ลิ้งค์ ติดตาม ประเมินสภาพ น้ำท่วมประเทศไทย 2554

ลิ้งค์ประเมิน ติดตาม และช่วยเหลือตัวเองตามเวรตามกรรม จากน้ำท่วม เพราะรัฐบาล เอา(ไม่)อยู่
วันนี้ พอดีเปิดไปดูช่องหอยม่วงมีการสัมภาษณ์นากยกสมาคมเกี่ยวกับซอฟต์แวร์อะไรซัก อย่าง(ขออภัยที่จำชื่อท่านและองค์กรไม่ได้) มีการพูดถึงเว็บที่จะใช้ช่วยเราในการประเมิน และติดตามสภาพน้ำท่วมได้จึงนำมาฝากกันครับ

อันแรกสุดเป็น http://flood.firetree.net/


เว็บ นี้เมื่อเราเลือกตรงช่อง sea level rise (สมมุติว่าเลือกที่ +5m) ภาพในแผนที่บริเวณใดเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินแสดงว่าบริเวณนั้นน้ำจะท่วมในกรณี น้ำทะเลสูงขึ้น 5 เมตร(เว็บนี้ออกแบบมาใช้ทำนายน้ำท่วมจากน้ำทะเลสูงขึ้น)
  • ใน เมื่อมันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้กับน้ำท่วมจากการไหลบ่ามาจากแผ่นดิน และยังขาดข้อมูลความสูงถนนที่ออกแบบเพื่อเป็นคันกั้นน้ำ ขาดข้อมูลความสูงของพื้นบ้านแต่ละหลัง และความหยาบของชั้นความสูงที่ได้จากภาพถ่ายดาวเทียม ทำให้จึงอาจมีความคลาดเคลื่อน
  • แต่เราสามารถประยุกต์ใช้เพื่อดูว่า บริเวณใดสูงพอจะใช้เป็นพื้นที่จอดรถ ดูว่าบ้านตัวเองอยู่ในพื้นที่สูงหรือต่ำเพื่อประเมินโอกาสว่าจะถูกน้ำท่วม หรือเปล่าต้องยกของสูงอีกกี่เมตรเป็นต้น
  • ผู้ให้สัมภาษณ์บอกว่าน้ำ ท่วมคราวนี้ประเมินกันว่าจะท่วมที่ +5 เมตร ฉะันั้นบริเวณใดที่เลือกความสูง sea level rise +6m แล้วไม่เป็นสีน้ำเงินก็มีโอกาสรอดพ้นน้ำท่วมประเทศ54 นี้มากครับ

อย่าง ในรูปนี้ใช้ระดับ sea level rise +5m จะเห็นว่าบริเวณที่เป็นสีฟ้าคือเป็นบริเวณที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางตั้งแต่ 5 เมตรลงไป(ประเมินว่าน้ำท่วมครั้งนี้จะสูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลางไม่เกิน 5 เมตร) ฉะนั้นบริเวณที่เป็นสีขาวก็ค่อนข้างปลอดภัย แต่จะให้ปลอดภัยก็ควรรันที่ 6 เมตรจะค่อนข้างแน่นอนครับ

อันที่สอง http://hermes.traffy.in.th/i/index.php

เป็น เว็บที่ใช้ดูกล้อง CCTV ของกรุงเทพมหานครออกแบบมาเพื่อดูการจราจรว่าติดขัดหรือเปล่า แต่เราก็สามารถประยุกต์ใช้ดูว่าถนนเส้นใดน้ำท่วมหรือเปล่า หรือท่วมหนักหรือเปล่าก็ได้


ปล. เนื่องจากมีกล้องจำนวนมากต้อง search ชื่อถนนช่วยจะทำให้หาง่ายขึ้นนะครับ
อันสุดท้าย เว็บสำนักระบายน้ำ

เว็บนี้มี 2 ส่วนคือตรวจวัดระดับน้ำในคลอง และตรวจวัดระดับน้ำที่ท่วมถนน

ส่วนติดตามระดับน้ำในคลอง ลิงค์นี้ http://dds.bangkok.go.th/Canal/
จากสถานีวัดระดับน้ำในคลองเปรมประชา จะเห็นว่าสีเหลืองคือระดับน้ำในคลองอยู่ที่ 0.96 ตลิ่งสูง 0.83 ทำให้น้ำท่วมล้นตลิ่งซ้ายออกไป



ส่วนที่สองเป็นระดับน้ำในถนน ลิงค์นี้ http://dds.bangkok.go.th/Floodmon/
จากสถานีวัดระดับน้ำท่วมในถนนแจ้งวัฒนะ14 จะเห็นว่าน้ำท่วมสูง 37.3 เซ็นติเมตร

อ้างอิง

  • จากรายการช่อง 11 เดิม (NBT) วันที่ 30 ตุลาคม 2554

ประวัติ การเดินทางรอบโลก(Circumnavigate)

เดินทางรอบโลก

ในปี 1519 - 1519 นาย Ferdinand Magellan นักสำรวจชาวโปรตุเกสและลูกเรือ เป็นคณะแรกที่ได้พิสูจน์ว่าโลกนั้นกลม ไม่ใช่แบนด้วยการเดินทางสำเร็จเป็นคณะแรก แต่ นายMagellan ถูกสังหารระหว่างการต่อสู้ระหว่างคณะของเขากับกลุ่ม Filipino ปล่อยให้กัปตัน Juan Sebastian del Cano และลูกเรือที่เหลือรอดอีก 17 คน เป็นมนุษย์กลุ่มแรกที่เดินทางรอบโลกโดยเรือ


เรือ HMS Driver ที่ออกเดินทางจาก Spithead ประเทศอังกฤษ เป็นเรือเครื่องจักรไอน้ำลำแรกที่เดินทางรอบโลกสำเร็จ


ในปี 1898 นาย Joshua Slocum ชาวอเมริกันเป็นมนุษย์คนแรกที่สามารถ เดินทางรอบโลกโดยลำพัง สำเร็จเป็นคนแรก โดยใช้เรือใบชื่อว่า Spray


ในปี 1933 นาย Wiley Hardeman Post นับินชาวอเมริกัน เป็นมนุษย์คนแรกที่สามารถบินรอบโลกโดยลำพังสำเร็จเป็นครั้งแรก โดยใช้เครื่องบิน Lockheed Vega ที่มีชื่อว่า Winnie Mae เรายังมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุดปรับความดัน(Pressure suits)


ในปี 1960 เรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ ชั้น Triton ดินทางรอบโลกโดยการดำน้ำสำเร็จเป็นครั้งแรก


ในปี 1969 นาย Robin Knox-Johnston ชาวอังกฤษ เดินทางรอบโลกโดยลำพังรวดเดียวทางเรือสำเร็จเป็นคนแรก


ในปี 1999 นาย Brian Jones ชาวอังกฤษ ร่วมกับ นาย Bertrand Piccard ชาวสวิส ใช้บอลลูน Breitling Orbiter 3 เดินทางรอบโลกโดยใช้บอลลูนสำเร็จเป็นครั้งแรก

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Ferdinand_Magellan
  • http://en.wikipedia.org/wiki/HMS_Driver_%281840%29

สถิติความเร็วทางบก ครั้งแรกของโลก (The first official land speed))

สถิติความเร็วทางบก ครั้งแรกของโลก

ในปี 1898 เคราท์ Gaston de Chasseloup-Laubat ชาวฝรั่งเศล เป็นเจ้าของสถิติความเร็วทางบกอย่างเป็นทางการครั้งแรกของโลก ด้วยรถอิเล็กโทรนิก Jentaud โดยทำความเร็วไว้ที่ 63.15 กิโลเมตร/ชั่วโมง


ในปี 1899 นาย Camille Jenatzy ชาวเบลเยียม เป็นมนุษย์คนแรกที่สามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสถิติเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า 1 ไมล์/นาที ในภาพนาย Camille Jenatzy(คนขับรถ) คนนั่งซ้อนท้ายคือภรรยาของเขา

ในปี 1902 นาย William K. Vanderbilt Jr. ชาวอเมริกัน ได้ทำสถิติรถเครื่องสันดาปภายใน ที่ใช้น้ำมันเบนซิน ทำความเร็วได้ 122.43 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ในปี 1904 นาย Louis Rigolly ชาวฝรั่งเศล เป็นมนุษย์คนแรกที่สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่า 100 ไมล์/ชั่วโมง(160 กิโลเมตร/ชั่วโมง) โดยทำความเร็วได้ที่ 103.55 ไมล์/ชั่วโมง


ในปี 1963 นาย Craig Breedlove ชาวอเมริกัน ทำความเร็วได้ 407.45 ไมล์/ชั่วโมง(655.70 กิโลเมตร/ชั่วโมง) ด้วยรถพลังเจ็ทที่ชื่อว่าจิตวิญญาณแห่งอเมริกัน(Spirit of Amarican) แต่สถิตินี้ทาง FIA ไม่ยอมรับสถิติเนื่องจาก FIA ไม่มีหมวดรถเครื่องยนต์เจ็ท


ในปี 1970 รถจรวด(Rocket car)ที่ชื่อว่า Blue Flame ขับโดย Gray Gabelich ชาวอเมริกัน ก็เป็นมนุษย์คนแรกที่เดินทางทางบกได้เร็วกว่า 1,000 กิโลเมตร/ชั่วโมง


ในปี 1997 นาย Andy Green ชาวอังกฤษ เป็นมนุษย์คนแรกที่เคลื่อนที่ทางบกได้เร็วกว่าเสียง ด้วยความเร็ว 1,227.952 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ข้อมูลอ้างอิง

  • The Book of FIRSTS
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Gaston_de_Chasseloup-Laubat
  • http://www.econote.it/2011/04/08/e-luomo-creo-lauto-elettrica/
  • http://en.wikipedia.org/wiki/William_Kissam_Vanderbilt_II
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Craig_Breedlove
  • http://news.drive.com.au/drive/motor-news/going-to-the-limit-20100211-nubn.html

วิธีป้องกันตัวแปลกๆ ร้องไห้ไล่ศัตรู ของ กิ้งก่าหนาม (Horned lizards)

กิ้งก่าหนาม


เมื่อเห็นรูปร่างที่มีหนามเต็มตัวคงคิดว่าพวกมันใช้หนามเพื่อป้องกันตัว แต่นั้นไม่ใช่ทั้งหมดของวิธีป้องกันตัวของพวกมันพวกมีเคล็ดลับสุดยอดซ่อนอยู่อีก


รายละเอียด
  • กิ้งก่าหนาม(Horned lizards) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า "Phrynosoma" บางครั้งพวกมันถูกเรียกว่า คางคกหนาม หรือ กบหนาม เนื่องจากรูปร่างสั้นกลมเหมือนคางคก
  • หนามตามลำตัว และหลังของพวกมันนั้นพัฒนามาจากเกล็ด มีเฉพาะเขาบนหัวเท่านั้นที่เป็นเขาจริงๆ(กระดูกแข็ง)
  • กิ่งก่าหนามมี 15 สายพันธุ์โดย 8 ใน 15 มีถิ่นที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยกิ้งก่าหนามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ในสหรัฐเช่นกัน มีชื่อว่า กิ้งก่าหนามเท็กซัส(Texas horned lizard)
  • พวกมันมีวิธีป้องกันตัวที่หลายหลาย ทั้งสีสันที่เหมือนสภาพแวดล้อมใช้ในการพรางกาย ใช้การวิ่งๆหยุดเพื่อล่อหลอก ถ้าหนีไม่สำเร็จพวกมันอาจจะใช้การโก่งตัวโชว์หนามแหลมตามร่างกาย หรือฝังตัวส่วนล่างของร่างกายในดินให้เหลือแต่ส่วนที่เป็นหนามทำให้ยากต่อการกลืนกิน ใช้เขาบนหัวแทง และสำหรับนักล่าจำพวกหมาโคโยตี้พวกมันยังสามารถฉีดเลือดออกจากตาเลือดนี้มีกลิ่นและรสสุดห่วยเกินกิน
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Horned_lizard
  • http://animals.nationalgeographic.com/animals/wild/events-monster-bash/worlds-weirdest-pictures/#/horned-lizard_41800_600x450.jpg

สัตว์ประหลาด แห่งโลกแมลง ตั๊กแตนตำข้าว (Mantis)

ตั๊กแตนตำข้าว


เนื่องจากขนาดของเรา กับ ตั๊กแตนตำข้าว นั้นแตกต่างกันอย่างมากเราจึงเห็นมันไร้พิษภัยแต่ในโลกของแมลงพวกมันคือ อสูรร้าย ที่แม้แต่นกตัวเล็กยังต้องระวัง

ความลับบางประการ


  • ในภาษาอังกฤษ ตั๊กแตนตำข้าว เขียนว่า Mantis ซึ่งหมายถึง Seer หรือ Prophet ซึ่งมีความหมายถึงผู้ทำนาย เนื่องจากชาวกรีกโบราณมีความเชื่อว่า พวกมันมีพลังเหนือธรรมชาติ
  • ตั๊กแตนตำข้าวเป็นแมลงล่าเหยื่อ ที่กินเฉพาะเหยื่อที่มีชีวิต อาวุธร้ายกาจของพวกมันคือขาหน้าที่เหมือนเคียวที่เรียงรายไปด้วยหนามแหลมที่ไว้ใช้จับเหยื่อ
  • ตั๊กแตนตำข้าวตัวเมียยิ่งอันตรายเนื่องจากขณะผสมพันธุ์พวกมันจะกินตัวผู้เป็นอาหาร โดยจะเริ่มกินจากส่วนหัวเป็นอย่างแรก ขณะที่ผู้กำลังชักกระตุกใกล้ตายก็จะเป็นการช่วยเร่งการฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่ร่างตัวเมีย
  • เราอาจจะเห็นว่าการกินผัวนั้นเป็นเรื่องสุดสยอง แต่ถึงตัวผู้จะไม่ถูกกินแต่มันก็จะตายในไม่ช้าหลังจากผสมพันธุ์ เพื่อการดำรงธ์เผ่าพันธุ์ตัวผู้จึงเลือกจะเป็นอาหารบำรุงให้แก่ตัวเมียเพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกของมันได้ถือกำเนิดลืมตาดูโลกดีกว่าตายไปเฉยๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://animals.nationalgeographic.com/animals/wild/events-monster-bash/worlds-weirdest-pictures/

ป่าประหลาดแปลก ลำต้นเป็น สี่เหลี่ยม แห่ง ปานามา

ต้นไม้ลำต้น เป็น สี่เหลี่ยม


โดยทั่วๆไปลำต้นของต้นไม้จะมีลักษณะเป็นวงกลม แต่มีสถานที่บางแห่งบนโลกที่ต้นไม้จะมีลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม

รายละเอียด

  • ต้นไม้สี่เหลี่ยม เป็นเฉพาะไม้ในตระกูลต้นฝ้าย(Cotton tree) ที่ขึ้นในบริเวณห่างจากทางเหนือของคลองปานามา 2 - 3 ไมล์ บริเวณปากปล่องภูเขาไฟ เท่านั้น
  • ไม่เพียงแต่ลำต้นเท่านั้นที่เป็นสี่เหลี่ยม แม้แต่วงปีก็ยังเป็นสี่เหลี่ยม
  • การที่บริเวณนี้เป็นปากปล่องภูเขาไฟทำให้ดินบริเวณนี้เป็นเถ้าภูเขาไฟ และเป็นเหตุให้บริเวณนี้ก็ร้างผู้คนอาศัยมานับร้อยปีแล้ว
  • นักจัยจากมหาวิทยาลัยฟอร์ลีด้า จึงได้ทำการเพาะกล้าของต้นฝ้ายเพื่อไขปริศนานี้หากต้นกล้าที่โตขึ้นยังคงความเป็นเหลี่ยมนั้นย่อมเกิดจากลักษณะของพันธุ์ไม้ แต่ถ้าไม่มันต้องเกิดจากสภาพแวดล้อมเฉพาะถิ่นของบริเวณนี้
  • ปัจจุบันยังไม่มีข้อสรุปว่าต้นไม้เหล่านี้ทำไมถึงมีลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม
บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://atlasobscura.com/place/valley-of-square-trees

ค้นพบตำรา ยูเรก้า ที่สาบสูญ (Tatters)

ตำราโบราณ ยูเรก้า


พบตำราของนักคณิตศาสตร์ วิศวกร นักดาราศาสตร์ และนักฟิสิกส์เอก เจ้าของวลี"ยูเรก้า"


ข้อมูลอ้างอิง

  • ค้นพบตำราฉบับสำเนาของอาร์คีมีดีส(Archimedes) ที่มีอายุกนับพันปี
  • ตำราเล่มนี้ได้ชื่อว่า “Tatters” เนื่องจากข้อความเดิมในตำราถูกขูดลบทิ้ง และเขียนทับลงใหม่ด้วยบทสวดมนต์
  • ตำราอายุกว่า 1000 ปี เล่มนี้ถูกปประมูลด้วยราคา 2 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา(60 ล้านบาท) ในปี 1998 โดยขณะนี้(ปี2011)Tatters ได้ถูกนำออกแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Walters เมือง Maryland ประเทศอังกฤษ
  • เชื่อว่าตำราเล่มนี้ถูกเขียนสำเนาจากต้นฉบับของอาร์คีมีดิส ในช่วงศตวรรษที่ 10 โดยอีก 200 ปีต่อมา ในเยรูซาเร็ม(Jerusalem) มันได้ถูกลบข้อความออกและเขียนทับโดยนักบวชที่ชื่อ Johannes Myronas(ชื่อนักบวช ค้นพบโดยการเอ็กซ์เรย์บนหน้าแรก) โดยเนื้อหาที่ถูกเขียนทับใหม่นั้นเป็นบทสวดมนต์
  • ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ตำราของ อาร์คีมีดิสเล่มนี้ถูกเขียนทับเป็นตำราบทสวดมนต์ เนื่องจากถ้ามันไม่เป็นหนังสือสวดมนต์มันคงจะหายสาบสูญ หรือไม่มีใครสนใจที่จะเก็บรักษามันมาเป็นเวลานับพันปี
  • มันถูกเก็บรักษาเป็นอย่างดีจนเวลาล่วงเลยถึงปี 1844 และถูกค้นพบอยู่ในโบสภ์ Constantinople
  • ในปี 1906 นาย Johan Ludwig Heiberg ได้ค้นพบกล่าวว่าตำราสวดมนต์นี้มีมีผลงานที่สาบสูญของ อาร์คีมีดิส
  • ในปี 2000 โครงการคัดลอกข้อความที่ถูกลบ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Walters ได้เริ่มดำเนินการกู้ข้อความที่สาบสูญ
  • ปัจจุบันข้อความที่ถูกลบได้ถูกคัดลอกเสร็จเรียบร้อย
  • อาร์คีมีดิส เป็นที่รู้จักในความสามารถเรื่องวิศวกรรม และคณิตศาสตร์ และวลี ยูเรก้า(Eureka ที่แปลว่า ฉันได้ค้นพบมันแล้วโว๊ย!) จากการค้นพบการแทนที่ในน้ำขณะกำลังลงแช่น้ำในอ่างอาบน้ำ

เมื่อทำการถ่ายภาพด้วยแสงอุลตร้าไวโอเรส จะเห็นวงกลมที่เป็นภาพที่ถูกลบออกปรากฏขึ้นบริเวณกลางหน้ากระดาษค่อนไปทางด้านบน

ข้อมูบอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2050631/Eureka-1-000-year-old-text-Greek-maths-genius-Archimedes-goes-display.html

วิญญาณ แห่ง เวหา

วิญญาณ แห่ง เวหา


เมื่อไม่นามมานี้ wowboom เคยนำเสนอบทความ วิญญาณ แห่ง ขุนเขา วันนี้มีภาพวิญญาณ แห่ง เวหา มาให้ชมกันอีกครั้งลองทายดูว่ามันเกิดจากอะไรกันดูนะครับ


รายละเอียด

  • ภาพที่เห็นนี้เป็นภาพ นกพิราบไม้(Wood pigeon) ที่บินชนกระจกหน้าต่างบ้าน
  • ภาพนี้ถ่ายโดยนาย David Hartley ที่ถ่ายหน้าต่างบ้านของตัวเองที่หมู่บ้านKingsclere เมืองBerkshire ประเทศอังกฤษ
  • ส่วนคราบที่เห็นนี้เกิดจาก ผงแป้งบนตัวนกพิราบ ซึ่งผงแป้งนี้ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้ขนนกเปียก
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2049634/OUCH-Thats-pigeon-need-pane-relief-bird-creates-eerie-print-crashing-window.html

ปรากฏการณ์ธรรมชาติ รุ้งไฟ(Fire rainbow)

รุ้งไฟ


ช่างภาพท่องเที่ยวได้บันทึกภาพปรากฏการณ์ธรรมชาติบนท้องฟ้าสุดงดงาม ที่เห็นในภาพที่เรียกว่า รุ้งไฟ


รายละเอียด


  • ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ปรากฏให้เห็นได้ยากยิ่งที่มีชื่อว่า รุ้งไฟ(Fire rainbow หรือ Circumzenithal arc)
  • ปรากฏการณ์นี้มีลักษณะเป็น รุ้งแนวราบ(Horizontal rainbow เป็นรุ้งที่มีลักษณะเป็นราบแบน ไม่เหมือนรุ้งทั่วไปที่มีลักษณะโค้ง)
  • ภาพนี้บันทึกภาพโดย ช่างภาพท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า Anton Jankovoy ชาวยูเครน ถ่ายได้ที่เมือง Ghasa ในเนปาล โดยใช้กล้องที่เซทให้เปิดรูรับแสงให้กว้าง(Large aperture)ที่ f/4 ใช้ความเร็วซัทเตอร์ที่ 1/400 sec.
  • ปรากฏการณ์รุ้งไฟเกิดขึ้นจากการที่ แสงจากดวงอาทิตย์หักเหออกจากผลึกน้ำแข็งในเมฆเซอรัส (Cirrus Cloud เป็นเมฆที่อยู่ในระดับสูง ที่มีลักษณะเป็นแผ่นบาง หรือฝอยบางๆลักษณะเหมือนขนนกทำให้แสงสามารถผ่านได้โดยง่าย) ในแนวราบ
  • โดยรุ้งไฟจะไม่ปรากฏในพื้นที่ที่อยู่เหนือจากเส้นละติจูดเหนือที่ 55 และจะไม่ปรากฏในพื้นที่ที่อยู่ต่ำกว่าเส้นละติจูดใต้ที่ 55
บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2036443/Travel-photography-Fire-rainbow-revealed-window-clouds.html

กล้องถ่ายรูป Lytro ที่เลือกโฟกัสภาพได้หลังถ่ายภาพไปแล้ว

กล้อง Lytro


เห็นรูปแล้วอาจจะคิดว่ามันเป็นต้องส่องทางไกล แต่มันเป็นกล้องถ่ายรูปที่ใช้เทคโนโลยี่ใหม่ล่าสุดคือ ให้คุณสามารถเลือกโฟกัสภาพได้ทีหลังจากถ่ายรูปไปแล้ว

รายละเอียด

  • กล้องถ่ายรูป Lytro จะมีเพียงปุ่ม On-Off กับปุ่มกดถ่ายรูป
  • เวลาถ่ายรูปคุณไม่จำเป็นต้องโฟกัสภาพ คุณสามารถกดถ่ายได้ทันที
  • เมื่อนำภาพที่ถ่ายมาเปิดบนเครื่องคอมพิวเตอร์ คุณสามารถคลิกได้เลยว่าต้องการให้ภาพนั้นเป็นแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือ หน้าเบลอหลังชัด เมื่อเลือกโฟกัสที่ต้องการได้ ก็ทำการแปลงภาพเป็น File JPEG
  • โดยกล้องนี้จะออกจำหน่ายในช่วงปลายปี 2011 ในราคา 399 เหรียญสหรัฐ(ประมาณ 12,000บาท)
  • เทคโนโลยี่นี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ในอดีตมีกล้องที่ชื่อว่า "plenoptic" หรือ "light field" ที่มีความสามารถในการถ่ายภาพได้เช่นเดียวกับกล้อง Lytro แต่กล้อง Plenoptic นั้นมีเลนส์ขนาดใหญ่เท่าห้องที่ติดตั้งอยู่กับคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง
  • ในกล้องถ่ายรูปทั่วๆไปจะมีเลนส์ 1 ถึง 2 อัน แต่กล้อง Lytro แทนที่เลนส์เหล่านั้นด้วยเลนส์ขนาดเล็กจำนวนมากเรียงกันอยู่ โดยเลนส์ขนาดเล็กเหล่านั้นจะดูดซับแสงทั้งหมดทุกทิศทางที่สะท้อนเข้าหน้ากล้อง เพื่อสร้างภาพที่มีชีวิต(living picture)สามารถเปลี่ยนแปลงจุดโฟกัสได้ตามต้องการ

ลองทดสอบโดยการเลือกโฟกัสภาพโดยการคลิกที่รูปดู ภาพจะเปลี่ยนจุดโฟกัสไปเรื่อยๆตามที่เราคลิก

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2051483/The-camera-lets-decide-focus-AFTER-shot--taking-possible-photo-once.html
  • https://www.lytro.com/living-pictures/282?utm_source=Embed&utm_medium=EmbedLink/282

วิธีให้เด็กกินผัก

ม่ายกินผักคะม่ายกินผัก


คุณปู่ Philip Vowles วัย 62 ปี พยายามหาวิธีให้หลานสาวตัวยุ่งวัย 5 ขวบที่ชื่อว่า ปารีส ที่ไม่ชอบกินผัก โดยใช้วิธีให้หลานตัวน้อยช่วยงานในสวนโดยการปลูกกะหล่ำปลี(Cabbage)ยักษ์ที่มีน้ำหนักถึง 50 กิโลกรัมซึ่งนั้นมันหนักว่าหนูน้อยปารีสถึง 2 เท่า

หนูน้อยปารีส กล่าวว่า
ผักที่หนูปลูกนั้น รสชาติดีกว่าที่ซื้อจากซุปเปอร์มาเก็ตมากเลยคะ

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2046762/More-day-Cabbage-patch-kid-grows-giant-vegetable.html

ใบไม้ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ

ใบไม้ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ

ภาพที่เห็นนี้ไม่ใช่คนที่ตัวเล็กที่สุดในโลก คนในภาพเป็นคนปกติทั่วๆไป

รายละเอียด


  • ใบไม้ที่เห็นนี้คือใบต้น Gunnera Manicata มันถือว่าเป็นใบไม้ที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ใหญ่ซะจนสามารถให้ครอบครัวเล็กทั้งครอบครัวสามารถนั่งปิกนิคได้ทั้งครอบครัว
  • ต้น Gunnera Manicata เป็นพืชมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ที่ขึ้นในป่าในเทือกเขาแอนดิส(Andes)
  • เห็นอย่างนี้การจะมุดไปอยู่ใต้ใบของพวกมันอาจได้เลือดเนื่องจากใต้ใบมีหนามแหลมอยู่เป็นจำนวนมาก และใบก็ไม่สามารถนำไปบริโภค
  • ต้น Gunnera Manicata ที่เห็นนี้ปลูกอยู่ที่สวกึ่งเขตร้อน Abbotsbury ใน Dorset มันถูกนำมาปลูกในสวนพฤษศาสตร์ตั้งแต่เมื่อสามสิบปีที่แล้ว แต่ ปีนี้พวกมันเกิดเติบโตใหญ่กว่าปกติถึง 0.90 เมตร จนมีใบใหญ่ถึง 3.3 เมตร
  • ซึ่งคาดว่าการที่มันเจริญเติบโตอย่างปกตินั้นเป็น ผลจากการที่ฤดูร้อนนี้มีอากาศที่ร้อนชื้นกว่าปกติ เนื่องจากมันเป็นพืชที่ขึ้นในพื้นที่ดินโคลนชื้นแฉะ สามารถอากาศร้อนชื้นจึงเหมาะสมต่อการให้พวกมันเจริญเติบโตกว่าปกติ
ข้อมูลอ้างอิง

  • www.dailymail.co.uk/news/article-2050534/Gunnera-Manicata-Huge-Brazilian-plant-growing-Dorset-11ft-wide-leaves.html

คนสุดขีด หญิงแก่ ที่มีรอยสักมากที่สุดในโลก (Isobel Varley)

หญิงแก่ ที่มีรอยสักมากที่สุดในโลก

ด้วยวัย 74 ปี(ณ ปี 2011) และรอยสักทั่วร่างถึง 76% เหลือเพียงใบหน้า ฝ่าเท้า หู และบางส่วนของมือ ที่ไร้รอยสัก เธอจึงถูกบันทึกในกินเนสบุ๊กว่าเป็น หญิงแก่ ที่มีรอยสักมากที่สุดในโลก

รายละเอียด

  • เธอผู้ครองตำแหน่ง หญิงแก่ที่มีรอยสักมากที่สุดในโลก จาก กินเนสบุ๊ก มีชื่อว่า อิซาเบล วาร์ลี่ย์(Isobel Varley) ชาวเมืองยอร์คเซียร์(Yorkshire) ประเทศอังกฤษ
  • เธอเริ่มสักครั้งแรกเมื่ออายุอานาปาเข้าไป 49 ขวบปี และก็หลงไหลในการสัก และทำการสักเรื่อยมาจนเกือบทั่วร่างกายจนมีรอยสักทั่วร่างกาย 76%
  • เธอแต่งงานเมื่อตอนอายุ 21 ปี และชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปตลอดกาลในปี 1986 เมื่อเธอและสามีได้ไปเที่ยวชมนิทรรศการรอยสัก ที่ Hammersmith Palais ในกรุงลอนดอน มันเป็นครั้งแรกที่ฉันได้มากชมนิทรรศการรอยสัก มันช่างมหัศจรรย์ และงดงาม และที่นี้เองที่เธอได้พบกับช่างสักนามว่าบิลล์ คุก(Bill Cook)ซึ่งมีร้านสักอยู่ข้างเมืองที่เธออาศัยอยู่
  • เธอแทบจะข่มตานอนไม่ได้อีกแล้วรอคอยจะให้ถึงวันที่ 14 สิงหาคม 1986 ที่เป็นวันนัดกับ บิลล์ คุก ไปสักรอยสักแรกในชีวิตของเธอ
  • รอยสักแรกของเธอคือ นกตัวเล็กๆที่สบักขวา เมื่อเธอเห็นผลงานเธอถึงกับต้องร้องขอให้ บิลล์ ช่วยสักรอยสักที่สองให้เธอและเธอได้รับรอยสักที่สองเป็นกล้วยไม้เล็กที่ต้นขาซ้าย และมันคือจุดเริ่มต้นแห่งเส้นทางสักอันยาวนานของเธอ
  • เธอเป็นผู้หญิงที่ชื่นชอบในเรื่องอย่างว่า เธอจึงสักรูปอวัยวะเพศชายไว้เต็มหัว และอีกหลายแห่งทั่วร่างกาย พร้อมกับข้อความว่า "HUNGRY PUSSY" เหนือของลับเธอ
  • ด้วยรอยสัก และการใช้ชีวิต เธอจึงนับเป็นหนึ่งใน คนขุดขีด

รูปเต็มตัวของเธอ หญิงแก่ ผู้มีรอยสักมากที่สุดในโลก

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.isobelvarley.com/
  • http://www.ugly.org/ugly_models.php?name=GWR

อาการแพ้ยา แพ้อาหารทะเล เปลี่ยนสาวยี่สิบ เป็นหญิงชราเจ็ดสิบ

แพ้ยา จากสาวยี่สิบ กลายเป็นยายเจ็ดสิบ


ใครจะเชื่อว่าในเวลาไม่กี่วันจากหญิงสาววัยยี่สิบเธอจะเปลี่ยนไปจนเหมือนเป็นหญิงชรา ดังภาพ

รายละเอียด

  • ภาพจั่วหัวนี้เป็นภาพของหญิงสาวเวียดนามที่ชื่อว่า Nguyen Thi Phuong ภาพแรกถ่ายขณะเธอมีอายุ 21 ในวันแต่งงาน ส่วนอีกภาพถ่ายขณะเธอมีอายุ 26 ปี
  • โดยในปี 2008 เธอเริ่มมีอาการคันทั่วร่างกาย ซึ่งเธอคิดว่ามันเกิดจากอาการแพ้อาหารทะเลของเธอ อาการคันทำให้เวลาเธอนอนหลับเธอจะเผลอเกาจนเกิดเป็นแผล เธอได้แต่หาซื้อยากินจากร้านขายยาแทนการไป้รักษาที่โรงพยาบาลเนื่องจากเธอ และสามีมีฐานะยากจน
  • เธอกล่าวว่าหลังจากเวลาผ่านไป 1 เดือน ที่ซื้อยากินอาการคันนั้นหายไป แต่ผิวเธอนั้นหลงเหลือรอยแผลเป็น เป็นหลุมๆ เธอจึงหันไปหาการรักษาด้วยแพทย์พื้นบ้านจนแผลเป็นหายแต่ผิวหนังเธอเริ่มหย่อนยานลง wowboom
  • เธอเปลี่ยนตำหรับยาพื้นบ้านเพื่อทำการรักษาปัญหาผิวหย่อนยานแต่มันไร้ผล
  • แพยท์กล่าวว่า การที่เธอเปลี่ยนไปจากหญิงสาวน่ารัก จนคล้ายหญิงชรานั้นอาจเป็นผลมาจากการใช้ยาพื้นบ้านซึ่งบ่อยครั้งที่มักจะมีการเติมสาร Corticoids(เป็นสารในกลุ่มสเตอลอย์โฮโมน) ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติทางผิวหนังที่เรียกว่า Mastocytosis ทำให้ร่างการผลิตมาสท์เซลล์(Mast cells)ขึ้นมากผิดปกติ
  • อาการผิดปกตินี้ส่งผลให้ชั้นเนื้อเยื้อไขมันใต้ผิวหนัง แยกตัวออกผิวหนังด้านบน ขณะที่ผิวหนังด้านบนยังคงเจริญเมื่อไม่มีชั้นไขมันคอยยึดรั้งผิวหนังด้านบนจึงเจริญเติบโตยืดยาวทำให้ดูเหมือนผิวหนังหย่อนยาน เหี่ยวย่น
  • แต่ทั้งเธอ และสามารถจำไม่ได้ว่าได้ใช้ยาอะไร หรือซื้อจากแหล่งใดบ้างในการรักษาอาการของเธอ
  • อาการดังกล่าวนี้ไม่มีวิธีรักษา แต่มีวิธีบรรเทา โดยใช้ยา และใช้เลเซอร์เทอราปีในการลบเลือนริ้วรอย แพทย์คาดว่าจะสามารถบรรเทาอาการของโรคลงได้ 50-70%
  • ถึงเธอจะดูเหมือนหญิงชรา แต่ มันไม่ได้ส่งผลถึงการมีประจำเดือน ไม่ทำให้ผมหงอกหลุดร่วง ไม่ส่งผลให้ฟันหัก ไม่ทำให้สายตาฝ้าฟาง และไม่ส่งผลต่อจิตใจของเธอเพราะสามีของเธอยังคงรักเธอไม่เปลี่ยนแปลงถึงแม้ร่างกายเธอจะเปลี่ยนไป
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/health/article-2048678/Nguyen-Thi-Phuong-Vietnamese-woman-ages-50-years-days.html

ปลาประหลาด ฉลามตาเดียว (cyclops shark)

ปลาประหลาด ฉลามตาเดียว


มีตาเดียวขนาดใหญ่ลำตัวสีขาว ไม่มีแขนขา เห็นภาพแล้วคิดว่าสิ่งนี้มันคืออะไรลองทายกันดู แล้วลองอ่านรายละเอียดด้านล่างว่าทายถูกหรือเปล่า
รายละเอียด

  • เฉลย ภาพที่เห็นจั่วหัวคือ ปลาฉลาม
  • ฉลามตัวนี้มีลำตัวยาว 56 เซ็นติเมตร มีดวงตาหนึ่งดวงขนาดใหญ่ด้านหน้า ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของโรค “Cyclopia” ที่มีเพียงสัตว์ไม่กี่สายพันธุ์(รวมถึงมนุษย์) ที่ป่วยเป็นโรคนี้
  • เมื่อปีที่ผ่านมาชาวประมงนามว่า Enrique Lucero León จับปลาฉลาม Dusky ท้องแก่ได้ใกล้ๆเกาะ Cerralvo ใน อ่าวแคลิฟอร์เนีย ประเทศเม็กซิโก เมื่อ León ผ่าท้องฉลามออกเขาก็พบว่ามีลูกปลาฉลามไหลออกมา 9 ตัว แต่มีตัวอะไรซักอย่างมีลักษณะเหมือนปลาฉลามแต่มีสีขาวที่สำคัญมีตาเดียว ซึ่งเป็น ปลาประหลาด ที่สุดที่เขาเคยพบมา
  • เมื่อนักชีววิทยานามว่า Galván-Magaña และทีม ได้ยินเรื่องดังกล่าวผ่าน Facebook เขาจึงได้ขอยืมซากปลาฉลามตาเดียวเพื่อมาทำการตรวจสอบโดยการ X-ray และตรวจสอบงานวิจัยในอดีตเกี่ยวกับโรค Cyclopia ทำให้ทีมงานยืนยันว่าซากปลาฉลามตัวนี้เป็นของจริงที่เกิดจากการป่วยเป็นโรค Cyclopia
  • ฉลามตัวนี้ยังมีอาการป่วยเป็นโรคเผือก(Albinism รอยโรคทำให้เนื้อเยื้อไม่มีเม็ดสี) ร่างกายผิดรูป ไม่มีรูจมูก ร่วมด้วย ซึ่งหากมันสามารถมีชีวิตรอดจนถึงคลอดก็คงไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานนักเนื่องจากสีผิวที่สะดุดตานักล่า ร่างกายที่ผิดรูปทำให้ว่ายน้ำได้ไม่ดีนัก
  • ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม(รวมถึงมนุษย์)การป่วยเป็นโรค Cyclopia นี้เกิดจากการที่มารดาขาดสารอาหารโดยเฉพาะวิตามินเอ แต่สำหรับฉลามนั้นยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดแต่คาดว่าเกิดจากมลพิษในน้ำทะเล
คลังภาพ


ภาพเปรียบเทียบระหว่าง ลูกฉลามปกติ กับ ปลาฉลามตาเดียว


เทียบกับพี่น้องท้องเดียวกัน ดูยังไงก็ไม่เหมือนกันแม้แต่นิคเดียว


ซูมดูใกล้ๆยิ่งดูเหมือนลูกอ๊อตผสมปลาหมอสีทำให้หัวโหนก แถมกินกลูต้าไธโอนเกินขนาดเลยซีด แถมใส่บิ๊กอายตาโต

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://news.nationalgeographic.com/news/2011/10/pictures/111013-shark-albino-one-eyed-fetus/?source=hp_dl2_news_cyclops20111015

จักรวาล อายุเท่าไร (How old)

อายุเท่าไร


โดยตั้งอยู่บนสมมุติฐานที่ว่า จักรวาลเกิดขึ้นด้วยการระเบิดบิ๊กแบงค์
  • นักดาราศาสตร์ได้ทำการคำนวนอายุของจักรวาลโดยอาศัยข้อมูลจากการวัดค่า องค์ประกอบของสสารในจักรวาล และความหนาแน่นของพลังงานในจักรวาล ทำให้สามารถหาได้ว่าจักรวาลนั้นขยายตัวด้วยความเร็วเท่าไรในอดีต และเมื่อนักดาราศาสตร์ได้ทำการคำนวณย้อนกลับทำให้สามารถระบุได้ว่าเกิดบิ๊กแบงค์ขึ้นเมื่อประมาณ 13.7 พันล้านปีล่วงมาแล้ว
  • ทำให้จักรวาลมีอายุ 13.7 พันล้านปี บวกลบ 130 ล้านปี
ข้อมูลอ้าวอิง

  • http://www.space.com/13172-7-surprising-universe-facts.html

น้ำท่วม ประเทศไทย

หลังจากผมหายไปซะหายวัน เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 5 และ 8 ตุลาคม 2554 Admin DEN ก็ยุ่งอยู่กับการที่ต้องไปอยุธยาเพื่อช่วยย้ายของให้ ย่า กับ ป้า

พอวันที่ 10 ตุลาคม 2554 Admin DEN ต้องไปทำงานที่ ภูเก็ต 25 วัน ตอนเดินทางออกจากกรุงเทพก็รถติดซะเนื่องจากน้ำท่วมอีกแล้วครับท่าน

ตอนเย็นโทรสอบถามที่บ้านก็ได้รับข่าวว่าตอนนี้ต้อง อพยพ ย่า กับ ป้า มาพักกับอาที่กรุงเทพแล้วเนื่องจากน้ำท่วมสูงมากห่างจากพื้นเรือนโซนสูงอีกไม่กี่นิ้ว น่าจะเป็นครั้งแรกที่ย่าผมที่อายุ 100 ปี ต้องย้ายหนีน้ำท่วม(ปล.บ้านย่าติดคลองน้ำท่วมทุกปีแต่เป็นบ้านใต้ถุนสูง)

พอมาถึงภูเก็ต ฝนก็ตกตอนเย็นเกือบทุกวัน มันจะตกอะไรนักหนา จะให้ท่วมกันทั้งประเทศเลยหรือ แต่ภูเก็ตยังปลอดภัยจากภัยน้ำท่วมอยู่ : )

พอหาที่พักที่นอนได้ กะ จะเล่นเน็ทติดตามข่าวน้ำท่วมก็พบว่าผมลืมว่าตอนนี้ผมใช้ Sim 3G ของ i-Kool มันเล่นได้แค่กรุงเทพ ที่ภูเก็ตเล่นไม่ได้ : (

เลยแวะไป โลตัส หาซื้อ Net Sim ได้ของดีเทคมามันก็ดันใช้ไม่ได้เมื่อต่อเข้าคอมพิวเตอร์ แต่เล่นบนโทรศัพท์ได้ซะงั้น

สรุปกว่าจะเล่นเน็ทได้ต้องรอถึง วันนี้ 15 ตุลาคม 2554 ไปซื้อ Net Sim ของ AIS ถึงจะเล่นเน็ทได้ซะที

ตอนนี้ก็ต้องรอลุ้นอยู่ว่าบ้านที่กรุงเทพของ Admin DEN จะรอดหรือเปล่าเพราะที่บ้านอยู่ข้างถนนศรีนครินทร์ ใกล้ลาดกระบัง ห่างรามก็ไม่มาก ไปอีกนิคก็ถึงสุมทรปราการ หนาวเลยครับทุกคน แต่

wowboom ขอเป็นกำลังใจ ให้ผู้ประสบภัยทุกคนนะครับ
ขอให้น้ำลดเร็วๆ และร่วมมือกันฟื้นฟูประเทศของเราด้วยกัน

โลก อายุเท่าไร (Age of the Earth)

โลกมีอายุเท่าไร


คำถาม

  • หากจะถามว่าโลกมีอายุเท่าไร?
คำตอบ

  • มีอายุประมาณ 4.54 พันล้านปี โดยมีค่าความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ บวกลบ 1%
  • การหาอายุของโลกนั้นอยู่บนพื้นฐานจากการหาอายุด้วยวิธี Radiometric age dating จากตัวอย่างอุกกาบาต และอายุที่ได้ก็สอดคล้องกับตัวอย่างหินที่ได้จากโลก และตัวอย่างจากดวงจันทร์
  • โดยตัวอย่างที่เก่าที่สุดของโลกเป็น ชิ้นผลึกZircon ที่ได้จาก Jack Hills ในบริเวณตะวันตกของออสเตรเลียที่มีอายุไม่น้อยกว่า 4.404 พันล้านปี
  • ส่วนตัวอย่างที่เก่าที่สุดนั้นได้จาก อุกกาบาต ที่มีอายุ 4.567 พันล้านปี
  • จากตัวอย่างจาก Jack hills และอุกกาบาตทำให้ได้เราสามารถพอประมาณอายุของโลกได้
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Age_of_the_Earth

มหัศจรรย์ธรรมชาติ หินที่มีรูปทรงเหมือน ต้นบร็อคโคลี่ (Sand Tufa)

หินรูปทรงประหลาด


ภาพฉากหลังที่เห็นเป็นเทือกเขา Sierra Nevada ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาโพรน ตัดกับฉากหน้าที่เป็นหินรูปทรงแปลกตาคล้ายต้นบร็อคโคลี่หิน


รายละเอียด

  • สิ่งเห็นเป็นหินรูปทรงแปลกตามีชื่อเรียกว่า Sand tufa
  • Sand tufa เกิดขึ้นมาจากในอดีตบริเวณดังกล่าวเป็นทะเลสาบที่มีน้ำมีฤทธิ์เป็นด่าง เมื่อมีน้ำจืดพุขึ้นมาเบื้องล่างทำให้เกิดการก่อตัวสะสมของแคลเซีย คาร์บอเนต(calcium carbonat)ที่พื้นทะเลสาบ
  • เมื่อทะเลสาบเหือดแห้ง ก้นทะเลสาบส่วนที่เปราะบางก็จะถูกสภาพอากาศกัดเซาะ กระแสลมจะพัดพาเศษทรายออกไปเผยให้เห็นแต่ส่วนที่แข็งของแคลเซีย คาร์บอเนต ที่แข็งตัวเหมือนต้นบร็อคโคลี่
  • ภาพที่เห็นนี้เป็น Sand tufa ใน อาริโซน่า
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://science.nationalgeographic.com/wallpaper/science/photos/weathering-erosion-gallery/sand-tufa/

ซุปเปอร์โนว่า ที่ เก่าที่สุดในจักรวาล

เก่าที่สุดในจักรวาล


รายละเอียด

  • ซุปเปอร์โนว่า(Supernovas)ที่เก่าที่สุดในจักรวาล นั้นเกิดจากดวงดาว 150 ดวงในบริเวณที่เรียกว่า Subaru Deep Field ระเบิด
  • การค้นพบนี้เป็นผลงานของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Tel Aviv ที่ใช้กล้องโทรทรรศน์ Subaru ที่ตั้งอยู่ที่ภูเขาไฟ Mauna Kea ในฮาวาย ทำการส่องไปในบริเวณที่เกิดซุปเปอร์โนว่า โดยใช้เวลาหลายคืนในการสะสมแสงอันเลือนลางจากซุปเปอร์โนว่าจากกาแล็คซี่อันไกลโพ้นจนสามารถสร้างเป็นภาพขึ้นมาได้
  • โดยซุปเปอร์โนว่านี้เกิดขึ้นเมื่อกว่า 1 หมื่นล้านปีมาแล้วทำให้มันเป็นสิ่งที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบขณะนี้
  • โดยทีมวิจัยได้ใช้เบาะแสจาก สิ่งที่เรียกว่า อนุภาคเทอร์โมนิวเคลียร์(thermonuclear)ของธาตุ Iron ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเกิดเกิดการระเบิดซุปเปอร์โนว่า จากการวิเคราะห์ทำให้ทราบว่าเป็นชนิดแอลเอ(thermonuclear Type-la)ที่จะเกิดขึ้นจากการระเบิดของดาวแคระขาว
ข้อมูลอ้างอิง
  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2045663/10billion-year-old-supernovas-spotted-Subaru-Deep-Field.html

เสื้อคลุมล่องหน สำหรับ นักประดาน้ำ

มาอีกแล้ว


เสื้อคลุมล่องหน มาอีกแล้วแต่ก่อนก็เคยนำเสนอแบบใช้แผ่น Metaflex หักเหแสงออกจากวัตถุ แต่เสื้อคลุมล่องหนในบทความนี้ใช้ความร้อน ในการทำให้วัตถุล่องหนแทน

รายละเอียด
  • แน่นอนแนวคิดเสื้อคลุมล่องหนตัวนี้ก็ยังใช้หลักการหักเห หรือ เบี่ยงเบนแสงออกจากวัตถุเช่นเดิม แต่คราวนี้ใช้ความร้อนในการหักเหแสงแทน
  • ในการทดลองนี้ใช้ เส้นใยคาร์บอนที่สามารถนำไฟฟ้าได้ ใส่ไว้ในน้ำเมื่อทำการปล่อยกระแสไฟฟ้าผ่านเส้นใยคาร์บอน เส้นใยจะร้อนขึ้นอย่างเฉียบพลัน
  • เมื่อเส้นใยร้อนขึ้นอย่างเฉียลพลันจะก่อให้เกิดชั้นน้ำร้อนเหนือพื้นผิววัสดุ และชั้นความร้อนนี้เองที่จะทำหน้าที่สะท้อนแสงกลับออกไปก่อนที่แสงจะตกกระทบวัตถุเบื้องหลัง ทำให้แสงที่สะท้อนกลับมาสู่ตาก็เป็นเพียงภาพน้ำ(ร้อน)
ข้อมูลอ้างอิง
  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2045118/Invisibility-cloak-created-scientists-theres-hitch--works-UNDERWATER.html

ต้นสนประหลาด โค้งงอเป็นตะขอ ประเทศโปแลนด์ (Crooked Forest)

ป่าตะขอ


ณ บริเวณเล็กๆในป่าทางตะวันตกของ โปแลนด์ มีต้นสนประหลาดอยู่ประมาณ 400 ต้น ที่เจริญเติบโตขึ้นมาอย่างผิดรูปผิดร่าง โค้งงอเป็นตะขอและมันยังคงเป็นปริศนาถึงทุกวันนี้

รายละเอียด

  • ป่าแห่งนี้มีชื่อว่า ป่าที่ถูกทำให้โค้งงอ(Crooked Forest) ตั้งอยู่ในเมือง Szczecin ประเทศโปแลนด์
  • ถายในป่ามีต้นสนอยู่ประมาณ 400 ต้น ที่มีลำต้นส่วนล่างโค้งงอไปทางทิศเหนือ ที่ถูกล้อมรอบด้วยป่าที่เป็นต้นไม้ปกติ(ลำต้นตรง)
  • ต้นสนเหล่านี้ถูกปลูกขึ้นมาในราวๆปี 1930 โดยน้ำมือมนุษย์ที่โดยทั่วไปจะปลูกประมาณ 7-10 ปี จะถูกโค่นเพื่อนำเนื้อไม้ไปใช้ประโยชน์ แต่ทำไมต้นสนเหล่านี้จึงถูกเกษตกรทำให้โค้งงอ เขามีวัตถุประสงค์ หรือกระทำเช่นนี้เพื่ออะไรยังคงเป็นปริศนาอยู่ทุกวันนี้
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://news.discovery.com/earth/polands-crooked-forest-mystery-110628.html

พบขุมสมบัติ บน ดวงจันทร์

พบสมบัติ บน ดวงจันทร์


เมื่อเราเห็นภาพดวงจันทร์เราคงคิดว่ามันเป็นดินแดนเว้งว้าง แห้งแล้งไร้ซึ่งชีวิต ที่มีแต่ฝุ่นสีเทาทั่วทั้งดวงดาว

รายละเอียด

  • จากภาพถ่ายดาวเทียมจากยานสำรวจอวกาศที่โคจรอยู่ในวงโคจรของดวงจันทร์ได้ทำการ แผนที่ ที่เผยให้เห็นว่าบนพื้นผิวของดวงจันทร์นั้นมีโลหะมีค่าอย่าง ไทเทเนียม จำนวนมหาศาล
  • ยานสำรวจที่โคจรอยู่นั้นมีการติดตั้ง กล้องถ่ายภาพมุมกว้างที่ความละเอียดระหว่าง 100 ถึง 400 เมตร/พิกเซิล ที่สามารถสแกนพื้นผิวของดาวจันทร์ด้วยความยาวคลื่นที่แตกต่างกันถึง 7 ความยาวคลื่น
  • เนื่องด้วยแร่ธาตุแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติในการดูดซับ หรือ สะท้อน สเปกตั้มคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แตกต่างกันไป
  • ด้วยวิธีนี้เราสามารถสร้างภาพโมเสดพื้นผิวของดวงจันทร์ที่มีสีสันที่แตกต่างกันตามความต่างของแร่ธาตุที่อยู่บนพื้นผิวของดวงจันทร์
  • โดยทั่วไปบนโลกจะพบไทเทเนียมในเนื้อหินโดยจากแร่ธาตุหายากนั้นมีไทเทเนียมเพียง1% แต่บนดวงจันทร์จากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมในเนื้อหินชนิดที่พบแร่ไทเทเนียมมีปริมาณมากถึง 1%-10%
  • อย่างไรก็ตามยังไม่ทราบว่าทำไมบนดวงจันทร์ถึงมี ไทเทเนียม มากมายถึงขนาดนี้
  • ภาพจั่วหัวคือรูปภาพพื้นผิวของดวงจันทร์ที่รวมกันระหว่างภาพถ่ายธรรมดา กับ ภาพถ่ายที่ได้จากคลื่นอัลตร้าไวโอเรด
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2046615/Moon-contains-treasure-trove-valuable-titanium-ores-claim-scientists-analysing-lunar-surface.html

อุปกรณ์ไฮเทค เล่นกับน้องแมวที่บ้านจากทุกที่ในโลก (ipet)

อุปกรณ์ไฮเทค สำหรับคนรักแมว


รับรองว่าคนรักแมวคงจะต้องชอบอุปกรณ์ในภาพนี้แน่นอน หลายคนอาจจะสงสัยว่าก็แค่ก้านขนนกติดอยู่บนฐานกลมๆมันจะเจ๋งอะไร

รายละเอียด

  • บริษัท Idaho ได้สร้างอุปกรณ์ที่จะทำให้เจ้าของน้องเหมียวที่นั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิสหรือกำลังท่องเที่ยวอยู่ที่ใดในโลกก็ได้ ให้สามารถเล่นกับน้องเหมียวที่บ้านได้ผ่านระบบอินเตอร์เน็ท
  • โดยอุปกรณ์นี้มีชื่อว่า iPet ที่ประกอบไปด้วย ขนนกติดก้านควบคุมระยะไกล กล้องรับภาพระดับHD และซอฟแวร์ควบคุมขนนกติดก้าน โดยเจ้าของสามารถ login เข้าระบบเพื่อให้เจ้าของสั่งให้ขนนกติดก้านขยับเคลื่อนไหวเล่นกับน้องเหมียวผ่านเน็ทได้ทุกที่ในโลกที่มี อินเตอร์เน็ท

ต่อไปสามารถเล่นกับน้องแมวผ่านเน็ทได้ทุกที่แล้ว

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2046620/Kitty-peep-Voyeuristic-machine-lets-people-play-REAL-cats-remote-control---Internet.html

ถ้ำหินอ่อนมหาวิหาร 1 ใน ถ้ำ ที่ สวยที่สุดในโลก

ถ้ำที่สวยที่สุดในโลก

ถ้ำหินอ่อนมหาวิหาร เป็นหนึ่งในถ้ำที่บริสุทธิ์ที่สุด ห่างไกลที่สุด และงดงามที่สุดในโลก มันคือประติมากรรมอันงดงามจากธรรมชาิติ

รายละเอียด

  • กระแสน้ำได้กัดแซะ จนภูเขาหินอ่อน เกิดเป็นโครงข่ายถ้ำหินอ่อนอันงดงาม ไม่เหมือนถ้ำแห่งใดในโลก
  • ถ้ำหินอ่อนมหาวิหาร(The marble cathedral) เป็นถ้ำที่ห่างไกลสุดขีด หากคุณต้องการจะไปสัมผัส ธรรมชาิติอันงดงามนี้ คุณจะต้องนั่งเครื่องบินจากเมือง ซันติอาโก(Santiago : เมืองหลวงของประเทศชิลี) ไปทางใต้กว่า 1200 กิโลเมตร ยังเมืองCoyhaique ที่เป็นเมืองที่ใกล้ที่สุดแล้วต่อรถไปตามถนนที่ทุรกันดารไปอีกกว่า 300 กิโลเมตร
  • ถ้ำหินอ่อนมหาวิหาร นี้ตั้งอยู่ในทะเลสาบ General Carrera ในเมืองเพทาโกเนีย(Patagonia)ทะเลสาบแห่งนี้เป็นทะเลสาบน้ำจืด ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ อเมริกาใต้ั น้ำในทะเลสาบนั้นใสสะอาด มีสีฟ้าคราม
  • น้ำสีฟ้าครามในทะเลสาบ นั้นเกิดจาก ตะกอนดินละเอียดที่ละลายมาจากธารน้ำแข็ง ที่ก่อให้เกิดน้ำสีฟ้าครามที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนที่ใดในโลก
  • ความงดงามของถ้ำนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลา จากแสงที่สะท้อนอาบทั่วทั้งผนังถ้ำ โดยเมื่อระดับน้ำในทะเลสาบมีระดับสูงน้ำจะเป็นสีน้ำเงินเข้ม และระดับน้ำจะลดลงในฤดูหนาวเนื่องจากไม่มีน้ำที่ละลายจากธารน้ำแข็งมาเติมในทะเลสาบ ทำให้น้ำในทะเลสาบเป็นสีฟ้าคราม
  • ขณะนี้แม่น้ำที่หล่อเลี้ยงทะเลสาบแห่งนี้กำลังตกอยู่ในอันตรายเนื่องจาก โครงการสร้างโรงงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ ของ รัฐบาลชิลี
  • ภาพถ่ายชุดนี้เป็นผลงานของ Linde Waidehofer วัย 67 ปี จากรัฐโคโลราโด(Colorado) สหรัฐอเมริกา
คลังภาพ


กระแสน้ำที่กัดเซาะ จนก่อเกิดเป็นประติมากรรมทางธรรมชาิติอันงดงาม


น้ำที่กัดเซาะ ทำให้ภายในน้ำเหมือนดั่งมี เสาหินอ่อนอันงดงาม ค้ำยันไว้ ก็ไม่ปาน


บวกกับ น้ำสีคราม ยิ่งขับให้ถ้ำแห่งนี้ยิ่งดูงดงามแปลกตา

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-2021090/The-marble-cathedral-Chile-Natural-wonder-worlds-beautiful-cave-network.html

ปลาทอง ที่ อึดที่สุดในโลก

พบผู้รอดชีวิต หลังติดอยู่ใต้ตึก 134 วัน


ใครจะเชื่อว่าจะมีการค้นพบผู้รอดชีวิต ที่ติดอยู่ในซากปรักหักพัง จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เมือง ไครสต์เชิร์ช ประเทศ นิวซีแลนด์ หลังจากติดอยู่นานถึงเกือบ 4 เดือนครึ่ง

รายละเอียด

  • ผู้รอดชีวิตนี้มีชื่อว่า Shaggy และ Daphne เป็น ปลาทองสองตัว
  • เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งที่พวกมันสามารถรอดชีวิตอยู่ใได้ โดยปราศจาก การให้อาหาร ไม่มีไฟฟ้าสำหรับให้ออกซิเจน และกรองน้ำภายในแท็งค์ ได้ถึง 134 วัน
  • โดยเบื้องหลังของปาฏิหาริย์ คงเกิดจากพวกมันอยู่ในแท็งค์ขนาดใหญ่ความจุ 100 ลิตร ภายในแท็งค์มีพืชน้ำที่พวกมันคงใช้แทะเล็มประทังชีวิต และตะใคร่น้ำตามโขดหิน และกระจกกินกันตาย
  • โดยมีเชื้อแบคทีเรีย เป็นตัวบำบัดน้ำ ในแท็งค์
  • ที่สำคัญ เดิมที่ ในแท็งค์มีปลาทอง 6 ตัว โดยพบผู้รอดชีวิต 2 ตัว อีก 1 นอนอืดลอยบนผิวน้ำ ส่วนอีก 3 หายไปอย่างไร้ร่องรอย(จ๊าก! ปลาทองกินศพเพื่อนๆไปหรือ?)
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-2019297/New-Zealand-earthquake-2-goldfish-survive-134-DAYS-food-tank-filter.html#ixzz1TeWpOLKj

สตีฟ จ๊อบส์ เสียชีวิตแล้ว เมือวันที่ 5 ตุลาคม 2554

สตีฟ จ๊อบส์

หนึ่งในผู้ก่อตั้งอภิมหาอณาจักร Apple Inc. ได้เสียชีวิตลงแล้ววัย 56 ปี วันที่ 5 ตุลาคม 2554 ข้างบนนี้คือคำไว้อาลัยบนหน้าเว็บของ Apple

อ้างอิงแหล่งข่าว

  • http://www.apple.com/stevejobs/
  • http://www.chicagotribune.com/news/nationworld/ktla-apple-steve-jobs-dies,0,7477308.story