บทความดีๆ ชายไร้แขน ไร้ขา ที่สอนให้คนอื่นลุกขึ้นยืน ( Nick Vujicic)

บทความดีๆ ชายไร้แขน ไร้ขา ที่สอนให้คนอื่นลุกขึ้นยืน

Nick Vujicic นิค วูจิซิค ชายพิการไร้แขน ไร้ขา ที่สอนให้ คุณ ผม และคนอื่นลุกขึ้นยืน (จะเป็นไปได้อย่างไร แค่คนพิการที่ไม่มีแม้แต่แขนขา จะมาสอนคนปกติให้ลุกยืน ) หากคุณคิดเช่นนั้นคุณคิดผิด และหลังจากนี้คุณจะต้องรัก และเคารพในตัวของ นิค ชายผู้หว่านเมล็ดพันธุ์ ความหวังต่อผู้ที่รู้สึกสิ้นหวัง

ประวัติ ของ นิค วูจิซิค(Nick Vujicic)

  • เกิดวันที่ 4 ธันวาคม 1982
  • นิค เกิดที่เมือง Melbourne ประเทศออสเตรเลีย( Australia )
  • นิคป่วยเป็นโรค Tetra-amelia disorder ( เป็นภาษาที่มีรากศัพท์จากภาษากรีก 2 คำคือ Tetra แปลว่า สี่ กับคำว่า Amelia แปลว่า บกพร่อง )
  • นิค ไม่มีแขนทั้งสองข้างตั้งแต่หัวไหล่ไป ส่วนขานิคมีขาสั้นๆและลีบเล็กหนึ่งข้างกับนิ้ว 2 นิ้ว
  • ในช่วงวัยเรียน นิค มีปัญหายากลำบากในการเข้าศึกษาเนื่องจากกฎหมายของ ออสเตรเลีย ไม่อนุญาตให้เด็กพิการ เรียนร่วมกับ เด็กปกติ
  • แต่โลกนี้ไม่สิ้นหวัง นิคเป็นเด็กพิการ ในออสเตรเลียคนแรกๆ ที่ได้เรียนรวมกับเด็กปกติ เนื่องจากมีการแก้กฏหมาย
  • นิคใช้ขา ที่มีนิ้วเล็กๆ 2 นิ้วมัดติดกับปากกาในการเขียนหนังสือ
  • จุดเปลี่ยนในชีวิตของ นิค เกิดขึ้นเมื่อนิคได้อ่านหนังสือพิมพ์ และพบเรื่องราวเกี่ยวกับคนพิการ และทำให้นิคคิดได้ว่า เขาไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก
  • เมื่อนิคอายุได้ 17 เขาเริ่มตั้งกลุ่มพูดคุย ให้คำปรึกษาสำหรับกลุ่มคนพิการอื่นๆ และในที่สุดนิค ก็ตั้งมูลนิธิ Life Without Limbs
  • นิค จบมหาวิทยาลัยด้วยวัย 21 ปี กับปริญญา 2 ใบทางด้านบัญชี และด้านการวางแผนการเงิน(Financial Planning)
  • นิค เริ่มออกเดินทางไปทุกหนทุกแห่ง เพื่อเปิดการบรรยายเพื่อเป็นกำลังใจต่อผู้สิ้นหวังทั้งหลาย
คลังภาพ นิค ชายไร้แขน ไร้ขา ที่สอนให้คนอื่นล้มแล้วลุกขึ้นยืน



นิค ในวัยเด็ก


นิค ไม่เคยท้อ เขาใช้ ขาเล็กๆ และนิ้วเพียง 2 นิ้วของเขา พยายามเขียนหนังสืออย่างตั้งใจ


นิค กล่าว ในบางครั้งหากคุณล้ม และคุณรู้สึกว่าไม่มีกำลังใจจะลุกขึ้น ขอให้คุณดูผม


นิค กล่าวว่า หากเขาล้ม เขาก็จะพยายามลุก ไม่ว่าจะกี่ร้อย กี่พันครั้งเขาก็จะพยายามลุก หากเขาไม่พยายามวันนี้เขาก็คงยังลุกไม่ได้


ขอให้ทุกคนจงอย่าสิ้นหวังนะครับ ; )

คลิปวีดีโอ ของนิคดีมากครับ มีคำแปลภาษาไทย ผมแนะนำว่าควรดู



ผมอยากให้ทุกคนได้ดูคลิปนี้ กรุณาอย่าข้างมันไป นะครับ แล้วคุณจะรู้ว่าทำไม เขาถึงหาญกล้ามาสอนให้คนอื่นลุกขึ้นยืน

ข้อมูลอ้างอิง ชายไร้แขน ไร้ขา ที่สอนให้คนอื่นล้มแล้วลุกขึ้นยืน ( Nick Vujicic)

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Nick_Vujicic
  • http://www.fulldhamaal.com/image-gallery/nick-vujicic-man-without-arms-and-legspics-and-video-9430.htm
  • ส่วน คลิปใครแปลก็ไม่รู้แต่ขอขอบคุณมาก ทีมาของคลิปจาก www.fwdder.com ; Post by มะเมี่ยว

ภาพลวงตา กับ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ผีหัวขาด (fluid optical illusions)

ภาพลวงตา กับ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ผีหัวขาด
ภาพลวงตา กับ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ผีหัวขาด

Fluid Optical ภาพลวงตาจาก การหักเหของแสงนี้เป็น ภาพลวงตาที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เนื่องจากแสงมีคุณสมบัติ เดินทางเป็นเส้นตรง แต่เมื่อเดินทางผ่านตัวกลางที่มีความหนาแน่นต่างกัน แสงจะเกิดการหักเหไป เมื่อแสงที่หักเหสะท้อนเข้าตาของเรา ภาพที่ได้จึงเบี่ยงแบนไปจากความเป็นจริง


ข้อมูลอ้างอิง ภาพลวงตา กับ ปรากฏการณ์ธรรมชาติ ผีหัวขาด

  • http://www.moillusions.com/2009/06/two-fluid-optical-illusions.html

แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )

แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน


Pioneer plaque แผ่นจารึก บนยานไพโอเนียร์ คือแผ่นโลหะที่ติดอยู่ข้างยานสำรวจอวกาศ ที่มนุษย์พยายามจะสื่อสารกับ สิ่งมีชีวิตนอกโลก (ซึ่งทรงภูมิปัญญา) เคยสงสัยกันหรือเปล่า ว่า นาซ่าต้องการจะสื่ออะไร

รายละเอียดเกี่ยวกับ Pioneer plaque


  • แผ่นจารึกนี้ทำจาก โลหะอลูมิเนียม เคลื่อบผิวด้วยทองคำ
  • แผ่นจารึกมีขนาด 22.9 x 19.2 x 0.127 เซ็นติเมตร ( กว้าง x สูง x หนา )
  • รูปภาพบนแผ่นใช้การเซาะเป็นร่องลึก 0.0381 เซ็นติเมตร
  • แผ่นจารึกถูกติดไว้ใน บริเวณฐานยึดเสาอากาศของยานไพโอเนียร์ ในตำแหน่งที่ได้รับการป้องกันจากการกัดกร่อน โดย ฝุ่นสุริยะ
  • แผ่นจารึกนี้ถูกติดตั้งไว้ในยานสำรวจอวกาศ ไพโอเนียร์ 10 และ 11
แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )
ตำแหน่งที่ทำการ ติดตั้งแผ่นจารึก บนยานไพโอเนียร์ 10 และ 11

ความหมายของ ภาพวงกลม 2 วง มีขีดประหลาด มากมาย

แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )
  • วงกลมสองวงนี้ คือ สัญลักษณ์ของธาตุไฮโดรเจน ในระดับโครงสร้างพื้นฐาน
  • ซึ่งวงกลมแต่ละวง ต้องการสื่อว่าไฮโดรเจนมีโมเลกุล 2 อะตอม
  • ขีดด้านบนแทนสัญลักษณ์เลขฐานสอง แทนตัวเลข 1 ซึ่งขีดนั้นต้องการจะสื่อว่าธาตุไฮโดรเจนมีอิเล็กตรอนชั้นนอกสุด 1 ตัว ในแต่ละโมเลกุล
  • การที่ขีดด้านบนวงกลม หันสลับทิศกัน นั้นต้องการจะสื่อว่า อิเล็กตรอนม้วนไปในทิศทางตรงกันข้ามกันซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนวน ทำให้เกิดความยาวคลื่น(Wavelength) เท่ากับ 21 เซ็นติเมตร หรือ ในหน่วยเวลาที่ความถี่เท่ากับ 1420 MHz
  • ซึ่งหน่วยความยาวคลื่นนี้จะนำไปประยุกต์ใช้อ่านสัญลักษณ์ อื่นที่เหลือ
  • ทำไมจึงเลือกใช้ธาตุ ไฮโดรเจน เพราะ ไฮโดรเจนเป็นธาตุที่สามารถพบได้ในจักรวาล ได้มากที่สุด
ความหมายของ ภาพชาย หญิง ในสภาพเปลือย

แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )
  • ผู้ชายยกมือขวา แยกนิ้วโป้งออก ซึ่งต้องการสื่อว่า สามารถเคลื่อนไหว และใช้มือได้อย่างคล่องแคล่ว และยังบอกเป็นนัย ถึงการทักทาย ด้วยไมตรีจิต
  • การที่เปลือยกาย ต้องการสื่อถึงความแตกต่างระหว่างเพศ ว่ามี 2 เพศ คือ ชาย และ หญิง
  • สังเกตทางด้านซ้ายของฝ่าย หญิง จะมีสัญลักษณ์ ที่เป็นตัวเลขฐานสอง แทนตัวเลข 8 คูณด้วยความยาวคลื่นของไฮรโดเจน มีค่าเท่ากับ 8 x 21 = 168 คือความสูงเ้ฉลี่ยของมนุษย์ผู้หญิง
  • ส่วนเส้นร่างๆ เส้นโค้ง และรูปสามเหลี่ยมด้านหลังแทน สัญลักษณ์ของยาน ไพโอเนียร์ เพื่อเป็นการเปรียญเทียบความสูงของมนุษย์ กับยานไพโอเนียร์
ความหมายของภาพ ขีด 15 ขีด ที่พุ่งกระจายออกจากกัน เป็น แฉก

แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )

  • เส้นตรงทั้ง 15 เส้นพุ่งออกมาจากแหล่งกำเนิดเดียวกัน มี 14 เส้น กำกับไว้ด้วย สัญลักษณ์เลขฐานสอง
  • เส้นทั้ง 14 เส้นแทนระยะทางจากพัลซาร์(Pulsars) ถึงดวงอาทิตย์ของเรา ( Pulsars คือ ดาวนิวตรอนที่ส่งคลื่นแม่เหล็กอำนาจสูงออกมา เป็นลำแสงหมุนวน ซึ่งสามารถตรวจจับได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำ จึงสามารถใช้ระบุตำแหน่งในจักรวาลได้ )
  • ที่ปลายของแต่ละเส้น คือ การระบุแกน 3 มิติในจักรวาล ว่าจากพัลซาร์ แต่ละแห่ง มุ่งหน้ามาทางทิศทางใดจะมาถึงดวงอาทิตย์ของเรา
ความหมายของภาพ ดวงกลม 10 ดวง และลูกศรจากวงกลม อันที่ 4 ชี้ไปยังวัตถุประหลาด

แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )
  • ภาพนี้คือสัญลักษณ์แทน ระบบสุริยะจักรวาล ของเรา
  • สัญลักษณ์เลขฐานสอง เหนือวงกลม แทนระยะทางจากดวงอาทิตย์ ถึง ดาวแต่ละดวง ( หน่วย เท่ากับระยะ 1/10 ของวงโคจรของดาวพุธ)
  • วงกลมใหญ่สุดทางซ้าย คือ ดวงอาทิตย์(Sun)
  • วงกลมอันที่ 2 คือ ดาวพุธ(Mercury)
  • วงกลมอันที่ 3 คือ ดาวศุกร์(Venus)
  • วงกลมอันที่ 4 คือ โลก(Earth) และเส้นลูกศร คือเส้นทางเดินทางของยานไพโอเนียร์ ปลายลูกศรคือ สัญลักษณ์ของยานไพโอเนียร์
  • วงกลมอันที่ 5 คือ ดาวอังคาร(Mars)
  • วงกลมอันที่ 6 คือ ดาวพฤหัสบดี(Jupiter)
  • วงกลมอันที่ 7 คือ ดาวเสาร์(Saturn) สังเกตจะมีขีดตรงกลาง ก็คือ วงแหวนของดาวเสาร์
  • วงกลมอันที่ 8 คือ ดาวยูเรนัส( Uranus )
  • วงกลมอันที่ 9 คือ ดาวเนปจูน( Neptune )
  • วงกลมอันที่ 10 คือ ดาวพลูโต ( Pluto ) หลายคนยกมือทักท้วงว่าดาวพลูโต ถูกปลดจากระบบสุริยะจักรวาลไปแล้ว จากคำสั่งของ(IAU) เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2006 จะเอามาลงในจารึกนี้ทำไม ก็ ตอนยานไพโอเนียร์ออกเดินทางจากโลก มันปี 1973 ดาวพลูโตมันยังไม่โดนเด้งฟ้าผ่า
ฮาฮา จารึกนี้ทางนาซ่าต้องการสื่อสารกับ สิ่งมีชีวิต ที่ทรงภูมิความรู้แน่นอน เนื่องจากมนุษย์อย่าง Admin DEN ก็ยังไม่สามารถอ่านได้ และกว่าจะแปลได้ก็แทบตาย ขนาดมีคำอธิบาย ยังแปลไม่ค่อยรู้เรื่องเลย เนื่องจากบทความนี้ เป็นบทความทางวิทยาศาสตร์ จึงอาจมีความผิดพลาดในการแปล เนื่องจากขาดภูมิรู้ ผิดพลาดประการใด แนะนำ Comment เข้ามาได้ครับ
บทความ เกี่ยวกับ อวกาศ และ จักรวาล

ข้อมูลอ้างอิง แผ่นจารึก เพื่อสื่อสารกับเอเลี่ยน ( Pioneer plaque )

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Pioneer_plaque
  • http://sunflowercosmos.org/amazing_discovery/amazing_discovery_home/amazing_discovery_1.html
  • http://sunflowercosmos.org/ เว็บภาษาไทย มีเรื่องดาราศาสตร์ ในเชิงลึก แต่อ่านเข้าใจง่าย ใช้อ้างอิงในบทความนี้มากมาย ทั้งข้อความ และรูปภาพบางส่วน

ดาวเทียม ดวงแรกของโลก ( Sputnik 1 )

ดาวเทียม ดวงแรกของโลก
ดาวเทียม ดวงแรกของโลก ( Sputnik 1 )

Sputnik Program คือ โครงการส่งยานอวกาศไร้คนขับ ขึ้นสู่วงโคจรของโลก ของสหภาพโซเวียต ซึ่ง สปุตนิกหนึ่ง (Sputnik 1) คือ สุดยอดความสำเร็จในการแข่งขันในการเป็นผู้นำทางด้านอวกาศ ของสหภาพโซเวียต ในยุคสงครามเย็น

รายละเอียดเกี่ยวกับ ดาวเทียม ดวงแรกของโลก

  • สปุตนิก 1 ถือ เป็นสิ่งประดิษฐ์ ที่ มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น ชิ้นแรกที่ถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรของโลกสำเร็จ
  • สปุตนิก 1 ถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรของโลกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 1957 โดยใช้จรวด R-7
  • สปุตนิก 1 มีรูปทรงเป็น ทรงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 58 เซ็นติเมตร
  • มีน้ำหนักประมาณ 83.6 กิโลกรัม
  • ดาวเทียมมีเสารับ-ส่งสัญญาณ ทำหน้าที่สำรวจพื้นผิวของโลกและชั้นบรรยากาศ
  • มันโคจรรอบโลกโดยใช้เวลาประมาณ 96.2 นาที
  • การควบคุม และการติดต่อกับดาวเทียมสปุตนิกใช้สัญญาณวิทยุที่ส่งจาก Jodrell Bank Observatory
  • ความสำเร็จนี้ทำให้อเมริกาต้องขวัญผวา เนื่องจากดาวเทียมสปุตนิกโคจร ผ่านสหรัฐอเมริกา 7 รอบ ในแต่ละครั้งอเมริกต้องหวาดกลัว ว่าทางโซเวียตจะมีการทิ้งระเบิดนิวเครียร์ ลงมาหรือไม่
  • สปุตนิก 1 ปฏิบัติืภาระกิจอยู่ 3 สัปดาห์ และเริ่มโคจรต่ำลงเรื่อยๆ จนหลุดเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ และลุกไหม้เป็นจุลเมื่อวันที่ 3 มกราคม 1958
ส่วนประกอบ และโครงสร้างของดาวเทียมสปุตนิก 1

  • ผิวภายนอกเป็นโลหะผสม aluminum alloy
  • Ventilation Fan พัดลมระบายอากาศ
  • Power Supply แบตเตอร์รี่ แบบเงิน สังกะสี ( Silver zinc ) จำนวน 3 ลูก สามารป้อนพลังงานสำหรับ สปุตนิกได้ 22 วัน
  • Radio Transmitters เครื่องส่งสัญญาณวิทยุ ซึ่งประกอบไปด้วยเครื่องส่ง 2 ย่านความถี่ 20.005 และ 40.002 เมกะเฮิร์ต(MHz ) ที่จะส่งสัญญาณวิทยุ เป็นเสียงดัง " beep beep beep" ที่วิทยุสมัครเล่น (Ham radio ) จากทั่วโลกสามารถจับสัญญาณได้
ดาวเทียมสปุตนิก มีภาระกิจหลักอยู่ 5 ภาระกิจ คือ

  1. ทดสอบวิธีการระบุตำแหน่งของดาวเทียม สู่ สถานีที่พื้นโลกที่โคจรอยู่ตลอดเวลา
  2. การส่งข้อมูลข่าวสาร ผ่านชั้นบรรยากาศแบบปิด ตลอดระยะเวลาโคจร
  3. ทดสอบระบบการติดตาม สอดแนมโดยใช้ สัญญาณวิทยุ และ ภาพถ่าย
  4. หาผลผลลัพท์ และผลกระทบ เมื่อส่งคลื่นวิทยุผ่านชั้นบรรยากาศ
  5. ตรวจสอบทฤษฎี Pressurization ว่าความดันในอวกาศนั้นเป็นตามแนวคิดหรือทฤษฏี ที่คิดไว้หรือไม่
ภาพการปล่อย สปุตนิกขึ้นสู่วงโคจร
สปุตนิก 1 ถูกส่งขึ้นจากฐานปล่อยจรวดไบโคนูร์ คอสโมโดรม ที่เมืองเตียราตาม ในคาซักสถาน โดยใช้จรวด R-7 เป็นตัวขับเคลื่อนสู่วงโคจร

บทความเกี่ยวกับ อวกาศ และจักรวาล

ข้อมูลอ้างอิง ดาวเทียม ดวงแรกของโลก ( Sputnik 1 )

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Sputnik_1
  • http://space.about.com/od/sputnik/ig/Sputnik-1-Pictures-Gallery/Sputnik-1-Assembly.htm
  • http://www.nytimes.com/indexes/2007/09/25/science/index.html
  • http://museumvictoria.com.au/about/mv-news/2007/happy-birthday-sputnik/
  • http://www.nytimes.com/interactive/2007/09/24/science/space/20070924_SPUTNIK_GRAPHIC.html#tab2

ดาวหาง หางยาวที่สุดในจักรวาล ( Longest comet tail )

ดาวหาง หางยาวที่สุดในจักรวาล
ดาวหาง หางยาวที่สุดในจักรวาล ( Longest comet tail )

Longest comet tail ดาวหาง หางยาวที่สุดในจักรวาล เท่าที่มนุษย์มีการค้นพบในปัจจุับัน หางนั้นยาวขนาดไหนหรือ ก็ประมาณ 4 เท่าของระยะทางจากโลก ถึง ดวงอาทิตย์

รายละเอียดเกี่ยวกับ ดาวหาง หางยาวที่สุดในจักรวาล

  • ดาวหางดวงนี้มีชื่อว่า ดวงหาง Hyakutake
  • ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 มกราคม 1996
  • ค้นพบโดยนักดาราศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ชื่อว่า Yuji Hyakutake
  • โดยมันผ่านเข้ามาไกลโลกเมื่อเดือน มีนาคม 1996 สามารถมองเห็นได้เกือบทุกแห่งในโลก มันส่องแสงสว่างไสวอย่างมาก
  • ดาวหางดวงนี้จะโคจร เข้ามาในระบบสุริยะจักรวาลอีกครั้งต้องใช้เวลาประมาณ 17,000 ปี
  • ดาวหางดวงนี้มีหางยาว 500 ล้านกิโลกเมตร จึง เป็นดาวหาง ที่ หางยาวที่สุดเท่าที่มนุษย์มีการค้นพบในปัจจุบัน
บทความเกี่ยวกับ จักรวาล และดวงดาว

ข้อมูลอ้างอิง ดาวหาง หางยาวที่สุดในจักรวาล ( Longest comet tail )

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Comet_Hyakutake
  • http://news.bbc.co.uk/2/hi/science/nature/702575.stm

การทดลอง ทางวิทยาศาสตร์ ในสภาพเสมือนไร้แรงดึงดูด (Microgravity)

การทดลอง ทางวิทยาศาสตร์ ในสภาพเสมือนไร้แรงดึงดูด

Microgravity คือ สภาพที่แรงดึงดูดมีค่าน้อยมาก หรือในสภาพที่แรงดึงดูดไม่มีผลต่อวัตถุ การที่จะเกิดสภาพเสมือนไร้แรงดึงดูด จะเกิดได้จาก 3 สาเหตุ
  1. เมื่อออกเราออกห่างจากแห่งแรงดึงดูด ตัวอย่าง มนุษย์อวกาศอยู่นอกโลก แห่งแรงดึงดูดคือโลก
  2. เมื่อตกลงจากที่สูงวัตถุจะอยู่ในสภาพไร้น้ำหนัก
  3. เมื่อวัตถุใดเคลื่อนที่ด้วยความเร็วกว่า 11.2 กิโลเมตร/ชั่วโมง วัตถุนั้นจะเร็วเพียงพอที่จะหลุดจากแรงดึงดูดของโลก หลุดลอยสู่อวกาศ
เมื่ออยู่ในสภาพ Microgravity จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

เปลวเทียน ที่อยู่ในสภาพ Microgravity จะมีขนาด รูปร่าง อุณหภูมิ และโครงสร้างของเปลวเทียน แตกต่างจากเมื่อเผาไหม้บนพื้นโลกโดยสิ้นเชิง ดังต่อไปนี้
  • รูปทรง เปลวเทียนจะมีลักษณะคล้ายทรงกลม มีความกว้างออกด้านข้างมากกว่าเปลวเทียนปกติ เนื่องจากในสภาพ Microgravity เปลวไฟจะเกิดจากการเผาไหม้ที่ไส้เทียนเพียงอย่างเดียว แต่ในสภาพปกติการเผาไหม้จะมีไอระเหยจะไขเทียนที่เบากว่าอากาศ ที่ลอยตัวขึ้นช่วยเสริมเปลวไฟให้มีรูปร่งเรียวยาว wowboom
  • อุณหภูมิ เปลวไฟจะมีอุณภูมิต่ำกว่า เปลวไฟปกติเนื่องจาก อัตราการการเผาไหม้ของน้ำตาเทียนจะเกิดขึ้นต่ำกว่าปกติ

(ซ้าย)เปลวเทียนในสภาพปกติบนพื้นโลก (ขวา)เปลวเทียนในสภาพ Microgravity


(ซ้าย)น้ำที่ต้มเดือดในสภาพแรงดึงดูดปกติ น้ำที่ถึงจุดเดือดจะกลายเป็นไอลอยตัวขึ้นด้านบน เนื่องจากไอน้ำมีน้ำหนักเบาจึงลอยขึ้นด้านบน และน้ำที่หนักกว่าจะจมตัวลงด้านล่าง
(ขวา)น้ำที่ต้มเดือดในสภาพ Microgravity เมื่อน้ำกลายเป็นไอ จะสะสมอยู่ด้านล่างเนื่องจากไม่มีแรงดึงดูดจึงไม่มีการไหล เนื่องจากความต่างของน้ำหนักระหว่าง น้ำ กับ ไอน้ำ


ภาพการก่อตัวของผลึกในสภาพ Microgravity ผลึกจะก่อตัวใหญ่กว่าบนพื้นโลกถึง 30 เท่า


การทดลองสภาพไร้น้ำหนัก ขณะยังอยู่ในโลก โดยใช้เครื่องบิน Airbus บินในวิถีโปรเจ็คไตล์ เมื่อขึ้มถึงจุดสุดยอด แล้วทิ้งหักหัวลง จะทำให้เกิดสภาพ Microgravity


การทดลอง เกี่ยวกับน้ำเมื่ออยู่ในสภาพ Microgravity ทำให้แรงดันบภายนอกจากทุกทิศทางเท่ากัน เมื่อประกอบกับแรงดันน้ำทุกทิศทางเท่ากัน และแรงตึงผิวของน้ำแรงช่วยให้น้ำสามารถคงรูปอยู่ในรูปทรงกลม

บทความเกี่ยวกับ อวกาศ และจักรวาล

ข้อมูลอ้างอิง เปลวเทียนในอวกาศ ในสภาพ Microgravity

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Phenomenon
  • http://science.howstuffworks.com/space-station5.htm
  • http://science.nasa.gov/headlines/y2000/ast12may_1.htm
  • http://www.busoc.be/en/research/microgravity/fluidphysics.htm อ้างอิงในส่วนต้มน้ำในอวกาศ
  • http://www.mainsgate.com/spacebio/Sptopics/biotech_intro.html อ้างอิงในส่วนการเกิดคริสตัล

สถานที่ หนาวเย็นที่สุดในจักรวาล (Coldest place in the Universe)

สถานที่ หนาวเย็นที่สุดในจักรวาล
สถานที่ หนาวเย็นที่สุดในจักรวาล

Boomerang Nebula คือ สถานที่ หนาวเย็นที่สุดในจักรวาล มันมีอุณหภูมิสูงกว่า อุณหภูมิศูนย์สัมบูรณ์เพียง 1 องศาเซลเซียล เท่านั้น

รายละเอียดเกี่ยวกับ บูมเมอแรงเนบิวล่า

  • บูมเมอแรงเนบิวล่า เป็นเนบิวล่าเกิดใหม่ แบบที่เรียกว่า เนบิวล่าคล้ายดาวเคราะห์ (planetary nebula )
  • บูมเมอแรงเนบิวล่า มีระยะทางห่างจากโลก 5,000 ปีแสง
  • มีลักษณะเป็นกลุ่มฝุ่น ก๊าซ สีสุกสว่าง จากดวงดาวตรงกลางที่ปลดปล่อยก็าซออกในช่วงสุดท้ายของดวงดาว
  • มันถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 1995 โดยกล้องโทรทรรศน์ขนาด 15 เมตร ของสวีเดน ชื่อว่า ESO Submillimetre Telescope ในประเทศชิลี
  • ค้นพบโดยนักดาราศาสตร์ 2 คนชื่อว่า Sahai และ Nyman โดยทั้งคู่ได้เปิดเผยข้อค้นพบที่น่าตื่นตลึงว่า บูมเมอแรงเนบิวล่า เป็น สถานที่ หนาวเย็นที่สุดในจักรวาล ด้วยอุณหภูมิเีพียง -272°C
อุณหภูมิศูนย์สัมบูรณ์ คือ อุณหภูมิต่ำที่สุดทางทฤษฏีที่เป็นไปได้ ณ อุณหภูมินี้ อะตอมของสารต่าง ๆ จะไม่มีการเคลื่อนไหว โดยอุณหภูมิดังกล่าวอยู่ที่ 0 K(เควิน) หรือ -273.15 C(เซลเซียส)
บทความเกี่ยวกับ อวกาศ และจักรวาล

ข้อมูลอ้างอิง สถานที่ หนาวเย็นที่สุดในจักรวาล (Coldest place in the Universe)

  • http://www.esa.int/esaSC/SEMQM69YFDD_extreme_0.html

ดวงดาวในจักรวาล ( Star in space )

ดวงดาวในจักรวาล
ดวงดาวในจักรวาล

Star in space ดวงดาวในจักรวาล นั้นมีกี่ดวง นั้นคงเป็นคำถามที่หลายๆคน คงเคยตั้งคำถามนี้ในใจ หรือ บางครั้งก็เอ่ยถามคนข้าง แต่คำตอบนั้นยากนักที่จะมีใครสามารถตอบได้ อย่างชัดเจนแม้แต่ นักดาราศาสตร์ที่เก่งที่สุดในองค์การนาซ่า(NASA) ก็เพียงแต่ได้ประมาณการณ์ไว้เท่านั้น

เรามาดูตัวเลขประมาณการณ์นั้นกันดีกว่า ว่ามันเท่าไร ?

การที่จะรู้จำนวนดวงดาวในจักรวาลนั้น เป็นคำถามที่ง่ายในการตั้ง แต่ยากยิ่งในการตอบ เนื่องจากมนุษย์ยังไม่ค้นพบขอบของจักรวาล และดวงดาวก็ กระจัดกระจายอยู่ในจักรวาล อย่างไม่มีรูปแบบจึง ยากที่จะทราบจำนวนที่แน่นอน ของดวงดาว แต่ถ้าจะใช้ความรู้ที่มนุษย์มีอยู่ ตอบ ก็จะได้คำตอบดังต่อไปนี้
  • กรณีมองด้วยตาเปล่า หากเราไปเที่ยวต่างจังหวัดที่ห่างไกล ในคืนฟ้าเปิด มองขึ้นไปบนท้องฟ้า จำนวนดวงดาวบนท้องฟ้าที่สามารถมองเห็น จะมีจำนวนซัก พันกว่าดวง
  • กรณีใช้กล้องโทรทรรศน์สมัครเล่น (Amateur Telescope) คุณก็สามารถมองเห็นดวงดาวได้เพิ่มขึ้นถึง ล้าน ดวง ทีเดียว
  • เพียงแค่ในแกแล็คซี่ทางช้างเผือกของเรานี้ ก็ประมาณกันว่ามีดวงดาว ถึง 1,000,000,000,000 ดวง
  • นักดาราศาสตร์ประมาณว่า ในจักรวาลมีแกแล็คซี่ อยู่ประมาณ 1,000,000,000,000 แกแล็คซี่
  • ฉะนั้นจำนวนดวงดาวในจักรวาล โดยประมาณ (เท่าที่มนุษย์มีองค์ความรู้ในปัจจุบัน) คือ 1,000,000,000,000,000,000,000,000 ดวง ( หนึ่งล้านล้านล้านล้าน ดวง )
หากถามว่านักดาราศาสตร์ นำตัวเลขนี้มาจากไหน ใครเป็นคนนั่งนับ ตอบว่าไม่มี ตัวเลขนี้ได้มาจากการคำนวณ ที่มาก็คล้ายกับหากจะถามว่า ในหาดชายมีทรายกี่เม็ด ก็คงคำนวณโดย นับจำนวนเม็ดทรายในปริมาตรเล็กๆ แล้วคูณด้วยปริมาตรของทั้งหาด
บทความเกี่ยวกับ อวกาศ และจักรวาล

ข้อมูลอ้างอิง ดวงดาวในจักรวาล ( Star in space )

  • http://www.esa.int/esaSC/SEM75BS1VED_extreme_0.html

กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ( Large Telescope )

กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Largest Telescope คือ กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีชื่อว่าอะไร ? ณ ปี 2009 คงไม่มีกล้องโทรทรรศน์ตัวใดใหญ่ไปกว่า กล้องโทรทรรศน์ Large Binocular Telescope ซึ่งมีลักษณะเด่นกว่ากล้องโทรทรรศน์ตัวอื่น คือเป็นกล้องโทรทรรศน์แบบเลนส์คู่

รายละเอียด เกี่ยวกับ กล้องโทรทรรศน์ Large Binocular Telescope
  • กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีชื่อเดิมว่า โคลัมบัส โปรเจ็ค( Columbus Project ) มีชื่อย่อว่า LBT
  • ตั้งอยู่บนยอดเขา Graham ในเทือกเขา Pinaleno ทางตอนใต้ของรัฐอริโซน่า(Arizona) ประเทศสหรัฐอเมริกา
  • ไม่เพียงแต่เป็น กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันยังเป็นหนึ่งในโลก ในแง่ความละเอียด คมชัดของภาพที่รับได้
  • ทั้งยังเป็นกล้องโทรทรรศน์แบบสะท้อนแสง(Optical Telescopes) ที่ทันสมัยที่สุดในโลกขณะนี้
  • โดยออกแบบให้มีเลนส์ 2 อัน แต่ละอันขนาด 8.4 เมตร จึงทำเป็นที่มาของชื่อ ( Binocular กล้องส่องทางไกลแบบส่องสองตา)

นี้แค่เลนส์กระจก เพียงหนึ่งอันเท่านั้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8.4 เมตร
  • โดยกล้องนี้นำข้อดีของทั้งหลักการของ Active Optics และ Adaptive Optics มาใช้ทำให้เลนส์คู่นี้มีความสามารถเทียบเท่า เลนส์ขนาด 11.8 เมตร ใหญ่กว่ากล้องโทรทรรศน์เลนส์เดี่ยว ทุกๆตัวในโลกนี้
  • LBT เปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อ ตุลาคม 2004 และแสงแรกที่รอบรวมได้เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2005 คือภาพของแกเล็คซี่ NGC 891

อันนี้คือภาพที่สร้างเพื่อเปรียญเทียบประสิทธิภาพของกล้องโทรทรรศน์ LBT
บนขวาเป็นภาพที่ได้จากกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล , ล่างซ้ายเป็นภาพที่ได้จากกล้องโทรทรรศน์ LBT เมื่อใช้เลนส์เพียงอันเดียว , ล่างขวาเป็นภาพที่ได้จากกล้องโทรทรรศน์ LBT ที่ใช้เลนส์คู่

ข้อมูลอ้างอิง กล้องโทรทรรศน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Large_Binocular_Telescope
  • http://www.mpg.de/english/illustrationsDocumentation/documentation/pressReleases/2005/pressRelease20051026/index.html

แต่งงาน นานที่สุดในโลก กับ คุณทวดรักนิรันดร์ ( Longest living marriage)

คุณทวด ที่มีรักนิรันดร์ แต่งงานกันมากว่า 85 ปี


Herbert and Zelmyra Fisher คือ คุณปู่ทวด ย่าทวด ที่ครองรักกันมายาวนานกว่า 85 ปี ( 13 พฤษภาคม 2009 ) พวกท่านรักกันมาก และชอบดูทีวีด้วยกัน จะแยกกันเฉพาะเมื่อตอนที่มีการถ่ายทอดเบสบอล( Baseball) เท่านั้นที่คุณย่าทวดจะลุกหนีไป คุณปู่ทวดยังกล่าวว่าท่านจะอยู่จนกว่า บอลลูกสุดท้ายจะถูกขว้างออกมา

รายละเอียด เกี่ยวกับ คู่แต่งงาน นานที่สุดในโลก กับ คุณทวดรักนิรันดร์

  • คุณปู่ทวด Herbert Fisher จะมีอายุครบ 104 ปี ในวันที่ 10 มิถุนายน 2009
  • คุณย่าทวด Zelmyra Fisher จะมีอายุครบ 101 ปี ในวันที่ 10 ธันวาคม 2009
  • ทั้งสองมีนับถือศาสนาต่างนิกายกัน แต่นั้นไม่ทำให้ทั้งสองรักกันน้อยลง
  • พวกท่านมีความสุขกับลูก กับหลาน 10 คน และเหลน 9 คน
ดูจากรูปด้านบน จากการจับมือของพวกท่าน แม้เวลาจะผ่านเลยมากว่า 85 ปี เห็นได้โดยทันทีว่ารักนั้นไม่เสื่อมคลาย ไปตามกาลเวลาแม้แต่น้อย แต่มันกับยิ่งแนบแน่นยิ่งขึ้นหวงหาอาทรกัน ยิ่งกว่าเดิม
ข้อมูลอ้างอิง แต่งงาน นานที่สุดในโลก กับ คุณทวดรักนิรันดร์

  • http://www.worldrecordsacademy.org/society/longest_marriage_for_a_living_couple-world_record-set_by_Herbert_and_Zelmyra_Fisher_90163.htm
  • http://www.dlanderson.com/blog/?p=123
  • http://bulletin.aarp.org/yourworld/family/articles/couple_maintains_world_record_for_longest_marriage.html

ภาพลวงตา ทดสอบว่าคุณลามก หรือ เปล่า ( Optical Illusion Test )

ภาพลวงตา ทดสอบว่าคุณลามก หรือ เปล่า ?


Optical Illusion Test ภาพลวงตา เนื่องจากมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อน การจะค้นหาตัวตนของมนุษย์ จิตใจ ความนึกคิดจึงเป็นสิ่งที่ยุ่งยาก แต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เลย ตัวตนของมนุษย์ นั้นจะแสดงออกมาในแว็บแรก และต่อมาความคิดความอ่านจะถูกปรุงแต่ด้วย ค่านิยม คำสอน ศาสนา การเลี้ยงดู การศึกษา ประสบการณ์ชีวิต คุณพร้อมจะไปหาตัวตนของคุณ กับ wowboom หรือยัง

แว็บแรกคุณเห็นอะไร 1


แว็บแรกคุณเห็นอะไร เดิ๋ยวค่อยตามไปดูเฉลยกันข้างล่าง
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
  1. แว็บแรกคุณเห็น ผู้หญิงใส่บิกินี่สีดำ นอนถางขา คุณลามกนะเนี้ย
  2. แว็บแรกคุณเห็น แก้วเหล้า คุณเป็นคนเป็นนักดื่ม ชอบเที่ยวแตร่
  3. แว็บแรกคุณ เห็น โคมไฟกลม คุณเป็นคนละเอียดรอบครอบ ลามกน้อยกว่า1 เที่ยวเก่งน้อยกว่า2
แว็บแรกคุณเห็นอะไร 2


แว็บแรกคุณเห็นอะไร เดิ๋ยวค่อยตามไปดูเฉลยกันข้างล่าง
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v

ถ้าแว็บแรกคุณเห็น นิกกี้ 9 นิ้ว คุณลามกอีกแล้วนะเนี้ย มันแค่ประติมากรรมคู่พ่อลูก เท่านั้นเอง

แว็บแรกคุณเห็นอะไร 3


แว็บแรกคุณเห็นอะไร เดิ๋ยวค่อยตามไปดูเฉลยกันข้างล่าง
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v

ถ้าแว็บแรกคุณเห็นสาวผิวเนียนใส่บิกินี่สีดำ นั่งคุกเข่า แต่มันก็แค่โฆษณารองเท้า ที่นางแบบใส่รองเท้าส้นสูงแบบผูก

แว็บแรกคุณเห็นอะไร 4


แว็บแรกคุณเห็นอะไร เดิ๋ยวค่อยตามไปดูเฉลยกันข้างล่าง
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
นั้นแน่เห็นนมนาซิ แต่มันก็แค่กระดาษสีเนื้อ มีรอยพับวางบนพื้นสีดำเท่านั้นเอง กระดาษ อย่าคิดลึกอ้ายคนทำยับมันก็เหลือเกิน
บทความข้างต้นนี้ นำมาให้ดูสนุกๆ นะครับไม่ได้มีการทดลอง หรืออ้างอิงทางจิตวิทยาใดๆทั้งสิ้น แต่งเองทั้งนั้นทุกถ้อยคำ ไม่มีเจตนาจะว่าใครว่าลามก เพียงแต่ต้องการจะสื่อว่า จงอย่างเชื่อทุกสิ่งที่ตาเห็น จึงอย่าใช้แต่ความรู้สึกตัดสิ้น จงให้เวลากับความดีงามในจิตใจของเราพิจารณาด้วย
แว็บแรกคุณเห็นอะไร 5 (อันนี้มีสาระ และเป็นวิทยาศาสตร์)


แว็บแรกคุณเห็นอะไร เดิ๋ยวค่อยตามไปดูเฉลยกันข้างล่าง
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
Message of Love from the Dolphins ข้อความแห่งรักจากปลาโลมา คือชื่อภาพเขียนนี้ สร้างสรรค์โดยจิตตกรชาวสวิสส์ ชื่อว่า Sandro Del-Prete. โดยรู้นี้สามารถมองได้เป็น 2 แบบคือ
  1. ในกรณีผู้ใหญ่ หรือวัยรุ่นที่รู้จักความรัก จะเห็นภาพนี้เป็น หมุ่มสาวคู่หนึ่ง ชายหนุ่มบรรจงจุมพิต พร้อม....หญิงสาวจากด้านหลัง
  2. ในกรณีเด็กเล็ก จะเห็นรูปนี้เป็น ปลาโลมา 9 ตัว (งองูสองตัวกันเป็นแถว)
แน่นอน Admin DEN เห็นแต่ ข้อ 1 ไม่มีหลุดเป็นปลาโลมาแม้แต่ตัวเดียว จะเอาไปทดสอบให้เด็กดูก็กระดากใจ และกลัวใจว่าจะได้คำตอบข้อ 1 และคุณรู้หรือไม่ว่าเด็กๆ เขาเห็นอะไร wowboom จะพาคุณกลับเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง ไปกันครับ
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v

หากคุณเป็นเด็กสิ่งที่คุณเห็นคือ ระลอกคลื่นเล็กๆบริเวณก้นขวดสื่อให้เด็กๆ นึกถึงน้ำ ชักนำความคิดเด็กไปในสิ่งที่เกี่ยวกับน้ำ และตามแนวเส้นสีเขียว สีแดง สีเหลือง สีน้ำเงิน และสีม่วง คือสิ่งที่สมองของเด็กสามารถแปลความได้ คือรูปปลา แต่ในแง่ความรักของหนุ่มสาวที่ เด็กๆยังไม่เคยมีประสบกาม สมองจึงตีความไม่ได้ เนื่องจากขาดประสบกาม

บทความที่เกี่ยวข้องกับ ภาพลวงตา

ภาพลวงตา 12+1 คน ภาพลวงตา คุก ภาพลวงตา ดอกกุหลาบ ภาพลวงตา เด็กส่งพิซซ่า ภาพลวงตา สายตาสั้นไม่มีเซ็กส์ ภาพลวงตา เมล็ดกาแฟหน้าคน ภาพลวงตา ประตูมันเปิดเข้าหรือออกกันแน่วะ ภาพลวงตา ลูกบอลกลิ้งลงบันได ภาพลวงตา แห่ง พระเจ้า

ข้อมูลอ้างอิง ภาพลวงตา ทดสอบว่าคุณลามก หรือ เปล่า

  • http://www.moillusions.com/2009/12/a-pair-of-dirty-f-rats.html
  • http://www.moillusions.com/2008/12/sexy-feet-optical-illusion.html
  • http://wowboom.blogspot.com/2008/09/blog-post_30.html
  • http://www.moillusions.com/2008/12/naughty-naughty-statue-optical-illusion.html
  • http://www.moillusions.com/2009/07/um-it%E2%80%99s-just-paper-illusion.html
  • http://blog.gg8.se/wordpress/2008/06/10/message-of-love-can-you-see-the-dolphins-optical-illusion/

ภาพลวงตา ทำไมต้องวางสลบขณะผ่าตัด ( Poster Movie Illusion )

ทำไมต้องวางสลบขณะผ่าตัด


Why ทำไมต้องวางสลบขณะผ่าตัด ก็เขากลัวคุณตื่นมาเห็นภาพ คุณหมด คุณพยาบาล ก็ลังยืนผ่าตัดคุณดังในภาพ แล้วตกใจช็อกตาย ( ล้อเล่นครับ ในสมัยก่อนในยุคที่ไม่มียาสลบ การผ่าตัดนั้นดุจการตายทั้งเป็น ผู้ป่วยที่ทราบว่าจะต้องผ่าตัด โดยมาเลือกที่จะตายจากอาการของโรค ดีกว่าต้อง เข้ารับการผ่าตัด) ภาพลวงตานี้เป็น Poster จากภาพยนต์เรื่อง MATI SURI

ข้อมูลอ้างอิง ทำไมต้องวางสลบขณะผ่าตัด

  • http://www.moillusions.com/2009/05/mati-suri-poster-illusion.html

ภาพลวงตา แปลงเพศ ( Sex Change Illusion )

ภาพลวงตา แปลงเพศ


Sex Change ถามกันง่ายเลยว่าภาพทั้งสองแตกต่างกันอย่างไร ตอบได้โดยทันทีว่าภาพซ้ายเป็นผู้หญิง และภาพขวาเป็นผู้ชาย

รายละเอียดเกี่ยวกับภาพ ลวงตานี้ ( Sex Change Illusion )
  • ภาพทั้งสอง เป็นคนๆ เดียวกัน ไม่มีการตัดต่อใด นอกจากการปรับค่าคอนทราสต์(Cantrast ค่าความต่างระหว่างสีขาว กับสีดำ)
  • ผู้สร้างสรรค์ภาพลวงตานี้ก็คือ Richard Russell จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University)
  • แต่ภาพทางขวาได้การปรับค่าคอนทราสต์เพิ่มขึ้น ทำให้รูปเหมือนผู้ชาย
  • แต่ภาพทางซ้ายได้ทำการปรับค่าคอนทราสต์ลง ทำให้รูปดูเหมือนผู้หญิง
  • มารู้จักค่าคอนทราสต์( Contrast Ratio ) คือ อัตราส่วนสีดำที่ดำที่สุดและสีขาวที่ขาวที่สุด ซึ่งเมื่อค่าคอนทราสต์สูง แสดงภาพจะดูลึกมีมิติ
  • และความลึกและมิตินั้นคือ สิ่งที่หลอกสมองของเรา เนื่องจากความต่างของใบหน้าของผู้หญิง และชาย เมื่อมองในองค์รวมก็คือ ความต่างของมิติบนรูปหน้า อธิบายก็คือ ผู้ชายมีโหนกคิ้วสูง จมูกโด่ง มีโหนกแก้ม ซึ่งทำให้รูปหน้ามีมิติที่ดูลึก
ข้อมูลอ้างอิง ภาพลวงตา แปลงเพศ ( Sex Change Illusion )

  • http://www.moillusions.com/2009/05/illusion-of-sex-change.html