คนสุดขีดนักกล้ามหญิงปลาน้ำลึกรถแต่งซิ่ง7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกสิ่งก่อสร้างสุดขีดพับกระดาษสมุดระบายสี

เด็กชายปลาบู่


ผ่านพ้นไปด้วยดีกับปีใหม่ 2555 แผ่นดินไม่ไหว เขื่อนไม่แตก พ่อเด็กชายปลาบู่ ก็เลยกลายเป็น คนแก่เลี้ยงแกะ ในทันที อะไรทำให้เรื่องจากคนแก่เพียงแค่ 1 คนกลายเป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ คำตอบก็มีเพียงอย่างเดียวคือ
เราขาดสติ และเหตุผล

สิ่งมีชีวิตเหมือนปลา ไร้สมอง ไร้หน้า



ภาพที่เห็นนี้คือสิ่งมีชีวิตเหมือนปลา พวกมันไม่มีสมอง และไม่มีหน้า นักชีววิทยากล่าวว่า พวกมันเหมือนเป็นหน้าต่างที่ทำให้เราสามารถมองย้อนมองเห็นอดีต ในยุคที่สัตว์วิวัฒนาการมาเป็น สัตว์มีกระดูกสันหลัง

รายละเอียด

  • สิ่งมีชีวิตเหมือนปลาพวกนี้มีชื่อว่า Amphioxus โดยต่อไปขอเรียกพวกมันว่า ปลาไร้หน้าไร้สมอง
  • ปลาไร้หน้าไร้สมองพวกนี้พบในน้ำตื้นในทะเลเขตร้อนได้ทั่วโลก
  • พวกมันมีความยาวประมาณ 5 เซ็นติเมตร(อาจพบยาวได้สูงสุดประมาณ 7 เซ็นติเมตร) มีลำตัวค่อนข้างโปร่งแสง มีรูปร่างคล้ายปลา แต่ไม่มีครีบคู่มีแต่ครีบเดียว ไม่มีระยางใดๆทั้งสิ้น ไม่มีกระดูก
  • ในเอเซียพวกมันถูกนำไปบริโภคเป็นอาหารของทั้งคน และสัตว์เลี้ยง
  • พวกมันใช้ชีวิตส่วนใหญ่ฝังตัวอยู่ในทราย กรองกินเศษซากตะกอน จากน้ำทะเลกิน
  • สิ่งที่มาทำหน้าที่แทนสมอง และหน้า ก็คือ เส้นประสาท(nerve cord) ที่ที่หนังของพวกมัน
  • โดย 1 ในพวก Amphioxus พันธุ์กรรมของพวกมันแสดงให้เห็นว่าพวกมันเป็นต้นตระกูลของสัตว์มีกระดูกันหลัง
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2079733/Prehistoric-brainless-faceless-fish-seas-Orkney.html

วัดีปีม่



วันนี้คงเป็นวันทำงานวันสุดท้ายสำหรับใครหลายๆคน ยังไงก็ขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าแฟนๆ wowboom ทุกคนที่ติดตามกันอย่างเหนียวแน่น สัญญาว่าจะหาเรื่องราวดีๆ แปลกๆ และน่าสนใจมาให้อ่านกันอย่างต่อเนื่องครับ
ขอให้ทุกคนเดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัย ไร้ทุกข์ไร้โศก ครอบครัวสุขสันต์ น้ำไม่ท่วม เมาไม่ขับ ง่วงไม่ฝืน ที่สำคัญรวยๆกันทุกคนครับ : )

ทีวีประตูวิเศษ



เคยหรือเปล่าที่คิดว่าถ้าเราสามารถยื่นมือเข้าไปหยิบสิ่งของใน ทีวี ได้มันคงดีไม่ใช่น้อย แต่นั้นมันก็ยังคงเป็นแค่ฝัน แต่วันนี้มีทีวีที่คุณและเพื่อนสามารถล้วงมือเข้าไปทำกิจกรรมร่วมกัน แม้อยู่ไกลกันคนละซีกโลกได้

รายละเอียด


  • ทีวีประตูวิเศษ นี้ตอนนี้ยังเป็นสิ่งประดิษฐ์ต้นแบบนี้เป็นผลงานของนักศึกษาหญิงนามว่า Jayne Vidheecharoen จาก the Art Center College of Design ใน แคลิฟอร์เนีย(California) สหรัฐอเมริกา
  • ทีวีเครื่องนี้มีความพิเศษ คือมีช่องอยู่ด้านข้างที่สามารถให้คุณนำมือยื่นเข้าไปแล้วทำกิจกรรมเสมือน ร่วมกับบุคคลอื่นที่มีทีวีประตูวิเศษอีกเครื่อง ถ้าแม้จะอยู่ห่างไกลกันคนละซีกโลกก็ตาม
  • ทีวีประตูวิเศษนี้จะมี 2 เครื่อง โดยแต่ละเครื่องจะมีลักษณะเป็นกล่องที่มีหน้าจะมีหน้าจออยู่ด้านหน้า ส่วนด้านข้างจะมีช่องสำหรับสอดมือเข้าไป ด้านในก็เป็นฉาก บลูสกรีน(green screen เป็นฉากสีน้ำเงิน หรือเขียวเพื่อให้พื้นหลังมีสีเดียวจะได้ง่ายในการลบฉากหลังออกแล้วแทนที่ด้วยภาพอื่น ฉากอื่นจาก)
  • เมื่อสอดมือเข้าภาพมือในกล่อง ระบบจะลบฉากบลูสกรีนออกแล้วแทนที่ด้วยภาพจากเว็บ Google Streetview(เป็นส่วนเสริมใน กูเกิ้ลเมพ ที่จะทำให้เราดูแผนที่ในมุมมองเสมือนเราเดินอยู่บนถนนจริงสามารถหันซ้ายขวาหน้าหลังได้รอบตัว).
  • แต่ ที่มันพิเศษสุดๆก็คืออย่าลืมว่ามันมี ทีวีประตูวิเศษอยู่ 2 เครื่อง โดยทีวีทั้งสองเครื่องนี้ได้เชื่อมต่อกันเสมือนเป็น โลกคู่ขนาน ถ้ามีคนนำมือสอดเข้าไปในทีวีเครือง A ภาพก็จะไปปรากฏทั้งในทีวีเครื่อง A และ B ถ้ามีคนนำสิ่งของไปตั้งในทีวีเครื่อง A ภาพก็จะไปปรากฏที่หน้าจอของทั้งเครื่อง A และ B เสมือนเป็นพื้นที่กลางที่ทั้งสองสามารถใช้งานร่วมกันได้ถึงจะอยู่ไกลกันคนละซีกโลก อ่านแล้วอาจจะงง ดูคลิป
  • การสร้างทีวีประตูวิเศษนั้นก็ทำจากวัสดุง่ายอาทิเช่น โฟม ผ้าเทป โคมไฟตั้งโต๊ะ โต๊ะหัวเตียง จอมอนิเตอร์(ผู้ประดิษฐทีวีประตูวิเศษบอกว่ายืมชาวบ้านมาด้วย) และกล้องเว็บแคมราคาถูกสุดที่หาซื้อได้

ในคลิปจะมีการนำตุ๊กตาไปตั้งในทีวีประตูวิเศษ จากทั้งสองฝั่ง แต่มันก็ยังเป็นแค่โลกเสมือนการหยิบออกก็ทำได้เฉพาะตุ๊กตาของฝั่งตัวเอง ไม่สามารถไปหยิบตุ๊กตาของอีกฝั่ง

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.kickstarter.com/projects/jayne/portals/posts

บิดา แห่ง วางการนักล้าม



หากจะกล่าวถึงการแข่งขันเพาะกายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคงไม่มีรายการใดยิ่งใหญ่ไปกว่า มิสเตอร์ โอลิมเปีย อีกแล้ว และ 1 ในตำนานแห่งเวทีมิสเตอร์โอลิมเปียก็คือ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์(คนเหล็กของเรา) ส่วนถ้วยรางวัลของรายการนี้ก็เป็นรูปนักกล้ามที่เรียกว่า เดอะ แซนดาว(The Sandow) เพื่อเป็นเกียรติต่อ บิดาแห่งการเพาะกายสมัยใหม่ นามว่า ยูจีน แซนดาว

รายละเอียด

  • ยูจีน แซนดาว เิกิดที่เมือง Königsberg ประเทศปรัสเซีย(Prussia ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของเยอรมัน โปแลนด์ รัสเซีย ลิทัวเนีย เดนมาร์ค เบลเยียม เช็ก และสวิตเซอร์แลนด์) เกิดที่ ในวันที่ 2 เมษายน 1867 เสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดสมองตีบในวันที่ 14 ตุลาคม 1925 ในกรุงลอนดอน
  • ยูจีน แซนดาว หนีออกจากปรัสเซียเมื่อปี 1889 เพราะไม่ต้องการเป็นทหารจึงหนีทหารออกมา และมาปรากฏตัวเป็นนักแสดงโชว์ในลอนดอน.
  • ต่อมาข่าวของ แซนดาว ก็ไปเข้าหูของ Florenz Ziegfeld และเขาต้องการนำแซนดาวไปแสดงโชว์ที่ World's Columbian Exposition ปี 1893 แต่แซนดาวนั้นติดสัญญาอยู่กับนายMaurice Grau โดย
  • Ziegfeld พบว่าผู้ชมสนใจในรูปร่าง และกล้ามเนื้อเป็นมัดของแซนดาว มากกว่าโชว์แสดงพละกำลังของเขา Ziegfeldจึงบอกให้แซนดาวโฟสท์ที่ท่าต่างเพื่อแสดงให้เห็นถึงมัดกล้ามต่างๆประกอบเพลง โชว์ดึงโซ่ให้ขาด โชว์ยกบาร์เบลล์ และนั้นผลักดันให้ แซนดาวกลายเป็นดาวเด่นของ Ziegfeld ในที่สุด
  • ในปี 1894 แซนดาวได้ไปถ่ายภาพยนตร์สั้นให้แก่ สตูดิโอของโธมัส เอดิสัน ภาพยนตร์ชุดนี้มีการแสดงเพียงการโพสท์ท่าโชว์กล้ามล้วนๆ
  • ในปี 1897 แซนดาวได้จัดตั้งสถาบัน the Institute of Physical Culture ซึ่งเป็นโรงยิมสำหรับเพาะกายโดยเฉพาะขึ้น
  • ในปี 1898 ได้ก่อตั้งวารสารรายเดือนที่ชื่อว่า Physical Culture
  • ต่อมา แซนดาวเป็นโต้โผใหญ่ในการจัดประกวดเพาะกายที่ชื่อว่า Great Competition ณ Royal Albert Hall ในวันที่ 14 กันยายน 1901 โดยมีคณะกรรมการดังนี้ แซนดาว Sir Charles Lawes และเซอร์อาเธอร์ โคนัน ดอยล์(Sir Arthur Conan Doyle ผู้แต่งเรื่อง เชอร์ล็อก โฮล์มส์)
  • แซนดาว มีรูปร่างคล้ายคลึงกับ รูปปั้น ประติมากรรมในยุค กรีซ และโรมัน และนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เนื่องจากแซนดาวได้ทำการวัดรายละเอียดสัดส่วนรูปปั้นในยุคกรีซ และโรมันเพื่อเป็นแนวทางในการเพาะกายของเขาสู่รูปแบบที่เรียกว่า เรือนร่างในอุดมคติของชาวกรีซ
  • แซนดาว ได้รับการยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งวงการเพาะกายสมัยใหม่ เนื่องจากเขาเป็นบุคคลแรกที่เล่นกล้ามโดยมีการกำหนดไว้ล่วงหน้าว่าต้องการกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆขนาดเท่าไร และในหนังสือของเขาได้มีการกำหนดน้ำหนักในการเล่นจำนวนครั้ง เพื่อให้บรรลุสู่กล้ามเนื้อตามที่ต้องการ
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Eugen_Sandow

ข้อสนับสนุน และข้อโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ต่อ ผ้าห่อพระศพ แห่ง ตูริน



ผ้าห่อพระศพแห่งตูริน คือ ผ้าลินินที่มีรอยคล้ายพระรูปของพระเยซูคริสต์ปรากฏบนผืนผ้า และมีความเชื่อว่าผ้าผืนนี้คือ ผ้าห่อพระศพของพระเยซูคริสต์

รายละเอียดเกี่ยวกับ ผ้าห่อพระศพแห่งตูริน

  • ผ้าห่อพระศพแห่งตูริน ถูกเก็บรักษาอยู่ที่โบสถ์หลวง Cathedral of Saint John the Baptist ใน เมืองตูริน(ทางตอนเหนือของอิตาลี)
  • ส่วนภาพที่ปรากกฏบนผ้าผืนนี้มีความเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับ พระเยซูคริสต์ , การตึงกางเขน(crucifixion)เนื่องจากมีปรากฏร่องรอยคล้ายคล้ายรูปคนบนผืนผ้า ทั้งยังรอยคล้ายคราบเลือด บาดแผลในตำแหน่งข้อมือข้อเท้าจากการถูกตึงด้วยตะปู บาดแผลที่สีข้างจากการถูกแทงด้วยหอกลองกินุส และบาดแผลบนศีรษะจากการถูกสวมด้วยมงกุฎหนาม
  • ภาพบนผ้าผืนนี้จะยิ่งปรากฏเด่นชัดเจนเมื่อถ่ายภาพออกมาเป็นแบบเนกกาทีฟ(ภาพจั่วหัว)
  • ในปี 1988 มีการทดสอบอายุของผ้าห่อพระศพแห่งตูรินด้วยวิธี radiocarbon dating test โดยใช้ชิ้นตัวอย่างเล็กๆจากผ้าห่อพระศพแห่งตูรินโดยทำการทดสอบในห้องแล็ปของมหาวิทยาลัย University of Oxford , the University of Arizona และ the Swiss Federal Institute of Technology ผลที่ได้นั้นปรากฏว่าผ้าห่อพระศพนั้นมีอายุอยู่ในยุคกลางประมาณปี ค.ศ.1260 ถึง 1390 ซึ่งมันไม่สอดคล้องกันเนื่องจากถ้าผ้าผืนนี้เป็นผ้าห่อพระศพของพระเยซูจริง ก็ควรมีอายุอยู่ในช่วงต้นของคริสตกาล แต่ ก็มีผู้โต้แย้งผลการตรวจสอบนี้เนื่องจากตัวอย่างที่นำไปทดสอบมีขนาดเล็กมากไม่น่าจะเป็นตัวแทนของผ้าห่อพระศพทั้งผืนได้ เศษที่นำไปทดสอบอาจจะเป็นชิ้นส่วนของผ้าหรือด้ายที่ใช้ในการซ่อมแซมผ้าห่อพระศพหลังจากที่ถูกไฟไหม้ในยุคกลาง
  • เดือนธันวาคม 2011 นักวิทยาศาสตร์จาก Italy's National Agency for New Technologies, Energy and Sustainable Development หรือตัวย่อ ENEA ได้ออกมาประกาศว่าจากการทดลองสร้างภาพลงบนผ้าลินนินอย่างภาพบนผ้าห่อพระศพแห่งตูริน ผลการทดลองคาดว่าภาพนี้น่าจะถูกสร้างด้วยพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าบางอย่าง อย่างเช่นแสงคลื่นสั้นซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ในยุคกลางจะมีเทคโนโลยี่เช่นนี้ในการทำภาพให้ปรากฏบนผืนผ้า นอกจากสิ่งปาฏิหาริย์เหนือธรรมชาติ
  • ยังมีการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ ผ้าห่อพระศพแห่งตูริน อีกมากที่ผลการทดสอบออกมาในแง่สนันสนุน และโต้แย้ง
บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Shroud_of_Turin
  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2076443/Turin-Shroud-created-flash-supernatural-light.html

ถึง คุณที่นำบทความจาก wowboom ไปลงใน clipmass มีความจำเป็นอะไรถึงต้องลบลิงค์ที่ผมทำไว้ในบทความถ้ารับไม่ได้ที่มีลิงค์ก็ กรุณาอย่าง copy จะดีกว่าหรือไม่ครับ

By Admin DEN

นายทวาร แก่ที่สุดในอังกฤษ



คุณปู่คอลิน ลี วัย 72 ปี(2011) ที่เล่นฟุตบอลมาตั้งแต่วัยเพียง 6 ขวบ และคงยังเล่นฟุตบอลเรื่อยๆมาจนถึงทุกวันนี้ โดยปัจจุบันคุณปู่เป็นนายทวารของทีม veteran ที่คุณปู่จะมารวมเล่นด้วยทุกอาทิตย์ ทำให้คุณปู่คอลิน ลี เป็นนักทวารที่แก่ที่สุดในอังกฤษอย่างเป็นทางการ

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2077565/Colin-Lee-72-spent-66-YEARS-playing-football.html

เขียนควายจนเสือกลัว



เคยได้ยินสุภาษิต "เขียนเสือให้วัวกลัว" แต่ เห็นควายพวกนี้คงต้องพูดว่า "เขียนควายจนเสือกลัว" ก็คงไม่เกินไปนัก

รายละเอียด


  • เทศกาลนี้มีชื่อว่า เทศกาลภาพวาดควาย(Bull Painting Festival)
  • ภาพที่เห็นเหล่านี้เป็นเทศกาลในเมืองJiangcheng มณฑลยูนาน(Yunnan) ประเทศจีน
  • การที่ชาวบ้านวาด ควายของพวกเขาด้วยสีสันฉูดฉาดเนื่องจากมีความเชื่อว่า ควายเหล่านี้จะช่วยปกปัก ป้องกัน หมู่บ้าน
  • เนื่องจากชาวเผ่า Hani มีเรื่องเล่ากันว่า การเขียนควายด้วยสีฉูดฉาดนั้นจะทำให้เสือกลัวจนไม่กล้าเข้าบ้านของพวกเขา
  • แต่ปัจจุบันการ วาดควาย นั้นกลายมาเป็นการแข่งขันความสามารถในการวาดรูป โดยในปีนี้(2011) มี 48 ทีม จาก จีน ลาว และเวียดนาม เข้าร่วมแข่งขัน


ข้อมูลอ้างอิง
  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2078693/Holy-cow-Live-animals-given-outlandish-body-makeovers-traditional-bull-painting-festival.html

พบลูกบอลโลหะปริศนา



สิ่งที่เห็นในภาพคือ ลูกบอลโลหะปริศนาที่ตกลงมาจากฟากฟ้าเสียงดังสนั่นในดินแดนที่ห่างไกลในทางตอนเหนือของนามิเบีย แอฟริกา

รายะละเอียด

  • ลูกบอลโลหะนี้มีน้ำหนักเกือบ 5.9 กิโลกรัม เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.35 เมตร มีลักษณะพื้นผิวเรียบดูเหมือนจะมีรอยเชื่อมตรงกลางเข้าหากัน
  • ลูกบอลนี้ก่อให้เกิดหลุมลึก 0.3 เมตรกว้างเกือบ 4 เมตร แต่ตัวลูกบอลถูกพบตกห่างออกไปอีก 18 เมตร
  • ชาวบ้านกล่าวว่าพวกเขาได้ยินเสียงระเบิดในช่วงกลางวันหลายวันก่อน ก่อนที่เขาจะพบมันในที่ดินของเขา
  • แน่นอนว่าเมื่อเรื่องนี้แพร่ออกไปมันก็ถูกจุดเป็นประเด็น เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลก บ้างก็ว่ามันเป็นอนุภาคที่หลุดมาจากเครื่องเร่งอนุภาคของเซิร์น หรือของขวัญที่ซานต้าครอสทำหล่นไว้ หรือแม้กระทั่งเป็นลูกบอลQuaffle ของแฮรี่พอตเตอร์
  • แต่ที่ฟังจะดูมีเหตุผลมากที่สุดคาดว่ามันเป็น ถังที่ใช้สำหรับบรรจุสารเคมีที่สามารถติดไฟได้ที่ใช้ในดาวเทียม หรือยานสำรวจอวกาศ
  • ลูกบอลโลหะนี้ยังคงเป็นปริศนา ที่ยังไม่สามารถชี้ชัดไปได้ว่ามันเป็นอะไรจนกว่าจะได้รับการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ต่อไป

อันนี้เป็นภาพจากวัตถุทรงกลมปริศนาที่ตกในไร่ที่ Worcester ห่างจากเมืองเคปทาวน์ไป 150 กิโลเมตร , แอฟริกาใต้ ในเดือนเมษายน 2000


ในภาพนาย James Stirton ชาวไร่ชาวออสซี่กำลังยืนมองลูกบอลที่ถูกพันด้วยลวดโลหะถักเป็นเกลียว มันตกอยู่ในอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ของ รัฐควีนส์แลนด์ เมื่อมีนาคม 2008


ภาพนี้ชาวเมือง Nacogdoches ในรัฐTexas สหรัฐอเมริกากำลังยืนมุงดูวัตถุทรงกลมที่คาดว่าเป็นถังไฮโดรเจนจากกระสวยอวกาศโคลัมเบีย เมื่อปี 2003
ไปๆมาๆชักจะเยอะมีวัตถุปริศนาตกทั่วโลก
ปล.European Space Agency ประเมินว่ามีขยะอวกาศโคจรอยู่รอบโลกประมาณ 12,000 ชิ้น
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2077708/The-mystery-ball-space-Metal-sphere-fell-Earth-sparks-alien-speculation.html
  • http://www.guardian.co.uk/world/gallery/2009/feb/12/spacetechnology-spaceexploration?picture=343169130#/?picture=343169130&index=9

FAIL

คลิปนี้ต้องบอกว่าหนี่งคนโคตร Fail โคตรพลาด แต่ อีกหนึ่งคนโคตรนิ่ง โคตรมีสติ
เนื่องจากระหว่างการฝึกปาระบิดมือ แต่พ่อทหารใหม่เกิดพลาดปาระเบิดไปติดด้านหน้าหลุมเพาะกระเด้งกลับ ทหารใหม่รีบหมอบเอามือปิดหน้าปิดตายคงนึกในใจ"ตายแน่" แต่ครูฝึกนั้นกับมีสติอย่างเหลือเชื่อโดดลงหลุมเพาะ แล้วกระชากทหารใหม่ลงหลุมเพาะก่อนที่ระเบิดจะทำงานไม่กี่วินาที สุดท้ายทั้งสองปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆทั้งสิ้น

การ์ดคริสต์มาส แพลงก์ตอน


สุขสันต์วันคริสต์มาส กันครับวันนี้นำการ์ดอวยพรที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากภาพที่เห็นนี้ทั้งสิ้นคือสิ่งมีชีวิตเล็กพวก แพลงก์ตอน สัตว์เซลล์เดียว และตัวอ่อนสัตว์น้ำ

รายละเอียด แพลงก์ตอน ใน การ์ดคริสมาส

การ์ดคริสต์มาสนี้เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลย นามว่า ด็อกเตอร์ Richard Kirby โดยภายในภาพนั้นประกอบแพลงก์ตอนนานาชนิด และตัวอ่อนสัตว์ทะเล ดังนี้
  • ต้นคริสต์มาส คือ หนอนใบพาย (paddle worm helgolandica)
  • กระดิ่งคริสต์มาส ประกอบไปด้วย แมงกะพรุน Aglanthe digital ที่เชื่อมติดกันด้วย แพลงก์ตอนพืช Eucampia zodiacus
  • เทียนบนต้นคริสต์มาส คือ ตัวอ่อนของปลาดาว Luidia ciliaris
  • ดาวบนยอดต้นคริสต์มาส คือ ปลาดาว juvenile Luidia ciliaris
  • เทวทูต คือ เทวดาทะเล(sea angels ชื่อวิทยาศาสตร์ Clione limacina) ส่วนวงแหวนบนหัวเทวทูต คือ Protozoan acantharea
  • เกร็ดหิมะ คือ ตัวอ่อนของปลาดาว

ด็อกเตอร์ริชาร์ด กล่าวว่า "เขาได้แรงบรรดาลใจมากจากเมื่อเขามองรูปภาพแพลงก์ตอนแล้วเขาเกิดนึกถึงวันคริสต์มาส"

สุขสันต์วันคริสต์มาส กันทุกคนนะครับ


ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2077363/Single-cells-single-cells-plankton-way--Incredible-Christmas-card-sea-creatures.html

นรก ใน แล็ป



ถ้าถามว่า นรกโลกันต์ อยู่ที่ไหน? นรกมีลักษณะเช่นไร? ตามคติความเชื่อของชาวพุทธก็คงบอกว่านรถอยู่ลึกลงไปใต้ดิน เป็นสถานที่มีแต่ไฟนรกแผดเผาเหล่าคนบาป แต่วันนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการสร้างนรกขึ้นมาในห้องแล็ป เพื่อเผยกำเนิดของโลก

รายละเอียด

  • การสร้าง นรก ในที่นี้คือการจำลองสภาพแวดล้อมภายในแกนโลกขึ้นในห้องแล็ป
  • เป็นที่ทราบกันดีว่า โลกของเรามีเหล็กเป็นธาตุหลักในแกนโลก แต่เราไม่รู้ถึงขบวนการ และพฤติกรรมของเหล็กในแกนว่าพวกมันเป็นเช่นไรในสภาพแวดล้อมที่มีความดันสูงกว่าบนพื้นโลกถึง 17 ล้านเท่า
  • หลายคนอาจจะมีคำถามว่า มันมีประโยชน์อะไรที่เราจะจำลองสภาพแกนโลกขึ้นมา คำตอบก็คือถ้าเราสามารถเข้าใจว่าแกนโลกนั้นเป็นเช่นไรมันจะช่วยให้เราเข้าใจโลกของเรานั้นก่อตัวขึ้นอย่างไร และทำไมสนามแม่เหล็กของโลกจึงมีพฤติกรรมเช่นที่มันเป็นอยู่ในธรรมชาิติขณะนี้
  • การทดลองนี้เป็นผลงานจากทีมวิจัยจากสถาบัน California Institute of Technology โดยการกระแทกตัวอย่างเหล็กชิ้นเล็กๆ ด้วยเครื่องมือที่มีหัวเป็นเพชรสองชิ้นที่เรียกว่า diamond anvil cell แล้วใช้รังสีเอ็กซ์เรย์ตรวจวัดว่าว่าเกิดการสั่นเท่าไรเปรียบเทียบกับค่า seismic ของแกนโลก ซึงสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาประเมินความหนาแน่นของแกนโลก อุณหภูมิ ซึงมันจะช่วยให้เราเข้าใจการทำงานของสนามแม่เหล็กของโลกมากขึ้น
  • เนื่องจากสนามแม่เหล็กของโลกนั้นเกิดจากกระแสไฟฟ้าที่ไหลอยู่ในโลหะหลอมเหลวในแกนโลก โดยแกนโลกชั้นในสุดที่เป็นของแข็งจะสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้าถาวร แต่แกนโลกส่วนที่เป็นของเหลวที่อยู่ชั้นถัดขี้นมาจะเป็นตัวสร้างสมดุลย์ให้แก่สนามแม่เหล็กของโลก

Diamond anvil cell เป็นเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่จะใช้หัวเพชร2อันอัดชิ้นตัวอย่างขนาดเล็ก ซึ่งสามารถสร้างแรงดันมหาศาลได้กว่าล้านเท่าของความดันบรรยากาศ

ข้อมูลอ้างอิง


  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2077013/Scientists-recreate-hellish-conditions-Earths-core-California-lab.html

ปรากฏการณ์ธรรมชาิติ เมฆคลื่นหัวแตก

เมื่อเห็นเมฆนี้ต้องยอมรับว่ามันช่างเหมือนกับเกลียวคลื่นในทะเลที่กำลังม้วนตัวเป็นระลอกๆ เหมือนดั่งภาพนี้มีทะเลอยู่ของชั้น ดูแล้วช่างเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาิติที่งดงามยิ่ง
รายละเอียด

  • เมฆ ชนิดนี้เป็นที่รู้จักในหลากหลายชื่อดังนี้ เมฆคลื่น(billow cloud), เมฆแรงโน้มถ่วงเฉือน(shear-gravity clouds), และเมฆเคลวิน-เฮลม์โฮลตซ์(Kelvin-Helmholtz หรือเรียกย่อๆว่า เมฆKHI ซึ่งตั้งเป็นเกียรติต่อท่านลอร์ด Kelvin และ Hermann von Helmholtz)
  • เมฆนี้ลักษณะคล้ายเกลียวคลื่น และมันยังเป็นตัวชี้วัดถึงสภาพความปั่นป่วนในชั้นบรรยากาศำหรับอากาศยานต์ได้เป็นอย่างดีหากพบเห็นพวกมัน หมายความว่าอากาศปั่นป่วน
  • สาเหตุของการเกิดเมฆคลื่นหัวแตกนี้เกิดจาก ความเร็วในการเคลื่อนตัวของชั้นอากาศ 2 ชั้น(หรือมากกว่า2ชั้น)ที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน โดยอากาศชั้นบนเคลื่อนที่เร็วสูงกว่าชั้นล่าง
  • เมื่ออากาศด้านบนเคลื่นที่ด้วยความเร็วสูงกว่าชั้นล่างจะก่อให้เกิดแรงดันอากาศที่แตกต่างกันโดย กล่าวคืออากาศที่เคลื่อนที่เร็วกว่าจะมีความดันต่ำกว่า ทำให้อากาศด้านล่างจะมีแรงดันสูงจะยกตัวขึ้น ส่วนอากาศด้านบนที่เคลื่อนตัวด้วยความเร็วสูงจะมีแรงดันต่ำก็จะกดตัวลง ทำให้เกิดความปั่นป่วนในเมฆทำให้เมฆม้วนตัวดังภาพด้านล่าง
  • เมฆคลื่นหัวแตกนี้มักจะพบได้ในวันที่มีลมแรง ในสถานที่มีความหนาแน่นของอากาศที่แตกต่างกันอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุญหภูมิ
เมื่ออากาศแต่ละชั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่แตกต่างกัน เมื่อชั้นบนเคลื่อนที่เร็วจะเกิดความดันต่ำกว่าบรรยากาศชั้นล่าง เมื่อความดันไม่สมดุลย์กันอากาศความดันสูงจะยกตัวขึ้นส่วนที่ความดันต่ำจะกดตัวลง ก่อนให้เกิดการม้วนตัวดังภาพ

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://weather.about.com/od/cloudsandprecipitation/p/KelvinHelmholtz.htm
  • http://www.brockmann-consult.de/CloudStructures/kelvin-helmholtz-instability-description.htm

แบตเตอรี่ชีวภาพ



ถ่าน แบตเตอรี่ เป็นหนึ่งในขยะพิษ โซนี่จึงได้นำเสนอแบตเตอรี่รูปแบบใหม่ที่มีขบวนการทำงานเหมือนระบบย่อยอาหารในสิ่งมีชีวิต

รายละเอียด

  • แบตเตอรี่ต้นแบบนี้ได้ถูกนำมาแสดงในงาน Eco-Products 2011 ในกรุงโตเกียว(Tokyo)
  • แบตเตอรี่ต้นแบบนี้ใช้เศษกระดาษเป็นเป็นแหล่งพลังงาน และสามารถสร้างกระแสไฟฟ้าได้มากพอสำหรับ พัดลมขนาดเล็ก
  • แบตเตอรี่นี้ทำงานโดยใช้เอนไซม์ และเซลลูเลส(cellulase) ย่อยเซลลูโลส(cellulose) ให้กลายเป็นกลูโคส(glucose)ซึ่งเป็นน้ำตาลที่ แบตเตอรี่นี้ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการทำงาน ซึ่งทำให้พวกมันมีหลักการในการทำงานเหมือนระบบย่อยอาหาร
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2076132/Sony-develops-battery-runs-waste-paper.html

ชนเผ่าผิวแดง แห่ง นามิเบีย



หญิงสาวชาวเผ่า Himba ที่อาศัยอยู่ท่างตอนเหนือของนามิเบีย(Namibia) จะทำการประทินผิวของพวกเธอทุกวันด้วย ดินสีแดงที่เรียกว่า Ochre ผสมน้ำมัน และขี้เถ้า เป็นการป้องกันแสงอาทิตย์และสภาพแวดล้อมสุดขีดในทะเลทรายที่พวกเขาอาศัยอยู่ พวกเธอจะไม่มีการอาบน้ำ แต่จะใช้การอบตัวด้วยสมุนไพร(ดังภาพจั่วหัว) เป็นประจำทุกวันในตอนเช้า

ข้อมูลอ้างอิง


  • http://photography.nationalgeographic.com/photography/photo-of-the-day/himba-woman-namibia/

สุดยอดกล้องสโลโมชั่น ล้านล้านเฟรม/วินาที



ถ้าบอกว่ากล้องอันนี้สามารถบันทึกภาพได้ถึง ล้านล้านเฟรม/วินาที อาจจะนึกภาพไม่ออกว่ากล้องอันนี้มีความสามารถในการบันทึกภาพด้วยความเร็วขนาดไหน แต่ถ้าบอกว่ามันเร็วขนาดบันทึกภาพ อนุภาคแสงที่กำลังวิ่งได้

รายละเอียด

ใครจะเชื่อว่าเวลาเพียง 50 กว่าปีย้อนไป เมื่อมีการบันทึกภาพลูกกระสุนยิงทะลุผลไม้ได้ นับเป็นก้าวแรกของการบันทึกภาพความเร็วสูง แต่วันนี้เรามีกล้องที่เร็วพอจะถ่ายอนุภาคของแสงได้แล้ว จึงเท่ากับเวลา 50 กว่าปีเราสามารถถ่ายอนุภาคของแสงที่เร็วกว่าลูกกระสุนนับล้านเท่าได้
  • กล้องตัวนี้เป็นผลงานของสถาบัน MIT (Massachusetts Institute of Technology)
  • ทีมงานใช้กล้องตัวนี้บันทึกภาพลำแสงด้วยความเร็วประมาณ ล้านล้านเฟรม/วินาที ด้วยจำนวนเฟรมขนาดนั้นมันจึงสามารถแสดงภาพสโลโมชั่น ดังที่จะได้เห็นในคลิป(ชมได้ที่ลิงค์ข้อมูลอ้างอิง) ที่ทำการทดลองโดยการยิงลำแสงผ่านขวดน้ำโดยจะเห็นลำแสงค่อยๆวิ่งผ่านจนไปจบที่ฝาขวดที่เป็นส่วนทึบแสงทำให้แสงไม่สามารถผ่านไปได้
  • กล้องตัวนี้ประกอบไปด้วย เลนส์ขนาดใหญ่หนึ่งอันที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ที่เรียงอยู่ด้านข้าง 500 ตัว และแทนที่ระบบแฟลชแบบปกติด้วย ไทเทเนียมแซฟไฟล์เลเซอร์(titanium sapphire laser) ที่ยิงออกมาเป็นจังหวะทุกๆเวลาน้อยกว่า หนึ่งล้านล้านครั้งต่อวินาที

จะเห็นลำแสงค่อยๆเดินทางผ่านมาค่อนไปทางปากขวด


ภาพนี้จะเห็นว่าแสงกำลังเดินทางไปชนฝาขวด

ข้อมูลอ้างอิง

ไวน์เก่า

คุณคิดว่า ไวน์ ขวดนี้อายุซักเท่าไร(แต่มันดูเน่ามากเลย)

รายละเอียด

  • ไวน์ขวดนี้มีอายุประมาณ 1,650 ปี มันถูกฝังอยู่ในหลุมศพของขุนนางโรมัน ถูกขุดพบในปี 1867 ในเยอรมันที่เมือง Speyer และขณะนี้อยู่ตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Pfalz Historical Musuem มากว่าศตวรรษแล้ว
  • ไวน์เก่าขนาดนี้ถูกผนึกด้วยน้ำมันมะกอก และขี้ผึ้งตั้งแต่วันที่มันถูกผลิตขึ้น และถูกใช้ในพิธีศพของขุนนางโรมัน โดยทำการฝังรวมกับร่างของขุนนาง
  • ตอนนี้เหล่านักประวัติศาสตร์กำลังถกเถียงกันว่าจะเปิดไวน์ขวดนี้เพื่อทำการวิเคราะห์มันดีหรือไม่
  • ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์แผนกไวน์ Ludger Tekampe กล่าวว่า "เขาไม่แน่ใจว่าไวน์จะทนต่อการช็อคจากอากาศได้หรือไม่ถ้าเราเปิดมัน"
  • ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ Monika Christmann กล่าวว่า"มีความเป็นไปได้ที่มันจะยังไม่เสีย แต่คงไม่รื่นรมณ์นักถ้าจะชิมมัน"
ปล.เซียนไวน์ กล่าวว่า ไวน์เหมือนเป็นสิ่งมีชีวิต ตอนอยู่ในขวดพวกมันก็มีพัฒนาการ เร็วบ้างช้าบ้าง ไวน์ต้องหายใจเพื่อนำออกซิเจนไปทำปฏิกริยาทางเคมีให้เกิดกลิ่นรสอันเป็นเอกลักษณ์ เขาว่าเมื่อเปิดจุกไม้ก๊อกออกครั้งแรกก่อนที่ไวน์จะหายใจกลิ่นนั้นเหม็นตุ่ยๆ แต่เมื่อมันเริ่มหายใจพวกมันก็จะเริ่มมีกลิ่นรสหอมขึ้นตามแต่ชนิดของไวน์ แต่ถ้าพวกมันสัมผัสอากาศนานเกินไปพวกมันก็จะเริ่มแก่เฉาโรยลากลิ่นรสผิดเพี้ยนไป
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2072381/Worlds-oldest-bottle-wine-Historians-debate-open-350AD-vintage.html
  • อ่านเรื่องไวน์หายใจจากที่นี้เลยมันเป็นศาสตร์ในการดื่มโดยแท้ http://www.winescale.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=397480&Ntype=5

BB10 เจอโรคเลื่อน



ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้กระแสสมาร์ทโฟน จอสัมผัสนั้นแรงจริงๆ และยิ่ง BlackBerry มีความจำเป็นต้องเลื่อนกำหนดการจัดจำหน่าย BB10 ที่เป็นโทรศัพท์รุ่นจอสัมผัสรุ่นใหม่ของทางค่ายออกไปถึงปลายปี 2012 ทำให้ขณะ RIM ต้องพบกับสภาวะ
  • รายได้สุทธิ(Net income) ลดลง 71%
  • ยอดขายโทรศัพท์ของ BB จาก 14 ล้านเครื่อง ลดลงเหลือประมาณ 11-12 ล้านเครื่องจากไตรมาสที่แล้ว
  • นักวิเคราะห์กล่าวว่า BB ต้องหาโทรศัพท์รุ่นใหม่เพื่อมากอบกู้สภาพการณ์
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2075076/BlackBerry-BB10-Crucial-new-phones-delayed-late-2012.html?ito=feeds-newsxml

โค้กซีโร่เท่านั้นที่เมนทอสต้องการ



คำตอบก็คือ ไดเอทโค้ก หรือ โค้กซีโร่


  • สามารถก็เพราะทั่วไป ไดเอทโค้ก หรือ โค้กซีโร่จะมีปริมาณคาร์บอนไดออกไซค์(CO2)อยู่ในปริมาณสูงกว่าน้ำอัดลมทั่วไป เพราะจะเกิดขบวนการคาร์บอเนชั่น(carbonation)ในระดับต่ำ เพราะไม่มีน้ำตาลมาทำปฏิกริยา
  • ทั้งสารให้ความหวานที่ใช้แทนน้ำตาลยังทำให้ขบวนการคาร์บอเนชั่นเกิดขึ้นต่ำกว่าปกติอีก
  • ทั้งเมื่อไม่มีน้ำตาลละลายอยู่ในน้ำอัดลมทำให้น้ำอัดลมมีความหนืดที่ต่ำ ทำไม่เหนียวเวลาเกิดฟองซู่จึงพึ่งได้แรง และสูงกว่า
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.eepybird.com/featured-video/coke-and-mentos-featured-video/science-of-coke-mentos/

รถพลังงานจรวด



พอพูดถึงการใช้น้ำอัดลมเป็นพลังงานผมก็นึกถึง แฟรงกี้ ในเรื่อง วันพีช แต่วันนี้นำเรื่องแปลกที่มีรถพลังงานโซดากับลูกลมมาฝาก


รายละเอียด

  • รถพลังงานโซดากับลูกอมคันนี้เป็นผลงานของ Fritz Grobe กับ Stephen Voltz พวกเขาตั้งชื่อรถคันนี้ซะโก้เก๋ว่า มาร์คทรู(Mark II)
  • มาร์คทรู เป็นรถแบบ 1 ที่นั่ง พลังงานในการขับเคลื่อนคือ โค้กซีโร่(Coke Zero) จำนวน 54 ขวด กับ ลูกอมเมนทอสอีก 324 เม็ด
  • มาร์คทรูทำสถิติในการวิ่งได้ระยะทาง 239 ฟุต(21.5 เ้มตร)
  • ระบบขับเคลื่อนก็นำขวดโค้กมาตั้งไว้ต่อท่อจากปากขวดไปด้านหลังรถโดยที่ปลายท่อทำทำการลดขนาดพื้นที่ท่อเพื่อให้เกิดแรงฉึดพุงที่แรงขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2072606/Candy-powered-rocket-car-fulled-Coke-Mentos-breaks-distance-record--travelling-239-feet.html

กิน โค้ก กับ เมนทอส จะทำให้กระเพาะระเบิดหรือเปล่า



หลายคนคงเคยดูคลิปที่นำ เมนทอส หย่อนลงไปในขวดน้ำอัดลมแล้วเกิดฟองซู่พุ่งออกมา แล้วถ้าเกิดเรากินเมนทอลกับโค้กมันจะเกิดอะไรขึ้นในกระเพาะเรา

เกริ่นนำ

  • ก็อย่างที่เคยนำเสนอไปแล้วว่าขบวนการเกิดฟองของ น้ำอัดลม กับ ลูกอมเมนทอส เป็นปฎิกริยาทางฟิสิกส์ระหว่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์(CO2) ที่เกิดขบวนการนิวคลีเอชั่น(Nucleation คือขบวนการเปลี่ยนสถานะของ) ระหว่างวัตถุที่มีพื้นผิวจำนวนมาก กับ CO2
  • ลูกอมเมนทอสมีพื้นที่ผิวขุระเป็นรูพรุน ทำให้พื้นที่ผิวจำนวนมาก จากการที่ลูกอมมีการเคลือบผิวด้วยละองน้ำตาลระดับไมครอนถึง 40 ชั้น และพื้นที่จำนวนมากนี้เองที่เป็นบริเวณให้CO2ในน้ำอัดลมใช้เป็นพื้นที่ยึดเกาะก่อตัวเป็นฟองก๊าซ
เมื่อเรากินลูกอมเมนทอส กับ โค้ก จะเกิดอะไรขึ้น

คำตอบก็คือไม่เกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณไม่พิเรนเกินคน โดยการห่อลูกอมเมนทอสด้วยวัสดุบางอย่างที่จะละลายเฉพาะในกระเพาะอาหาร กินโค้กตามลงไปในเวลาที่เหมาะสมตอนห่อเมนทอสละลายพอดีทีละเป็นลิตร และอั้นไม่ให้เรอหรืออาเจียนออกมา
  1. เพราะเมื่อเราอมลูกลม ลูกลมก็ละลาย และยิ่งผิวของลูกอมเมนทอสยิ่งเป็นน้ำตาลอนุภาคเล็กจิ๋ว โดนน้ำลายพื้นที่ผิวลูกอมที่ขุระก็หายไปเป็นจำนวนมากแล้วจึงไม่มีพื้นผิวให้CO2ก่อตัวอย่างรวดเร็วฉับพลัน
  2. เวลาคุณดื่มโค้กตามลงไปคุณก็ดื่มแค่แก้ว สองแก้วไม่ได้ดื่มทีละเป็นลิตรๆเหมือนการทำหย่อนเมนทอสลงขวดโค้กลิตร ปริมาณ CO2 ที่กระเพาะต้องรองรับจึงไม่ได้มากมายอะไร
  3. และร่างกายของเราก็มีขบวนการในการป้องกันอันตรายจากการกินเกินขนาด ถึงจะเกิดฟองก๊าซจำนวนมากขึ้นในกระเพาะ กระเพาะก็สามารถขยายตัวเพื่อรองรับ แต่ถ้าขยายจนรับไม่ไหวแล้วร่างกายมนุษย์ก็มีกลไกในการเรอ หรือ อาเจียน เพื่อป้องกันอันตราย
  4. ทั้งหลายทั้งปวง ทำให้คุณสบายใจได้ว่า คุณจะไม่กระเพาะระเบิดตายจากการกินเมนทอส กับ โค้ก อย่างแน่นอน
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.eepybird.com/featured-video/coke-and-mentos-featured-video/science-of-coke-mentos/
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Mentos

การระเบิดของ เมนทอส กับ โค้ก



ทำไม เมื่อโค้กเจอเมนทอส จึงเกิดฟองซู่พุ่งกระฉูด

อย่างแรกต้องบอกก่อนว่าขบวนการเกิดฟองซู่ระหว่างเมนทอส กับ โค้ก เป็นปฏิกริยาทางฟิสิกส์ ที่เรียกว่า Nucleation ไม่ใช่ปฏิกริยาทางเคมี
  • เนื่อง จากโค้กเป็นน้ำหวานที่ใช้ความดันในการอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ลงไป คุณสมบัติของน้ำจะสามารถละลายก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์(CO2)ได้แค่ระดับหนึ่ง แต่ถ้าต้องการละลายCO2ลงไปให้มากขึ้นเพื่อให้ซ่ามาก ก็ต้องใช้ความดันที่สูงอัด CO2 ลงไป
  • ธรรมดาของธรรมชาิติอะไรที่มัน ไม่สมดุลย์มันก็พยายามกลับสู่สมดุลย์ ดังจะเห็นได้จากถ้าเราเปิดขวดน้ำอัดความดันในขวดจะลดลงเท่ากับความดัน บรรยากาศ ทำให้CO2จะค่อยๆละลายออกจนหมด จึงทำให้น้ำอัดลมที่เปิดทิ้งไว้หมดความซ่าในที่สุด
  • แต่เราก็สามารถเร่งขบวนการนี้ได้โดยการ หาอนุภาคที่มีพื้นผิวให้CO2ในน้ำอัดลมเกาะ เพื่อก่อตัวเป็นฟองฟู่ลอยออกมาทีละมากได้
  • และ เมนทอสก็คือตัวช่วยที่ดียิ่งเนื่องจาก ผิวของลูกอมเมนทอสมีการสเปร์ละอองน้ำตาลระดับไมครอนไว้ถึง 40 ชั้น ทำให้ผิวของเมนทอสมีช่องร่องโพรงจำนวนมากและนั้นทำให้ลูกอมเมนทอสมีพื้นที่ ผิวมากอย่างเหลือเชื่อ
  • พื้นผิวจำนวนมากนี้เองที่เป็นสถานที่ให้ก๊าซ คาร์บอนไดออกไซค์เกาะก่อตัวเป็นฟองจำนวนมากขึ้นรอบๆลูกอม เมื่อลูกอมที่กำลังจมลงฟองที่ฟองก๊าซที่เบาก็จะหลุดลอยขึ้นก่อเป็นพื้นที่ ผิวที่ว่างใหม่ให้ฟองก๊าซก่อตัวขึ้นอีกอย่างต่อเนื่องจนลูกลมตกถึงก้นขวด

ข้อมูลอ้างอิง


  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2072606/Candy-powered-rocket-car-fulled-Coke-Mentos-breaks-distance-record--travelling-239-feet.html
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Diet_Coke_and_Mentos_eruption

บุคคลแห่งปี 2011
Time ได้ยกย่อง ม็อบ เป็นบุคคลแห่งปี 2011 เนื่องจากนับตั้งแต่การการปฏิวัติดอกมะลิ ในตูนิเซีย ม็อบก็แพร่กระจายไปยังโลกตะวันออกกลางไล่ไปจนถึงยุโรปแม้กระทั้งสหรัฐอเมริกา สร้างให้ก่อเกิดการเปลื่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ไปทั่วโลก

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.time.com/time/specials/packages/article/0,28804,2101745_2102132,00.html

ข้อดีของบุหรี่
































.

ค้างคาวเท้าตัวดูดมาดากัสการ์



ถ้าจะให้นึกถึงสัตว์ที่มีเท้าเป็นตัวดูดที่ทำให้พวกมันสามารถไตร่ไปได้บนพื้นผิวที่เรียบลื่นอย่างเช่นกระจกได้ ก็คงต้องนึกถึงสัตว์จำพวก จิ้งจก ตุ๊กแก แต่ถ้าบอกว่ามีค้างคาวที่มี เท้าเป็นตัวดูดคุณจะเชื่อหรือเปล่า

รายละัเอียด

  • ค้างคาวที่มีเท้าเป็นตัวดูด คือ ค้างคาวเท้าตัวดูดมาดากัสการ์(Madagascar Sucker-footed Bat) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Myzopoda aurita
  • ค้างคาวเท้าตัวดูดมาดากัสการ์ เป็นสัตว์ประจำถิ่นของ มาดากัสการ์ ที่กำลังถูกคุกคามจากการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย
  • พวกมันได้ชื่อว่าเท้าตัวดูดมาจาก เท้าที่มีลัษณะเป็นถ้วยเล็กๆที่อยู่บริเวณข้อเท้าหน้า และเท้าหลัง
  • ค้างคาวพวกนี้ไม่ได้อาศัยในถ้ำ แต่ พวกมันอาศัยอยู่ในใบของต้นปาล์มที่ห่อเป็นม้วน โดยพวกมันจะใช้เท้าที่เป็นตัวดูด ดูดติดกับด้านในของใบปาล์ม
  • และที่ทำให้พวกมันแปลกประหลาดกว่าค้างคาวทั่วๆำไปที่จะนอนห้อยหัวลงพื้น แต่ ค้างคาวเท้าตัวดูดมาดากัสการ์อาศัยอยู่ในใบปาล์มโดยการเกาะตั้งหัวขึ้นฟ้า เพื่อความสะดวกในการบินหลบหนีเวลามีภัย
  • และเมื่อไม่นานนี้นักวิทยาศาสตร์ก็พึ่งค้นพบว่าความเชื่อในอดีตนั้นผิด เนื่องจากพวกมันใช้แรงยึดเหนี่ยวที่เกิดขึ้นจากของเหลวสร้างแรงดูดระหว่างเท้ากับพื้นผิว ไม่ใช่ใช้เท้าแบบถ้วยดูดติดกับพื้นผิวโดยตรง


ดูรูปพวกมันด้านหลังแล้ว ตอนนี้มาดูรูปพวกมันแบบใต้ท้องเมื่อให้พวกมันเกาะอยู่บนกระจกทำให้เห็นเท้าที่มีลักษณะเป็นตัวดูดอย่างชัดเจน


อันนี้ซูมให้ดูเท้าแบบตัวดูดให้เห็นแบบเต็มๆครับ


  • http://en.wikipedia.org/wiki/Madagascar_Sucker-footed_Bat
  • http://laelaps.wordpress.com/2007/06/14/the-sucker-disc-bats-of-costa-rica/

ปืนเลเซอร์ ยิงตาบอด(ชั่วคราว)


ม็อบถ่อย ม็อบเถื่อน เตรียมพบอาวุธปราบจราจลชิ้นใหม่ที่มีลักษณะคล้ายปืนไรเฟิล แต่แทนที่จะใช้กระสุนยาง กับใช้ม่านแสงเลเซอร์เป็นอาวุธแทน ที่จะทำให้คนที่มองลำแสงเลเซอร์นี้เกิดอาการตาบอดชั่วคราว

รายละเอียด

  • ปืนเลเซอร์กระบอกนี้มีชื่อว่า SMU 100 มีราคากระบอกละประมาณ 1.25 ล้านบาท(เห็นราคาแล้วคงไม่นำมาใช้ในไทยแน่ใช้ระเบิดแก๊สน้ำตาดีกว่าถูกด้วยทำให้ตาบอดก็ได้ แขน ขาขาดก็ได้)
  • SMU100 เป็นผลงานการพัฒนาของ Royal Marine commando
  • ปืนกระบอกนี้สามารถทำให้เป้าหมายที่อยู่ในระยะ1640 ฟุต(49 เมตร) สูญเสียการมองเห็นชั่วคราว โดยการสร้างม่านแสงความหนา 3.9 เมตร
  • ผลที่จะเกิดขึ้นกับผู้ที่โดนเลเซอร์นี้ คล้ายกับการมองดวงอาทิตย์ มันเป็นการขู่เพื่อไม่ให้ฝูงชนที่บ้าคลั่งมองไปยังบริเวณเป้าหมาย เมื่อมองดูไม่ได้ก็ไม่สามารถโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2072771/Police-set-deploy-25-000-James-Bond-style-laser-temporarily-blinds.html

นาฬิกาปลุกแบบสอด


ธรรมดาเราจะวางนาฬิกาปลุกไว้หัวเตียง แต่ลืมรูปแบบเก่าๆไปได้เลยเพราะวันนี้มีนาฬิกาปลุกแบบสอด สำหรับผู้หญิงเท่านั้น(หรือผู้ชายบางคนก็ใช้ได้) มันเป็นนาฬิกาปลุกระบบสั่นที่จะสอดใส่เข้าไปในจุดซ่อนเร้น เมื่อถึงเวลาปลุกมันก็จะสั่นปลุกคุณตื่นขึ้นมาอย่างสบายเนื้อสบายตัว นาฬิกาปลุกนี้มีชื่อว่า Little Rooster
ปล.หรือว่าปลุกแล้วจะไม่ยอมตื่นกันก็ไม่รู้
บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

อุปกรณ์ต่อพ่วง iPhone



อุปกรณ์ต่อพ่วง ชิ้นนี้มีชื่อว่า MagaPhone สิ่งที่ทำให้มันแปลกก็คือถูกสร้างจากเซรามิกล้วนๆ ไม่มีอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคแม้แต่ชิ้นเดียว

รายละเอียด

  • MagaPhone ถูกออกแบบมาเป็นรูปทรงคล้ายแตรเขาสัตว์ในอดีต เพื่อให้ได้เสียงที่ดังขึ้น และคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม ตั้งอยู่บนขาไม้ให้ลอยจากพื้นเพื่อให้เซรามิกสามารถสั่นสะเทือนทำให้สามารถปล่อยเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
  • คำถามผลิตมาทำไม คำตอบก็คือใช้เหมือนลำโพงเพื่อฟังเพลง และอีกอันคือใช้สำหรับการประชุมทางโทรศัพท์
  • ราคาก็อยู่ที่ 341 ปอนด์(17,000 บาท) ในรุ่นสีดำและขาว ส่วนสีทองราคา512ปอนด์(25,000บาท)
  • วิธีใช้ก็เปิดลำโพง iPhone แล้วเสียบโทรศัพท์เข้าปากด้านเล็กของ MagaPhone แค่นี้จบ

MagePhone แต่ละอันเป็นงาน Handmake


วิธีใช้งาน มีคำว่า Plug&Play อยู่ด้านบนด้วย


ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2071126/The-ultimate-iPod-dock-Golden-alpine-horn-turns-smartphone-gramophone.html

ค่าขนส่งแพงที่สุด


นาย Alan Bridges ซื้อแจกันอันนี้มาจากคนที่มาเปิดท้ายขายของด้วยราคา 3 ปอนด์(150 บาท) แต่เนื่องจากมันเป็นแจกันลายครามโบราณที่ใช้เป็นกระถางธูปจากประเทศญี่ปุ่น ที่ผลิตขึ้นในช่วงปี 1900 ทำให้ราคาที่แท้จริงของมันสูงถึง 14,000 ปอนด์(7แสนบาท) แต่ด้วยความซวยของนาย Alan Bridges ขณะที่กำลังห่อแจกันเพื่อทำการขนส่งมันก็เกิดบิ่นแตกเป็นรอยเล็กๆเท่าหัวสิว ทำให้มันราคาตกลงเหลือเพียง 2,000 ปอนด์(1แสนบาท) ทำให้เกิดเป็นค่าขนส่งที่แพงที่สุดครั้งหนึ่งด้วยมูลค่า 6 แสนบาท


รอยแตกที่ทำให้แจกันอันนี้ราคาตกไป 6 แสนบาท

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2072870/Vase-worth-14-000--damaged-wrapped-valuation.html

โรเบิร์ต นอร์ตัน นอยซ์ (Robert Norton Noyce )



Robert Norton Noyce โรเบิร์ต นอร์ตัน นอยซ์ เป็นชายที่ถูกเรียกขานว่าเป็น นายกเทศมนตรีแห่งซิลิคอนวันเล่ย์(The Mayor of Silicon Valley) เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Fairchild Semiconductor ในปี 1957 และ Intel ในปี 1968 เขาและ แจ็ค นิวบรัน( Jack Kilby)ได้รับเครดิตว่าเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นไมโครชิพ(microchip)ซึ่งมันนำไปสู่การปฏิวัติคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล


วันที่ 12 ธันวาคม 2011 Google ได้เปลี่ยน Google Noodle เป็นรูปไมโครชิพสีทอง เพื่อเป็นการรำลึกถึงวันคล้ายวันเกิดของ โรเบิร์ต นอร์ตั้น นอยซ์ (เกิดเมื่อ 12 ธันวาคา 1927 เสียชีวิต 3 มิถุนายน 1990)

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Robert_Noyce#cite_note-L.C3.A9cuyer.2C129-0

ภาพลวงตาลามกๆ



Wowboom เคยนำเสนอภาพลวงตา ทดสอบความลามกกันไปแล้วครั้งหนึ่งวันนี้มีมาทดสอบกันอีกแล้ว เตรียมความลามกให้พร้อมแล้วลุยกันเลย

แว๊บแรกคุณเห็นอะไร


แว๊บแรกคุณเห็นอะไร?
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
มันก็แค่โฆษณาขายยาทาหัวเข่าให้เรียบเนียน คิดอะไรกันลามกนะเนี้ย

แว๊บแรกคุณเห็นอะไร


แว๊บแรกคุณเห็นอะไร?
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
อะไรก็แค่มีผู้หญิงอีกคนยืนอยู่ด้านหลังสาวชุดดำ แล้วขาเธอดันโผล่มาระหว่างขาสาวชุดดำเท่านั้นเอง คิดอะไรกันครับลามกมากเลยนะเนี้ย
จะให้ดีสาวคนหลังหาซื้อครีมอันแรกมาทาซะหน่อยจะได้เข่าขาว

แว๊บแรกคุณเห็นอะไร


แว๊บแรกคุณเห็นอะไร?
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
พวกเธอก็นั่งของเธอกันดีๆ ไม่มีหวอออก ไม่มีแหกแข้ง แหกขาซักคนต้องไปตัดแว่นกันแล้วนะครับ

แว๊บแรกคุณเห็นอะไร


แว๊บแรกคุณเห็นอะไร?
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
ผิดด้วยหรือที่สาวคนแรกเธอเจ้าเนื้อแขนใหญ่ มันโป๊ตรงไหน ก็แค่ใส่เสื้อแขนกุดเท่านั้นเอง
ตกลงภาพลวงตาลามก หรือ เราลามกกันแน่ สงสัยจัง : )
บทความที่เกี่ยวข้อง

บทความที่เกี่ยวข้องกับ ภาพลวงตา


ภาพลวงตา 12+1 คน ภาพลวงตา คุก ภาพลวงตา ดอกกุหลาบ ภาพลวงตา เด็กส่งพิซซ่า ภาพลวงตา สายตาสั้นไม่มีเซ็กส์ ภาพลวงตา เมล็ดกาแฟหน้าคน ภาพลวงตา ประตูมันเปิดเข้าหรือออกกันแน่วะ ภาพลวงตา ลูกบอลกลิ้งลงบันได ภาพลวงตา แห่ง พระเจ้า

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.moillusions.com/2011/11/impolite-optical-illusions-gallery.html
  • http://www.moillusions.com/2011/01/bath-towel-illusion.html
  • http://www.moillusions.com/2010/11/no-ones-naked-in-here.html

คลังบทความ wowboom

เพื่อนๆ wowboom