วัวนักกล้าม เบลเยี่ยนบลู
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhtSpnm-8kcwgwP7V__OAhz23FIg-Dy6KXnH47iLOAfndxOQtbM5251bRpeLlbpM3lTr9e-cACFd9KeKr3BoHyHwdgg_eiX1dm6AbWIDFG31k9YaXD_iZGI44jO14qn_kyARP9XNTs9KN9g/s400/009.jpg)
ก่อนโกนขนก็ดูเหมือนวัวตัวใหญ่ทั่วไป
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhoDMfhYabr_F4o-MXFsCBSL8LVw0-RJQRYnmYm6pI4AIokqorILzHYisTb2VxRIIBEtjmx5JNXLZTc6zpMIVhRKh6_oWwXFTfrk8Fs-_hYm4aELz72Rf2CJDVc_NAFQElWpQRHaSAhp36f/s400/011.jpg)
แต่หลังจากการโกนขน จะทำให้เห็นกล้ามเนื้อจัดเจน ถ้าทาน้ำมันอีกซักหน่อยคงเหมือน นักกล้ามมนุษย์ทีเดียว
ข้อมูลการพัฒนาสายพันธุ์ วัวนักกล้าม
- ย้อนไปในช่วง คริสตศตวรรษที่ 19 บริเวณตอนกลาง และทางเหนือของเบลเยี่ยม มีการผสมพันธุ์วัวสายพันธุ์ Shorthorn cattle จากอังกฤษ กับวัวสายพันธุ์ Charolais cattle
- ในช่วงช่วงต้นมันถูกใช้เป็น วัวนม และวัวเนื้อ
- ต่อมาในช่วงปี 1950 ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ โดย โปรเฟสเซอร์ Hanset โดยการผสมเทียมวัวสายพันธุ์นี้
- ซึ่งทำให้เกิดการผลิตปกติของยีนที่ชื่อว่า Myostatin ( เป็นยีนที่ควบคุมการสร้างกล้ามเนื้อ ให้สมดุลย์กับปริมาณไขมัน ) เมื่อยีน Myostatin ทำงานน้อยลง ทำให้วัวสายพันธุ์เบลเยี่ยน มีกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นอย่างผิดปกติ คือทำให้เกิดกล้ามเนื้อสองชั้น ( Double-Muscle )
- เนื่องจากกล้ามเนื้อที่มากและอัดตัวกันแน่น ทำให้วัวสายพันธุ์นี้ไม่สามารถให้กำเนิดลูกได้เองตามธรรมชาติ บ่อยครั้งที่ต้องใช้การผ่าตัดทำคลอด
ข้อมูลอ้างอิง วัวนักกล้าม เบลเยี่ยนบลู
- http://en.wikipedia.org/wiki/Belgian_Blue
- http://www.builtreport.com/bovine.html