุ่นจะมีขนาดเปลือกประมาณ 1-3 มิลลิเมตรเท่านั้น
  • พวกมันจะต้องกระพือปีกอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา เนื่องจากเปลือกที่หนักจะทำให้พวกมันจมสู่ก้นทะเล
  • ในช่วงเวลากลางวันพวกมันจะอาศัยอยู่ในน้ำที่ลึก(แต่ไม่เกิน 100 เมตร)
  • เห็นรูปร่างหน้าตา ติ๋มๆ เช่นนี้แต่พวกมันเป็นนักล่าตัวยง กินทั้ง แพลงก์ตอน แบคทีเรีย ครัสเตเชียขนาดเล็ก ตัวอ่อนหอยทาก
  • พวกมันล่าเหยื่อโดยการ ปล่อย ใยเมือก ที่อาจจะยาวได้ถึง 5 เซ็นติเมตร ใช้จับเหยื่อ

ซูมดูใกล้ จะเห็นอวัยวะที่เหมือนปีกอย่างชัดเจน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Limacina_helicina

ปลุกผีงู



เมื่อ 3-4 วันที่แล้วเคยนำข่าว นางแบบสาวทรงโต กำลังโฟสท์ที่ถ่ายรูปสุดสยิว กับ งูตัวโต ไปมาๆอีท่าไหนก็ไม่รู้ งูเจ้าฉกเข้าที่นม จนจมเขี้ยว ............. นางแบบนั้นปลอดภัย แต่ต่อมามีข่าวว่างูนั้นตายจากพิษซิลิโคน

พอดีคุณ KimhunCPE ได้มาทิ้งความคิดเห็นไว้ว่า

สื่ออีกด้านบอกว่าเป็นการตายจากสาเหตุอื่นนะครับ
เพราะว่างูไม่ดูดเลือดขณะกัด
http://www.lifeslittlemysteries.com/if-snake-that-bit-model-died-it-wasnt-from-silicone-poisoning-1468/

http://blogs.discovermagazine.com/discoblog/2011/03/16/no-youtubes-fake-boob-biting-snake-didnt-die-of-silicone-poisoning/

http://www.aolnews.com/2011/03/14/snake-dies-of-silicone-poisoning-after-biting-models-fake-breas/

เมื่อตามไปอ่านก็น่าเชื่อถือว่ามีเหตุผลจึงขอมานำเสนออีกด้านให้ทราบกันครับ คือ


นักชีววิทยาเกี่ยวกับงู จาก มหาวิทยาลัย Sydney นามว่า Rick Shine กล่าวว่า
จากคลิปเขาไม่เห็นว่าจะมีซิลิโคนไหลออกมา หรือ ในเคสที่งูกินซิลิโคนเข้าเต็มปากจริงๆ ก็ ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ว่า วัสดุในกลุ่ม ซิลิโคน จะมีอันตรายถึงชีวิตสำหรับงู

นักชีววิทยาเกี่ยวกับงู จาก มหาวิทยาลัย Universidad Central de Venezuela นามว่า Jesus Rivas กล่าวว่า
เป็นไปได้ที่งูอาจถูกฆ่าตายหลังจาก กัดนางแบบ หรือ อาจจะได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการที่คนเข้าไปช่วยเหลือนางแบบ เนื่องจากไม่ใช่เรื่องง่ายทีจะถอนเขี้ยวงูที่มีลักษณะเป็นตะขอออกจากนมนาง แบบง่าย

เจ้าของสวนสัตว์ Luray นามว่า Mark Kilby กล่าวว่า
งูนั้นกัด แต่ไม่ดูดเลือด ทั้งงูยังมีความสามารถพิษคือกินสัตว์ป่วยโดยที่พวกมันไม่ติดโรคจากสัตว์เหล่านั้น และยังไม่เคยมีบันทึก หรือเรื่องราวเกี่ยวกับ งู ที่ตายหลังจากกัด มนุษย์ (นอกจากถูกตีจนตาย) ทั้งจากคลิปก็ไม่เห็นว่า นมจะแฟบลงจากซิลิโคน หรือ น้ำเกลือที่บรรจุอยู่ภายในไหลออกเข้าปากงู
ปล.แล้วคุณจะเชื่อใคร คุณเป็นผู้ตัดสินใจนะครับ
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.lifeslittlemysteries.com/if-snake-that-bit-model-died-it-wasnt-from-silicone-poisoning-1468/
  • http://blogs.discovermagazine.com/discoblog/2011/03/16/no-youtubes-fake-boob-biting-snake-didnt-die-of-silicone-poisoning/
  • http://www.aolnews.com/2011/03/14/snake-dies-of-silicone-poisoning-after-biting-models-fake-breas/

คลังบทความ wowboom

เพื่อนๆ wowboom