โรคประหลาด แขนขา บวมยาว
ครอบครัวจาคอปส์ กำลังอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ที่จะต้องเลือกระหว่างชีวิตลูกหรือ การตัดขาทั้งสองของทารกน้อยวัย 3 เดือนทิ้ง
รายละเอียด
- ครอบครับจาคอปส์(Jacobs) ที่มีเดวิดผู้พ่อ และ Haleigh ต้องรับสิ่งไม่ปกติตั้งแต่อายุครรภ์ 21 สัปดาห์เมื่อไปทำการอัลตร้าซาวด์
- เมื่อพบว่าลูกชายของเขา และเธอมีขาที่ผิดปกติที่คาดว่าเกิดจากโรคที่พบยาก ที่จะส่งผลให้เลือด น้ำเหลือง และของเหลวอื่นๆในร่างกายไม่ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะตามที่ควรจะเป็น ส่งผลให้หนูน้อยเกิดมาโดยไม่มีนิ้วเท้า หรือแม้แต่เท้า ขาทั้งสองบวมโต
- ตอนนี้หนูน้อยมีอายุได้ 3 เดือนแล้ว และแพทย์ก็เร่งให้ทั้งสองตัดสิ้นใจว่าเลือกว่าจะเลือกชีวิตลูกชาย หรือจะตัดขาทั้งสองของเขาทิ้ง โดยตอนนี้ทั้งสองกำลังจะย้ายหนูน้อยไปยังโรงพยาบาล Bostons แทน
- หนูน้อยป่วยเป็นโรคที่ชื่อว่า Klippel–Trénaunay–Weber syndrome หรือเรียกย่อๆว่า KTS ที่รายงานการค้นพบโรคนี้ในช่วงปี 1900 โดยนายแพทย์ชาวฝรั่งเศลสองคนคือ Maurice Klippel และ Paul Trénaunay และในปี 1907และ1918 นายแพทย์ Frederick Parkes Weberชาวอังกฤษเยอร์มัน ก็ได้อธิบายถึงโรคที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับทั้งสอง แต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นโรคเดียวกับที่ค้นพบโดย Maurice Klippel และ Paul Trénaunay
- โรคนี้จะทำให้เกิดการฟอร์มตัวที่ผิดปกติของเส้นเลือดดำ และท่น้ำเหลือง ทำให้เกิดการอุกตันของ ของเหลวในร่างกาย ทำให้เกิดอาการบวม
- อาการของโรค เิกิดปานแดง เส้นเลือดและท่อน้ำเหลืองผิดรูปทำให้เกิดอาการอุดตันของเหลวในร่างกาย ทำให้บวมเนื้อเยือและกระดูกขยายตัวยิ่งทำให้เกิดกดทับท่อของเหลวต่างในร่างกาย
- วิธีรักษามีทั้งการผ่าตัดตามอาการผิดปกติ การกินยาเพื่อลดการอุดตันของเหลวในร่างกาย การใส่ชุดรัดในส่วนที่เกิดโรคเพือ่ลดการบวม ซึ่งการรักษาแต่ละวิธีขึ้นอยู่กับตอาการของโรคและแพทย์ที่รักษา
ชายบวัย 20 คนนี้ก็ป่วยเป็นโรค KTS ทำให้ขาซ้ายมีความยาวถึง 1.55 เมตร ส่วนที่บวมที่สุดวัวัดเส้นผ่านศูนย์กลางได้กว้างถึง 1.19 เมตร กระดูกข้อต่อขาที่เป็นโรคหลุด ผิดรูป ทำให้เขาต้องนอนอยู่แต่บนเตียงมาเป็น 10 ปี
ข้อมูลอ้างอิง
- http://www.dailymail.co.uk/news/article-2126547/Were-handling-best-Parents-face-heart-wrenching-decision-having-amputate-infant-sons-leg-diagnosed-rare-disease.html
- http://en.wikipedia.org/wiki/Klippel%E2%80%93Tr%C3%A9naunay%E2%80%93Weber_syndrome
- http://casereports.bmj.com/content/2010/bcr.04.2010.2926.full