wowboom: ตุลาคม 2009

หนอนเรืองแสง กับ ถ้ำสวยที่สุดในโลก Waitomo Caves of New Zealand

หนอนเรืองแสงกับถ้ำสวยที่สุดในโลก

Waitomo Caves ถ้ำไวโทโม คือ ถ้ำหนึ่งเดียวในโลก ที่คุณจะสามารถเห็นดาวได้ทั้งที่อยู่ใต้โลก มันเป็น 1 ใน ถ้ำยอดนิยม ของนิวซีแลนด์ ( New Zealand ) ถ้ำนี้ไม่ได้งดงามเพียงเฉพาะตัวถ้ำเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้อาศัยในถ้ำนี้ด้วยอีกต่างหาก นั้นคือ หนอนเรืองแสง ถ้าคุณพร้อมเชิญ เราไปรู้จักมันให้มากกว่านี้ดีกว่า

ข้อมูล และรายละเอียด ถ้ำไวโทโม

ถ้ำไวโทโม เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่ในเกาะเหนือ( North Island ) ของประเทศนิวซีแลด์ ( New Zealand ) อยู่บริเวณทางตอนใต้ของเมือง Waikato หรือทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง Tekuiti ประมาณ 12 กิโลเมตร
คำว่า ไวโทโม ( Waitomo ) มาจากภาษาพื้นเมืองสองคำคือ คำว่า "wai" แปลว่า "น้ำ" และคำว่า "tomo" แปลว่า "หลุม บ่อ หรือ ถ้ำ" เมื่อนำมารวมกันจึงมีความหมายว่า น้ำไหลผ่านถ้ำ
ถ้ำนี้คาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 2 ล้านปี
ถ้ำไวโทโม ติดอันดับ 14 จาก 101 สถานที่ที่คุณจะต้องไปลองในเมืองกีวี ( Kiwi must-do's ) ที่จัดการสำรวจจานักท่องเที่ยว 2 หมื่นคน ในปี 2007 โดย Automobile Association
ในปี 2004 มีนักท่องเที่ยวกว่า 4 แสนคนมาเยี่ยมชมถ้ำนี้
ถ้ำไวโทโม ประกอบไปด้วย 3 ถ้ำหลักคือ Ruakuri Cave, Aranui Cave และ Gardner's Gut ทั้งหมดมีหินงอก หินย้อย และ หนอนเรืองแสง ที่งดงาม

ปากถ้ำเข้าสู่ ถ้ำไวโทโม ที่ดูสุดแสนธรรมดา เหมือนถ้ำทั่วไป แต่......

การเที่ยวชมถ้ำถ้าคุณไม่ชอบลุย ก็มีไกค์พานั่งเรือเที่ยวชมความงามก็ได้

แต่ถ้าคุณรักการลุย ก็ใช้ห่วงยาง ว่ายเที่ยวชม

ข้อมูล และรายละเอียด หนอนเรืองแสง

ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Arachnocampa luminosa
พวกมันไม่ใช่หนอน ตามชื่อเรียก แต่ชื่อมาจากรูปร่างที่คล้ายหนอน แต่พวกมันเป็นตัวอ่อนของแมลง
พวกมันมีวงจรชีวิต คือเป็น ไข่ แล้วเข้าสู่ช่วง ตัวอ่อน( ช่วงนี้ที่ถูกเรียกว่า หนอนเรืองแสง ) ช่วงดักแด้ และช่วงโตเต็มวัย ( เป็นแมลง มีรูปร่างคล้ายยุงสามารถบินได้ )
เมื่อฟักออกจาไข่ ตัวอ่อนจะมีขนาดลำตัวเพียง 3 ถึง 5 มิลลิเมตร ใช้เวลาประมาณ 6 ถึง 12 เดือนขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของอาหาร จนมีลำตัวยาว 3 เซ็นติเมตร จะเข้าสู่ช่วงดักแด้ แล้วถือกำเนิดใหม่เป็นแมลง
พวกมันในทุกช่วงชีวิต จะสามารถเรืองแสงได้ ทั้งเพศผู้ และเพศเมีย ในช่วงดักแด้ และโตเต็มวัยเป็นแมลงการเรืองแสงมีประโยชน์เพื่อ บ่งบอกเพศ สายพันธุ์ และการหาคู่
ในช่วงตัวอ่อนการเรืองแสงมีประโยชน์ เพื่อล่อเหยื่อ เพื่อนำมาเป็นอาหาร

บนเพดาน จะเห็นที่เป็นแสงไฟก็คือแสงจาก หนอนเรืองแสง ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่า มีดาวประดับอยู่บนเพดานถ้ำอย่างสวยงาม

ภาพนี้จะเห็นทางด้านขวาของรูป เป็นเส้นหนาๆ คือตัวหนอนเรืองแสง

เทคนิคการล่าเหยื่อ ของ หนอนเรืองแสง

พวกมันจะวางโครงข่ายท่อบนเพดานถ้ำ เพื่อเป็นทางสำหรับเคลื่อนที่ไปมา
ต่อมาพวกมันจะหย่อนเบ็ด ที่มีลักษณะคล้ายเส้นไหม ที่มีตุ่มน้ำเหนียวๆ ที่มีความยาวตั้งแต่ 1 - 50 เซ็นติเมตรลงมา กว่า 70 เส้น
เมื่อกับดักเสร็จสิ้น พวกมันก็ได้แต่รอ แล้วก็รอ ให้เหยือโชคร้ายหลงเข้ามาเล่นไฟ ที่เรืองออกมาจากตัวของพวกมัน เมื่อเหยื่อหลงเข้ามาก็จะติดกับ เบ็ดที่ห้อยเอาไว้ ยิ่งดิ้นก็ยิ่ง ติดแน่นเข้า
หนอนเรืองแสงจะเคลือนตัวไปตามโครงข่ายท่อที่วางไว้ ไปยังท่อของสายเบ็ดแล้ว โผล่ออกมาลากเหยื่อกับเข้าไปในท่อ เพื่อสังหาร และกินเป็นอาหาร wowboom
อาจจะดูโหดร้าย อาจจะดูสวยงาม แต่มันคือกฎของธรรมชาติ ผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะรอด

บทความดีๆ เกี่ยวกับ หนอน และ ถ้ำ

ข้อมูลอ้างอิง หนอนเรืองแสง กับ ถ้ำสวยที่สุดในโลก

http://en.wikipedia.org/wiki/Waitomo_Caves
http://en.wikipedia.org/wiki/Arachnocampa
http://www.odditycentral.com/pics/night-sky-of-the-underground.html

หมีน้ำ สัตว์ ทรหดที่สุดในโลก ( Water Bears )

หมีน้ำ สัตว์ทรหดเข้าขั้น กึ่งอมตะ

Tardigrades หรือที่รู้จักกันในชื่อ หมีน้ำ( Water Bear ) เป็นสัตว์ขนาดเล็กเมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวประมาณ 1.5 มิิลลิเมตร มีแปดขา ที่สามารถพบได้ทั่วไปทั่วโลก และสามารถดำรงณ์ชีวิตได้เกือบทุกสถาวะ จนเข้าขั้นกึ่งอมตะ

ข้อมูลทั่วไปของ หมีน้ำ

หมีน้ำถูกค้นพบครั้งแรกโดย Johann August Ephraim Goeze ในปี 1773
คำว่า Tardigrades มีความหมายว่า เจ้าตัวเดินช้า( Slow Walker )
ส่วนชื่อ หมีน้ำ ( Water Bear ) นั้นมาจากท่าทางการเดินของพวกมัน
เมื่อโตเต็มที่มีขนาดเพียง 1.5 มิลลิเมตร ส่วนตัวที่เล็กที่สุดมีขนาดเพียง 0.1 มิลลิเมตร ส่วนในช่วงตัวอ่อนมีขนาดเพียง 0.05 มิลลิเมตร
หมีน้ำมีมากกว่า 1000 สายพันธุ์ โดยมากเป็นพวกกินพืช ส่วนน้อยกินแบคทีเรีย และกินสัตว์
หมีน้ำสามารถพบได้ทั่วโลก ตั้งแต่ที่ยอดเขาหิมาลัย(Himalayas) ที่ความสูงกว่า 6,000 เมตร จนถึงในทะเลลึกถึง 4,000 เมตร ไม่ว่าจะเป็นที่ขั้วโลก หรือในบริเวณเส้นศูนย์สูตร
หมีน้ำชอบอาสัยอยู่ที่ต้นมอส และพวกเห็ด รา ต่างๆ แต่ยังสามารถพบได้ตาม ทราย ชายหาด ดิน แร่ธาตุ และในตะกอนน้ำ
ร่างกาย เป็นท่อน 4 ท่อน(ไม่รวมส่วนหัว) ในแต่ละท่อนมี 2 ขา ในแต่ละขามีเล็บ

รูปนี้เป็นภาพถ่ายโดยการสแกนด้วยกล้อง electron micrograph บริเวณใต้ท้องของหมีน้ำ

มาดูว่าทำไม หมีน้ำถึงได้ชื่อว่าเป็น หมีน้ำ สัตว์ ทรหดที่สุดในโลก

หมีน้ำสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า -272.8°C (ได้ประมาณ 1 นาที ) และที่ -200°C ( อยู่ได้ประมาร 1 วัน )
หมีน้ำสามารถมีชีวิตอยู่ได้ในที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 151 °C
สามารถทนรังสีได้มากกว่ามนุษย์ถึง 1,000 เท่า
เมื่อปราศจากน้ำพวกมันจะอยู่ในสภาพจำศีลได้กว่า 100 ปี และเมื่อได้รับน้ำพวกมันสามารถฟื้นคืนชีพขึ้นได้อีกครั้ง
สามารถอยู่ได้ในสภาพนอกโลก( ในปี 2007 หมีน้ำถูกน้ำนำไปทดสอบในโครงการ FOTON-M3 โดยน้ำไปโคจรในอวกาศถึง 10 วัน เมื่อนำพวกมันกลับมายังโลกพบว่าพวกมันส่วนใหญ่สามารถรอดชีวิต ทั้งยังมีบางตัววางไข่ ออกลูกได้ ต่างหาก )

ภาพนี้เมื่อพวกมันถูกแช่แข็ง พวกมันก็จะอยู่ในสภาพเหมือนจำศีล เมื่อละลายพวกมันพวกมันก็จะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง

บทความดีๆ เกี่ยวกับสัตว์ แปลกๆ

ข้อมูลอ้างอิง หมีน้ำ สัตว์ ทรหดที่สุดในโลก ( Water Bears )

http://en.wikipedia.org/wiki/Tardigrade
http://tardigrades.bio.unc.edu/
http://www.marsanomalyresearch.com/evidence-reports/2004/078/mars-organism-survivor.htm

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ภูเขาน้ำแข็งลูกอมยักษ์ ( Striped Icebergs )

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ภูเขาน้ำแข็งลูกอมยักษ์

Norwegian sailor ลูกเรือมอร์วี เจ้น นามว่า "Oyvind Tangen" วัย 62 ปี กล่าวว่า " ผมยังจำได้ดีว่าในวัยเด็กผมซื้อลูกอม แต่ในวันนี้ผมพบลูกอมยักษ์ลอยอยู่ในมหาสมุทร " เรือสำรวจทางสมุทรศาสตร์ มอร์วีเจ้น ได้เดินทางมายังบริเวณระหว่าง ทางใต้ของเมือง Cape Town ประมาณ 2,576 กิโลเมตร และ ทางเหนือของแอนตาร์กติก ประมาณ 1062 กิโลเมตร และนาย Oyvind Tangen ก็ได้พบภูเขาน้ำแข็งประหลาด สีสัน และลวดลายแปลกตาดัง ลูกอมยักษ์ลอยน้ำ

สาเหตุของ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ภูเขาน้ำแข็งลูกอมยักษ์ ( Striped Icebergs )

น้ำแข็งสีขาว เกิดจากฟองอากาศเล็กๆจำนวนมาก ที่ถูกกักอยู่ในน้ำแข็ง ขณะแข็งตัว
น้ำ แข็งสีฟ้า เกิดจากน้ำแข็งสีขาวที่เกิดการละลาย แล้วฟองอากาศเล็กๆเหล่านั้นถูกขับออกไปจนหมด แล้วเกิดการแข็งเป็นน้ำแข็งใหม่อีกครั้งอย่างรวดเร็ว
น้ำแข็งสี เขียว เกิดจากภูเขาน้ำแข็งที่ลอยอยู่ในทะเลที่มีสาหร่ายอยู่สูง ภูเขาน้ำแข็งส่วนที่จมอยู่ในน้ำทะเล อาจเกิดเป็นชั้นน้ำแข็งสีเขียว
ส่วนน้ำแข็งสีน้ำตาล สีดำ และสีเหลือง เกิดจากการตะกอนดิน หรือสิ่งเจือปนอื่นในน้ำที่ก่อตัวเป็นน้ำแข็ง

คลังภาพ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ภูเขาน้ำแข็งลูกอมยักษ์ ( Striped Icebergs )

ภูเขาน้ำแข็งก้อนนี้ สวยงาม แปลกตามากมาย เป็นชั้นสลับสี ขาว น้ำตาล น้ำเงิน แปลกตาทีเดียว

ส่วนภูเขาน้ำแข็งก้อนนี้ ก็งดงามอ่อนช้อย สีขาว สลับสีน้ำเงินเข้ม เหมือนหินอ่อนที่สลักเสลาด้วยฝีมือของ จิตรกรเอก

ส่วนก้อนนี้ก็สวยแปลกตาไม่แพ้กัน ขอบคุณธรรมชาติ ที่มอบสิ่งงดงามเช่นนี้ให้ชมครับ

บทความดีๆ เกี่ยวกับ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ

ข้อมูลอ้างอิง ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ภูเขาน้ำแข็งลูกอมยักษ์ ( Striped Icebergs )

http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-536928/Revealed-The-Antarctic-iceberg-looks-like-giant-humbug.html

สัตว์ ที่ อายุยืนที่สุดในโลก ( Longest Life Span )

สัตว์ ที่ อายุยืนที่สุดในโลก

Galápagos tortoise เต่ายักษ์กาลาปาโกส เป็นสัตว์ที่มี อายุยืนมากที่สุดในโลก คือ ถ้าอยู่ตามธรรมชาติสามารถมีชีวิตได้กว่า 100 - 150 ปี และมีน้ำหนักกว่า 300 กิโลกรัม มีความยาวกว่า 1.2 เมตร พบได้ที่ เกาะเจ็ดแห่งในหมู่เกาะกาลาปาโกส และเต่ายักษ์กาลาปาโกสที่มี อายุยืนที่สุดในโลก ที่ชื่อว่า Tu'i Malila มีอายุยืนถึง 188 ปี

ซาลาแมนเดอร์ยักษ์ สัตว์ครึ่งบนครึ่งน้ำ อายุยืนที่สุดในโลก

Giant Salamander ซาลาแมนเดอร์ยักษ์ คือ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ที่มี อายุยืนที่สุดในโลก คือมีอายุยืนถึง 155 ปี และยังครองตำแหน่งซาลาแมนเดอร์ ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความยาวกว่า 1.8 เมตร เมื่อโตเต็มที่

Turkey Buzzard นกแร้งตุรกี คือ นกที่มี อายุยืนที่สุดในโลก คือมีอายุยืนถึง 118 ปี

ช้าง สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่ อายุยืนที่สุดในโลก

Elephant ช้าง คือ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ที่มี อายุยืนที่สุดในโลก คือมีอายุยืนถึง 69 ปี และยังมีตำแหน่ง สัตว์บก ที่มีขนาด ใหญ่ที่สุดในโลก
<<อ่านบทความเรื่อง สัตว์ ตัวใหญ่ที่สุดในโลก คลิกที่นี้>>

Catfish ปลาบึก คือ ปลาน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังครองตำแหน่ง ปลาที่มี อายุยืนที่สุดในโลก คือมีอายุยืนถึง 60 ปี
<<อ่านบทความเรื่อง ปลา ตัว ใหญ่ที่สุดในโลก คลิกที่นี้>>

Chanel ชาแนล คือ สุนัข อายุยืนที่สุดในโลก ชาแนลเป็น สุนัข เพศเมีย พันธุ์ดัชชุนด์ผสม ( dachshund mix ) เมื่อเสียชีวิตมีอายุถึง 21 ปี เทียบได้กับมนุษย์ก็ประมาณ 147 ปี
<<อ่านบทความเรื่อง สุนัข อายุมากที่สุดในโลก คลิกที่นี้>>

Cicada เป็นจักจั่นสายพันธุ์หนึ่ง และถือว่าเป็น แมลงที่มี อายุยืนที่สุดในโลก คือมีอายุยืนถึง 17 ปี

อายุที่ระบุในบทความนี้ เป็นอายุขั้นสูงที่สุดที่เคยพบ ที่ถูกบันทึก และรวบรวมโดย สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ จากทั่วโลก

ข้อมูลอ้างอิง สัตว์ ที่ อายุยืนที่สุดในโลก ( Longest Life Span )

http://www.newton.dep.anl.gov/natbltn/400-499/nb486.htm
http://en.wikipedia.org/wiki/Tu%27i_Malila
http://en.wikipedia.org/wiki/Turkey_Vulture
http://retrieverman.wordpress.com/2009/08/13/cicada-season/

หนังสือโป๊เพลย์บอย ทำเก๋นำตัวการ์ตูนซิมป์สันขึ้นปก (Playboy & Simpson)

หนังสือโป๊เพลย์บอย ทำเก๋นำตัวการ์ตูนขึ้นปก

Playboy หนังสือโป๊เพลย์บอย ทำบิ๊กเซอร์ไพร์สโดยนำตัวการ์ตูนซี่รี่ย์ดังเรื่องซิมป์สันส์ (The Simpsons) ที่เป็นคุณแม่ลุกสาม มาขึ้นปก ( แต่ก่อนเน้นปลุกใจเสือป่า แต่นำการ์ตูนมาขึ้นปกจะเปลี่ยนเป็นปลุกใจ ลูกเสือ หรือไง หาคุณปู่ Hugh Hefner ) ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่หนังสือเพลย์บอย นำตัวการ์ตูนขึ้นปก ครั้งแรก

รายละเอียด บิ๊กเซอร์ไพร์ส Playboy + The Simpsons

หนังสือเพลย์บอย เล่มนี้เป็นปักษ์ เดือน พฤศจิกายน 2009
วางจำหน่ายทีอเมริกาวันที่ 16 ตุลาคม 2009 จ้า
นางแบบที่ขึ้นปกนี้คือตัวการ์ตูน ในซี่รี่ย์เดอะซิมป์สันส์ (The Simpsons) ที่ชื่อว่า มาร์จ ซิมสัน( Marge Simpson ) คุณแม่ลูกสาม ที่มีเอกลักษณ์คือผมสีฟ้าตั้งเป็นหอคอย ตากลม ผิวเหลือง
ข่าวว่า ช่างภาพก็คือ โฮมเมอร์ ซิมป์สันส์ ( Homer Simpsons ) สามีของเธอนั้นเอง

บทความดีๆ เกี่ยวกับ หนังสือ

ข้อมูลอ้างอิง หนังสือโป๊เพลย์บอย ทำเก๋นำตัวการ์ตูนขึ้นปก

http://www.blurt-online.com/news/view/2901/
http://www.msnbc.msn.com/id/33242662/ns/entertainment-arts_books_more/

พีธีศพแปลกๆ แขวนโลงศพไว้บนหน้าผา ( Sagada'a Burial )

พีธีศพแปลกๆ แขวนโลงศพไว้บนหน้าผา

Burial พีธีศพ หากพูดถึงพิธีศพที่พวกเราคุ้นเคย ก็คงเป็นการเผา การฝัง อาจจะมีที่แปลกแต่ก็เคยได้รู้ได้ยินกันอย่างเช่นในอินเดีย จะใช้การลอยศพไปในแม่น้ำคงคา แต่สำหรับชาวฟิลิปปินส์ ในจังหวัด Sagada กับมีพิธีศพที่แตกต่าง และเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา คือ การ แขวนโลงศพไว้บนหน้าผา ชาวเมือง Sagada สืบทอดพิธีกรรมนี้มากว่า 2000 ปีแล้ว

พิธีศพ ของชาว Sagada

ผู้สูงอายุจะจัดหาซุงขนาดพอเหมาะที่จะนำมาทำโลง โดยจะทำการแกะโลงนั้นด้วยตัวเอง แต่ถ้าหากเจ้าของโลงอ่อนแรงมาก หรือป่วยหนัก ทางญาติจะเป็นผู้รับหน้าที่สร้างโลงให้
หลังจากเสียชีวิต พวกเขาจะถูกใส่ลงในโลง ที่พวกเขาเตรียมไว้ แต่ถ้าศพอืด จะไม่สามารถยัดลงไปในโลงได้ อาจจะมีการทุบศพ ให้กระดูกแตกเพื่อให้สามารถบรรจุลงในโลงให้ให้ได้
หลังจากบรรจุศพใส่ลงในโลกแล้ว โลงนั้นจะถูกนำไปแขวนไว้ในฝังถ้ำ หรือ แขวนไว้บนหน้าผาแล้วแต่กรณี เคียงข้างโลงของบรรพบุรุษ
สถานที่ตั้งของสุสานนั้น ยากยิ่งที่จะเข้าถึง ทั้งยังเป็นความลับของตระกูล โลงบางโลงมีอายุกว่า 100 ปี
แต่ทุกสิ่งย่อมมีการดับสูญ แตกหัก เสียหาย เมื่อโลงชำรุด ผุพัง จนร่วงลงสู่พื้นดินด้านล่าง ก็จะมีโลงของผู้ตายรุ่นต่อมา มาแทนที่ไปเรื่อยๆ wowboom

ซึ่งพิธีศพ ดังกล่าว อาจจะดูแปลก และประหลาดในสายตาของคนภายนอก แต่การที่คนเป็นพยายามจะ ให้คนตาย อยู่ในสถานที่อันสงบ และยากที่จะมีใครไปรบกวน พวกท่านได้ ถึงมันจะยากยิ่งในการประกอบพิธีกรรม นั้นก็ย่อมแสดงให้เห็นถึงความรัก และเคารพที่คนเป็นมีให้ต่อ เหล่าคนตายทั้งหลายเหล่านี้

บทความที่เกี่ยวข้อง กับ ความตาย และพิธีกรรมประหลาด

ข้อมูลอ้างอิง พีธีศพแปลกๆ แขวนโลงศพไว้บนหน้าผา

http://atlasobscura.com/places/sagada

นิ้วกลาง ของ กาลิเลโอ ( Galileo's Middle Finger )

นิ้วกลาง ของ กาลิเลโอ

Galileo's Middle Finger นิ้วกลาง ของ กาลิเลโอ ถูกขโมยออกจากศพ กาลิเลโอ โดย Anton Francesco Gori เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 1737 เป็นเวลา 95 ปีหลังจากกาลิเลโอเสียชีวิต ในขณะที่ศพของกาลิเลโอถูกขนย้ายไปยังที่ฝังศพใหม่ ที่ Santa Croce ปัจจุบันนิ้วกลางของกาลิเลโอ ถูกเก็บรักษาไว้ในถ้วยแก้วทรงไข่ ที่ พิพิธภัณฑ์ Florence History of Science Museum
wowboom
เพิ่มเติมเกี่ยวกับ กาลิเลโอ

นิ้วกลางของกาลิเลโอ เก็บอยู่ในถ้วยแก้วทรงไข่ ตั้งบนแท่นหินอ่อน สลักคำสรรเสริญแด่กาลิเลโอ ขณะนี้ตั้งแสดงอยู่ที่ Florence History of Science Museum

กาลิเลโอ กาลิเลอี

ข่าวด่วน ค้นพบ นิ้ว ฟัน ของ กาลิเลโอ เพิ่มเติม
ล่าสุดนายเปาโล กัลลุซซี ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในฟลอเรนซ์ ได้แถลงว่า ได้ค้นพบโหลแก้วใส่ นิ้วหัวแม่มือ และนิ้วกลาง ข้างขวา พร้อมทั้งฟันล่าง 1 ฟี่ ที่ได้รับมอบมาจากนักประมูลที่ไม่เปิดเผยชื่อ ที่นำมามอบให้แก่ทางพิพิธภัณฑ์ หลังจากโหลดังกล่าวได้สูญหายไป 1 ศตวรรษ

โหลบรรจุนิ้ว และฟันของกาลิเลโอ ในช่วงแรกที่ถูกลักลอบตัดจากศพของ กาลิเลโอ ถูกเก็บรักษาไว้โดยขุนนางชั้นสูงของอิตาลี ที่เคารพและนับถือเขา และมันได้ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั้งในปี 1905 โหลดังกล่าวได้ถูกขายให้แก่บุคคลที่ไม่เปิดเผยชื่อ และหายสาบสูญไปจากหน้าประวัติศาสตร์
ทางพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ในฟลอเรนซ์ จะนำโหลและนิ้ว และฟันที่พึ่งค้นพบนำออกมาจัดแสดง พร้อมกับนิ้วกลางซ้าย ที่มีอยู่เดิมใน เดือนมีนาคม 2010
อ้างอิง http://www.maniacworld.com/Galileo-Finger.html

ส่วนร่างของ กาลิเลโอ นอนหลับอย่างสงบอยู่ที่ หลุมฝังศพที่สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานของเขา ที่ เมือง Florence ประเทศอิตาลี่ (Italy)

รูปนี้คือ เลนส์ ที่กาลิเลโอนำมาใช้ในกล้องโทรทรรศน์ตัวแรก ของเขา เป็นที่น่าเสียดายที่จากอุบัติเหตุมันตกแตกในช่วงศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่ Florence History of Science Museum

ภาพนี้คือ 1 ใน 2 กล้องโทรทรรศน์ ของแท้ของ กาลิเลโอ มีกำลังขยาบ 20 เท่า ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ที่ Florence History of Science Museum

ข้อมูลอ้างอิง นิ้วกลาง ของ กาลิเลโอ

http://atlasobscura.com/places/galileos-middle-finger
http://brunelleschi.imss.fi.it/galileopalazzostrozzi/object/TheMiddleFingerOfGalileosRightHand.html
http://brunelleschi.imss.fi.it/galileopalazzostrozzi/object/GalileoGalileiObjectiveLens.html

ผู้หญิงที่มีอวัยวะเพศ แข็งแรงที่สุดในโลก ( world’s strongest vagin )

ผู้หญิงที่มีอวัยวะเพศ แข็งแรงที่สุดในโลก

Tatiata Kozhevnikova คือ หญิงสาวชาวรัสเซียที่ได้รับการบันทึกจาก กินเน็สบุ๊ค ว่าเป็น ผู้หญิงที่มีอวัยวะเพศ แข็งแรงที่สุดในโลก เนื่องจากเธอสามารถ ใช้ตรงนั้นยกสิ่งของที่หนักได้ถึง 14 กิโลกรัม

Tatiata กล่าวว่า หลังจากคลอดเธอมีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อบริเวณ ช่องคลอดอ่อนแอมาก ( คาดว่าทำให้มีทำใ้ห้มีปัญหาเรื่องการอั้นปัสสาวะ ) ทำให้เธอคิดว่าคงต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว และเธอก็เริ่มออกกำลังกายอวัยวะตรงนั้น โดยใช้ Murano ball แต่มันมีปัญหาคือมันยากที่จะนำออกจากช่องคลอด แต่เธอก็ไม่ถอย แต่มาเธอจึงประดิษฐบอลที่เหมาะสมกับช่องคลอด ขึ้นมาเอง และฝีกฝนจนสำเร็จยุทธ์ในที่สุด

คลังภาพ ผู้หญิงที่มีอวัยวะเพศ แข็งแรงที่สุดในโลก

อย่างแรกก็ต้องมีลูกบอลทรงรับบี้ มีเชือก และคลิปสำหรับหนีบลูกเหล็ก

อุปกรณ์พร้อม ก็ต้องเปลี่ยนชุดสำหรับโชว์ ให้สวยเสียก่อน และกันอุจาดตา

นำคลิปไปเกี่ยวกับลูกเหล็กที่จะแสดงโชว์

เสร็จก็ค่อย ยัดลูกบอลทรงรับบี้เข้า .........

เมื่อเสร็จ จะลุก จะโฟสท์ท่าอย่างไรก็ไม่หลุด

จะโก้งโค้งเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาก็ไม่หลุด (เจ๊แกแรงจริง)

ส่วนไอ้กระผมจะพากษ์ทำไม คิดว่าตัวเองเป็นสมิงขาว หรืออย่างไร ?

บทความที่เกี่ยวข้อง กับ อวัยวะเพศ

ข้อมูลอ้างอิง สาวที่มีตรงนั้น แข็งแรงที่สุดในโลก

http://www.odditycentral.com/news/the-worlds-strongest-vagina.html

วิหารหนู ประเทศอินเดีย ( Temple of Rats)

วิหารหนู ประเทศอินเดีย

Karni mata Temple วิหารคาร์นีมาทา คือ วิหารที่สร้างเพื่ออุทิศ ให้แด่หนูที่มีความเชื่อ ว่าเป็นเหล่าลูกหลานของเทพธิดา Karni mata ที่เป็นร่างอวตารของเทพธิดา Darga (เทพธิดาแห่งพลัง และชัยชนะ) ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาฮินดู ที่ผู้ศรัธาจะนำนม อาหารดีๆ มามอบให้แด่หนูเหล่านี้ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ หลายคนไม่กล้าเข้าสู่วิหารนี้ เพราะกลัวหนู

ข้อมูลเฉพาะ วิหารหนู

สถานที่ตั้ง อยู่ทางตอนใต้ของเมือง Bikaner ประมาณ 30 กิโลเมตร
สร้างในช่วง ศตวรรษที่ 15
สร้างเพื่ออุทิศให้แด่ เทพธิดา Karni mata และเหล่าลูกหลานของเธอ
ภายในวิหารมีหนูประมาณ 20,000 ตัว

ตำนานวิหารหนู

ในช่วงศตวรรษที่ 14 Karni mata หญิงผู้อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือคนยากไร้ คนยากจน และเป็นที่เคารพรักของชาวบ้าน
และเมื่อบุตรชายของเธอเกิดเสียชีวิตลง
เธอได้ร้องขอ วิงวอนต่อเทพพระเจ้าแห่งความตายนามว่า Yama แต่เธอได้รับการปฏิเสธต่อคำของที่จะคืนชีพให้แก่บุตรชายของเธอ
แต่เทพแห่งความตายได้ผ่อนปรนให้ ให้ว่าเหล่าลูกหลาน ของเธอเมื่อเสียชีวิตลง สามารถกับมาเกิดเป็นหนูได้
จากความเชื่อเหล่านี้จึงทำให้มีคนสร้างวิหาร แห่งนี้ให้อุทิศให้แด่หนู ที่เชื่อว่าเป็นลูหลานของ Karni mata wowboom

คลังภาพ วิหารหนู ประเทศอินเดีย ( Temple of Rats)

ดูก็จะรู้ว่ามีคนศรัธามากมายขนาดไหนที่มาศักการะวิหารหนูแห่งนี้ จากคนที่เข้าแถว และสังเกตุที่ด้านบนของลานจะมีการขึงตาข่าย เพื่อป้องกันนก เข้ามาทำร้ายหนูเหล่านี้

ภายในวิหารสร้างจากหินอ่อน อย่างวิจิตรสวยงาม แต่มีแต่หนูทุกหนทุกแห่ง

เหล่าผู้ศรัธาจะน้ำนม มามอบให้เหล่าหนูกิน

หนู หนู หนู หนู หนูที่ไหนก็มีแต่หนู

หนู หนู หนู หนู หนูที่ไหนก็มีแต่หนู มีแต่หนู

บทความที่เกี่ยวข้องกับ อินเดีย

ข้อมูลอ้างอิง วิหารหนู ประเทศอินเดีย ( Temple of Rats)

http://www.odditycentral.com/pics/karni-mata-the-temple-of-rats.html
http://atlasobscura.com/places/karni-mata-temple
http://www.culturalindia.net/indian-temples/karni-mata.html