แมงมุม ประตูกล (Cyclocosmia spiders)

แมงมุม ประตูกล

ภาพที่เห็นนี้ไม่ใช่ ตราสัญลักษณ์ของลัทธิ หรือสมาคมลับอะไรที่ไหนทั้งนั้น แต่ มันเป็นส่วนก้นของ แมงมุมประตูกล

รายละเอียดเกี่ยวกับ แมงมุมประตูกล

  • แมงมุมประตูกล(Trapdoor spider) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cyclocosmia
  • แมงมุมประตูกลมีรูปร่างที่แปลกประหลาด คือ มีส่วนท้ายของร่างกายตัด เป็นผิวแข็ง มีลักษณะคล้ายจาน
  • แมงมุมประตูกล เป็น แมงมุมที่อาศัยอยู่บนพื้นดินในรู
  • ส่วนตูดที่ตัดเรียบแข็งนี้มีไว้สำหรับ อุดรูของพวกมัน คล้ายเป็นประตูกล เมื่อถูกคุกครามจากผู้บุกรุก
  • นอกจากนั้นในบริเวณตูดนี้ยังมีขนแข็งคล้ายหนามอยู่รอบๆขอบจาน เพื่อเสริมการป้องกันอีกชั้นหนึ่ง
  • แมงมุมประตูกล มีอยู่ 4 สายพันธุ์ ที่พึ่งมีการค้นพบในช่วงหลังมานี้เอง
  • โดยเฉพาะสายพันธุ์ Cyclocosmia ricketti เป็นสายพันธุ์มี่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะตัวเมียมีความยาว 28 มิลลิเมตร และตูดตัดของมันมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 มิลลิเมตร
  • พวกมันแต่ละสายพันธุ์ สามารถจำแนกได้ตามลวดลายบนจาน ที่ ตูด รูปร่างของพวกมัน
มาดูหน้าตา และบั้นท้ายตัดฉากของ แมงมุมประตูกลกัน เต็มๆ ตอนแรกนึกว่าโดนปังตอตัดตูดซะอีก

ข้อมูลอ้างอิง

แมงมุม มือสังหาร ( Assassin spider )

แมงมุมมือสังหาร


แมลงรูปร่างประหลาดนี้ เพื่อนจะเชื่อหรือไม่ว่ามันคือ แมงมุม และรูปร่างที่แปลกประหลาดนี้ก็ออกแบบมาสำหรับ สังหาร

รายละเอียดเกี่ยวกับ แมงมุมมือสังหาร

  • นอกจากชื่อ แมงมุมมือสังหาร(Assassin spider) พวกมันถูกรู้จักในอีกชื่อหนึ่งเนื่องจากรูปร่างที่ มีการวิวัฒนาการของ ขากรรไกร และ คอ ของมันไปอย่างแปลกประหลาด จน ละม้ายนกพีลิแกน พวกมันจึงถูกเรียกว่า แมงมุมพีลิแกน ( Pelican Spider )
  • ขากรรไกร และคอ ของ แมงมุมมือสังหาร ถูกวิวัฒนาการไปเพื่อการ จับ แมงมุมอื่นเพื่อกินเป็นอาหาร
  • แมงมุมมือสังหาร พบได้ที่ แอฟริกาใต้ มาดากัสการ์ และ ออสเตรเลีย
  • พวกมันมีวิธีล่าที่แปลกประหลาด คือ ใช้ ขากรรไกร ที่ยาวแทง เหยื่อ โดยปลายขากรรกไกรมีเขี้ยวพิษ
  • แมงมุมมือสังหารมี คอ ที่ ยาวเรียว เพื่อที่สามารถทำให้พวกมันสามารถโจมตี เหยื่อของมันได้จากในระยะไกล (พวกมันกินเฉพาะ แมงมุม เท่านั้น)
  • พวกมันถูกพบเป็นซาก ฟอสซิล อายุย้อนกลับไปกว่า 40 ล้านปี เมื่อปี 1840 จนกระทั้งได้มีการค้นพบแมงมุมมือสังหาร ตัวเป็นๆ ครั้งแรกเมื่อปี 1881 ในมาดากัสการ์
  • แมงมุมมือสังหารมีอยู่ 25 สายพันธุ์ มีขนาดตั้งแต่ 2 มิลลิเมตร ถึง 8 มิลิเมตร ด้วยขนาดที่เล็กพวกจึงไม่มีอันตรายต่อมนุษย์

หลายคนอาจจะดูไม่ออกว่ารูปร่าง แมงมุมสังหาร มันเป็นอย่างไรก็ดูภาพนี้นะครับ


เป็นซากซอสซิล ใน อำพัน อายุ 30 ล้านปี

ข้อมูลอ้างอิง

อ้างอิงในส่วนเนื้อหา


อ้างอิงในส่วน ภาพอำพันแมงมุมมือสังหาร

มดแปดขา ( Ant-like Jumper )

มดแปดขา


มดแปดขา ดูรูป อาจจะเริ่มสับสนว่าว่า มด มันเป็น แมลง หรือ แมง กันแน่แต่โดยแท้จริง มด เป็น แมลงฉะนั้นพวกมันมี 6 ขา

รายละเอียด มด 8 ขา


  • โดยแท้จริง พวกมันไม่ใช่ มด แต่ พวกมันเป็น แมงมุม (หลายคนอาจจะอ้าปากค้างว่า จริงหรือ!)
  • พวกมันมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า plataleoides Myrmarachne
  • พวกมันพรางตัว โดย วิวัฒนาการร่างกายไปจน คล้าย มดKerengga และ มดweaver พวกมันเลียนแบบทั้งในทางกายภาพ(รูปร่าง) ท่าทาง และพฤติกรรม แต่สิ่งที่มันไม่เหมือนมดKerengga และ มดweaver ก็คือพวกมันไม่ดุร้าย ไม่กัด และพวกมันออกจะขี้อายเสียมากกว่าด้วย
  • ถึงแม้พวกมันจะมี 8 ขา แต่พวกมันก็มีพฤติกรรมที่จะยกขาหน้าขยับไปมาเหมือน เป็น หนวด ของมด
  • พวกมันพบได้ใน อินเดีย ศรีลังกา จีน และ หลายส่วนของ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้
  • โดยบนส่วนหัวของพวกมัน ยังมีแต้มสีดำล้อมรอบดวงตา เพื่อหลอกว่าเป็นตาของมด
  • โดยตัวเมียจะเลียนแบบ มด ได้เหมือนกว่าตัวผู้มากทั้งขนาดร่างกาย สี โดยตัวเมียจะมีขนาด 6 - 7 มิลลิเมตร ส่วนตัวผู้ขนาดใหญ่กว่าคือ 9-12 มิลลิเมตร เนื่องจากมีขากรรไกรขนาดใหญ่ ถึง 1 ใน 3 ของร่างกาย
  • พวกมันจะอาศัยอยู่บนต้นไม้ ที่มีรังมดอยู่ แต่จะทอใยอยู่ใต้ใบที่ห่างจาก มดพวกนี้เพื่อซุ่มล่าเหยื่อ
  • โดยเหตุที่พวกมันเลียนแบบ มด ก็เนื่องมาจากมดพวกนี้ดุร้าย กัดเจ็บปวดมาก และมีรสชาติห่วย จึงไม่ค่อยมีสัตว์นักล่าใดมาข้องเกี่ยวกับพวกมัน
  • ภาพจั่วหัว คือ มดเพศเมีย
คลังภาพ



เมื่อเห็นหน้าจะเห็นว่า มันมีดวงตา หลายคู่ซึ่งไม่เหมือนมดที่มีตาเพียง 1 คู่


ส่วนภาพนี้เป็นแมงมุมตัวผู้ จะไม่ค่อยเหมือนมดมากนัก เนื่องจากมีขากรรไกร ขนาดใหญ่ ที่มีไว้สำหรับต่อสู้แข่งขันกับ ตัวผู้ตัวอื่น โดยขากรรไกรสามารถอ้าออกได้ เมื่ออ้าออกจะเผยให้เห็นเขี้ยวอยู่ด้านใน

ข้อมูลอ้างอิง


แมงมุม ปู ขี้นก มันจะเกี่ยวอะไรกัน

แมงมุม ปู ขี้นก

ถ้าพูดถึง แมงมุม ปู และขี้นก คงแทบจะไม่คาดคิดว่ามันจะมีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่ ธรรมชาติ ก็สร้างให้มันเข้ามาเกี่ยวข้องกันจนได้


รายละเอียด แมงมุม ปู ขี้นก

  • สิ่งที่ทำให้ แมงมุม ปู และ ขี้นก มาสัมพันธ์กันก็คือ แมงมุมที่มีชื่อว่า Phrynarachne spider
  • เนื่องจากพวกมันเป็นแมงมุมที่มีวิธีพรางตัว โดย ทำตัวให้เหมือนขี้นก
  • พวกมันเป็นแมงมุมที่ไม่มีขนตามร่างกาย เหมือนแมงมุมทั่วๆไป แต่กับ มีผิวหนังเป็นตะปุ่มตะปั่มเป็นมันวาว ทำให้พวกมันเหมือนขี้นกเปียกๆ
  • ทั้งยังตอกย้ำความเป็น ขี้นก โดยการหุบขาเข้าแนบลำตัว และกองนิ่งไม่ไหวติงบนใบไม้ได้เป็น ชั่วโมงๆ
  • หากคุณคิดว่ามันมีมารยาแค่นี้ คุณคิดผิดเนื่องจากบางครั้งพวกมันก็ทอใยสีขาว แล้วขึ้นไปนอนทับอยู่บนใยสีขาว ( เนื่องจากหากสังเกตขี้นกจะมีสีดำ ปนสีขาวด้วย ซึ่งสิ่งที่เป็นสีขาวนั้นเรียกว่า ยูเรต (urate) ซึ่งมีผลึกของกรดยูริก บวก ฉี่นก ปนอยู่รวมกัน) จะเป็นขี้นกทั้งทีต้องปน ฉี่ นกด้วยเลย
  • หาคุณคิดว่ามันมีมารยาแค่นี้ก็คิดผิดอีกแล้ว เนื่องจาก พวกมันบางสายพันธุ์ยังสามารถปล่อยกลิ่น ตุๆ ที่เหมือนขี้ และ เยี้ยว นกได้อีกต่างหาก
  • พวกมันเป็นแมงมุม ที่เคลื่อนไหวเชื้องช้าๆ ไม่รวดเร็วเหมือนแมงมุมทั่วไป เนื่องจากการที่มันเหมือน ขี้นก มันเป็นวิธีพรางตัวที่สุดเนียน ทำให้พวกมันสามารถรอคอยแมลงที่กินมูลนกเป็นอาหาร ตาถั่วเดินเข้ามาให้กินถึงปากได้อย่างสบาย
  • โดยพวกมันยังมีวิธีการเดินก็แปลกจากชาวแมงมุมทั่วไป คือ พวกมันจะใช้การเดินแบบไปด้านข้าง เหมือน ปู
  • โดยขาคู่หน้าของมันมีขนาดใหญ่ ยาว กว่าขาอื่นทั้งยังมีการติดตั้งอาวุธ ที่เป็น หนามแหลม ไว้สำหรับฉกเหยื่อ
ข้อมูลอ้างอิง แมงมุมขี้นก

อ้างอิงในส่วนเนื้อหา


อ้างอิงในส่วนรูปภาพ

สัตว์แปลกๆ แมงมุม ที่มี หางแมงป่อง ( Scorpion-tailed spider )

แมงมุมหางแมงป่อง

หากดูผ่านคงยากที่จะตัดสินใจว่า สิ่งมีชีวิตที่เห็นนี้คือตัวอะไร ทำไมแมงป่องถึงไปติดอยู่บนใยแมงมุม มันคือ แมงป่อง หรือ แมงมุม กันแน่

รายละเอียดเกี่ยกับ แมงมุมหางแมงป่อง

  • โดยแท้จริงสิ่งที่เห็นก็คือ แมงมุม ที่มีหางเหมือนแมงป่อง ที่มีชื่อว่า Arachnura
  • พวกมันพบได้ที่ ออสเตรเลีย แอฟริกา และ มาดากัสก้า
  • แมงมุมหางแมงป่อง พวกมันมีเทคนิคในการหลอกลวง นักล่าพวกมัน โดยในเวลาปกติเมื่อพวกมันแกะอยู่นิ่งบนใย รูปร่าง และสีของมันจะทำให้นักล่าเข้าใจผิดว่า พวกมันเป็นเพียงกิ่งไม้ หรือใบไม้แห้งแห้งธรรมดาๆ
  • ซึ่งถ้าพวกมันถูกรบกวน พวกมันจะชูหางขู่เหมือนแมงป่อง ซึ่งในความจริงของมันนั้นไม่มีพิษสงใดๆเลย
  • แต่ถึงถูกมันกัดเข้าสำหรับ มนุษย์ก็เพียงแค่ บวม แดง เท่านั้น
  • โดยตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้มาก โดยตัวเมียมีขนาด 1 - 3 เซ็นติเมตร โดยตัวผู้มีขนาดเพียง 2 มิลลิเมตรเท่านั้น
  • โดยตัวผู้จะมีก้นกลมมนเหมือนแมงมุมทั่วไป ไม่มีหางยาวเหมือนตัวเมีย
คลังภาพ

ภาพนี้เห็น จะๆ ดูแล้งพวกมันเหมือนแมงป่อง มากกว่าแมงมุมเสียอีก

อันนี้ตัวผู้มีขนาดเล็กกว่าตัวเมียมาก และมีรูปร่างเป็นแมงมุมธรรดา

ตอนมันทำตัวให้เหมือนเป็นใบไม้ ติดอยู่บนใย

ข้อมูลอ้างอิง

อ้างอิงในส่วนเนื้อหา และรูป


อ้างอิงในส่วนรูปภาพ


อ้างอิงในส่วนรูปภาพ

ปิดตำนาน Sony Walkman

ปิดตำนาน Sony Walkman

Sony ได้ประกาศหยุดการผลิต Sony walkman แบบเทป cassette หลังจากได้ทำการผลิตมาอย่างต่อเนื่องถึง 30 ปี มียอดจำหน่ายทั่วโลกกว่า 220 ล้านเครื่อง หลังจากมันได้เปลี่ยนแปลง Lifestyles ของวัยรุ่นทั่วโลกมาตั้งแต่ช่วงปี 1980 ที่สามารถมีบทเพลงไปไหนมาไหนได้ทุกที่

ตำนาน

  • ในปี 1978 วิศวกรของโซนี่ นามว่า Nobutoshi Kihara ที่ได้รับการร้องขอจากประธาน ของโซนี่ นามว่า Akio Morita ว่าเขาต้องการฟัง โอเปร่า ระหว่างการเดินทางบนเครื่องบินข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก You ช่วยหาวิธีช่วย I หน่อย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ เครื่องเล่นเทปแบบพกพา Sony walkman
  • ในช่วงปี 1980 ถึง 1990 คือยุคทอง ของเครื่อง Walkman และเริ่มเสือมความนิยมลงเรื่อยๆหลังจากการกำเนิดของ CD และวาระสุดท้ายก็มาถึงของ iPods
  • การประกาศนี้ตามมาหลังจากเมื่อช่วงต้นปี 2010 โซนี้ได้ประกาศหยุดการผลิต เด็สเก็ต 3.5 นิ้ว (งงเลยซิ น้องหลายคนอาจไม่รู้จักวัตถุโบราณชนิดนี้)
  • ภาพจั่วหัวคือ ภาพของ Sony walkman รุ่นแรก
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1323619/Death-Sony-Walkman-Iconic-portable-cassette-player-stopped-30-years.html

83-42 ผืนแผ่นดินเหนือสุด ของโลก

83-42


83-42 วันนี้ไม่ได้มาใบ้หวยนะครับ แล้วตัวเลขนี้มันหมายถึงอะไร? มาไขข้อสงสัยได้กันเลยครับ

ไขข้อสงสัย 83-42


  • 83-42 เป็นชื่อของสถานที่ ผืนแผ่นดินที่อยู่เหนือสุดของโลก และเป็นผืนแผ่นดินหนึ่งเดียวในขั้วโลกเหนือ
  • เนื่องจากขั้วโลกเหนือนั้นตั้งอยู่บนมหาสมุทรอาร์กติก แตกต่างจากขั้วโลกใต้ที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินขนาดใหญ่
  • ทำให้แต่ก่อนมีความเชื่อว่า ใน ขั้วโลกเหนือนั้นไม่มีแผ่นดินถาวร (หมายเหตุ แต่มีแผ่นดินแบบถูกล็อคลอยอยู่บนแผ่นน้ำแข็งลอยไปมาตามแผ่นน้ำแข็ง เรื่อยๆ)
  • แต่เมื่อปี 1998 มีการค้นพบ 83-42 โดย Dennis Schmitt โดยการบินสำรวจโดยเครื่องบิน ในช่วงแรกก็มีความเชื่อว่ามันเป็น เพียงก้อนหิน หรือกองกรวดที่ถูกล็อคลอยอยู่บนแผ่นน้ำแข็ง
  • จนกระทั้ง กรกฏาคม 2003 จึงได้มีการจัดคณะสำรวจเดินเท้าเข้าสู่พื้นที่ 83-42 โดยประกอบด้วยนาย Frank Landsberger จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์(University of Cambridge) กับ คณะอีก 4 คน
  • จากการตรวจสอบทำให้ได้การยืนยันว่า 83-42 คือผืนแผ่นดิน(ถาวร) และค้นพบว่าบนพื้นผิวของ 83-42 นั้นปกคลุมไปด้วย ไลเคน(เชื้อรา และสาหร่าย ที่อาศัยร่วมกัน โดยพึ่งพากัน )
  • 83-42 มีขนาดพื้นที่ประมาณ 35 x 15 x 4 เมตร( ยาว x กว้าง x สูง) มีค่าพิกัดที่ 83°42′05.2″N 30°38′49.4″W ห่างจากจุดขั้วโลกประมาณ 400 ไมล์ และค่าพิกัดเหนือใต้นี้จึงถูกนำมาตั้งเป็นชื่อเรียกขาน ผืนแผ่นดินเหนือสุดของโลก แห่งนี้
เหนือสุดแดนสยาม คือ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
ใต้สุดแดนสยาม คือ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
83-42 คือ ผืนแผ่นดิน ที่อยู่เหนือสุดของโลก
ใต้สุดของโลก คือ ขั้วโลกใต้
ข้อมูลอ้างอิง เหนือสุดของโลก

นกประหลาด มีหัวเป็นปลา

นกประหลาดซะที่ไหน


นกที่มีหน้าเป็นปลา ภาพที่เห็นนี้คงไม่มีใครเชื่อแน่นอนว่ามันจะมีอยู่จริง แต่ขอยืนยันว่าภาพดังกล่าวเป็น ภาพจริง ไม่มีการตัดต่อใดๆทั้งสิ้น มันเป็นนกจริง

รายละเอียดเกี่ยวกับ นกหน้าปลา

  • นกดังกล่าวมีชื่อว่า นกลูกดอกแอฟริกา(African darter)
  • เฉลย ความจริงมันเป็น ภาพที่นกลูกดอก ใช้จงอยปากแทงเหยื่อเอาไว้ ในมุมที่พอเหมาะพอดี เมื่อภาพรูปจึงเห็นเป็นนกมีหน้า เป็น ปลา
  • ภาพนี้ถูกถ่ายได้โดยนาย Millar ที่เฝ้าอยู่ 3 วันแล้วเพื่อบันทึกภาพ ณ ทะเลสาบ ใน อุทยานแห่งชาติ Kruger ในประเทศแอฟริกาใต้
  • เขาพบว่า นกลูกดอกแอฟริกาตัวหนึ่ง ล้มเหลวในการจับมามาหลายครั้ง และสังเกตว่ามันหิวมาก
  • มันพุ่งลงน้ำครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุดก็สามารถจับปลาตัวใหญ่ได้ 1 ตัว มันฟาดปลากับขอนไม้ที่มันเกาะอยู่ 20 กว่าครั้งจนปลาตายคาที่
  • แล้วจัดปลาให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมก่อนที่จะกลืนปลาลงลำคอ โดยใช้เวลากลืนมันลงลำคอกว่า 2 นาที
  • นาย Millar กล่าวว่าเขาไม่เคยเห็นพวกมันกินปลาตัวใหญ่ขนาดนี้ เท่าที่เขาพบเห็นคือพวกมันทิ้งปลาขนาดเล็กกว่านี้เท่าตัว เนื่องจากไม่สามารถกินมันได้

อีกมุมที่ ทำให้เข้าใจผิดว่านกอะไร หน้า เป็นปลา


เมื่อมันกลืนปลาลงไปค่อยเป็นนกขึ้นมาหน่อย

ข้อมูลอ้างอิง

หมานินจา ภูมิใจนำเสนอ มันยอดมาก ( Dog Ninja )

สุดยอดหมานินจา


ดูคลิปแล้วก็จะรู้เองว่ามันเจ๋งขนาดไหน น้องหมาตัวนี้ชื่อว่า ทรีที(Tre T) อายุ 4 ปี เป็นสุนัขพันธุ์ American Staffordshire Terrior อยู่ที่ประเทศยูเครน(Ukraine) ตอนนี้กำลังดังสุดๆใน Youtube มันมีทักษะในการปีนป่าย กระโดด ไปหมาดังแมว หรือ ถ้าเป็น มนุษย์ทักษะระดับนี้ก็คงเป็น พวกเล่น Freeruner หรือ พวกนินจา

ข้อมูลอ้างอิง


ภาระกิจช่วยชีวิต ลูกแมว

มีใครเห็น ลูกแมวบ้าง?
เอมมี่ กำลังค้นหาลูกแมว อายุ 2 วัน ทั่วทั้งบ้าน อย่างเป็นกังวล
.
เอมมี่ จึงเอ่ยถามลูกสาวว่า
เอเลนน่า จ๊ะ หนูเห็นลูกแมวหรือเปล่า ?
.
เอเลนน่า ตอบว่า
หนูชักมันลง ชักโครก แล้วคะแม่ : )
.
คนทั้งบ้านคิดว่าเอเลนน่าคงพูดเล่น
ถึงจะกังวลเป็นอย่างมากเนื่องจาก เอเลนล่า วัย 3 ขวบ มีนิสัยชอบทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง ลงชักโครกเล่น
เมื่อออกตามหาได้ซักระยะหนึ่ง จึงมีคนได้ยินเสีย ร้องเล็กๆ จากท่อระบายน้ำ
เมิ๊ยวๆ
.
เมิ๊ยวๆ
.
.
เมิ๊ยวๆ
.
.
.

ทุกคนในบ้านรู้ในทันทีว่าสิ่งที่ไม่อยากคิดที่สุดมันได้เป็นความจริงแล้ว
.
เอมมี่ จึงตัดสินใจโทรหาตำรวจ เพื่อขอความช่วยเหลือ

.
ตู๊ดๆ
.
ตู๊ดๆ
.
ตู๊ดๆ
.
ตำรวจดับเพลิง กล่าวว่า
สวัสดีครับ ที่นี้สถานีตำรวจดับเพลิงครับ มีอะไรให้รับใช้ครับ
.
เอมมี่ พูดว่า
อือๆๆ ช่วยด้วยคะ ลูกสาวฉัน ชักโครกลูกแมวลงไปคะ

.
ตำรวจดับเพลิง กล่าวว่า
ชักลูกแมวลงชักโครก............เราจะส่งทีมกู้ภัยไปโดยด่วนครับ
.
เมื่อหน่วยดับเพลิง 8 คน มาถึงบ้านของ เอมมี่
.

.
ได้ใช้กล้อง ขนาดเล็กที่สามารถสอดเข้าไปในพื้นที่แคบๆได้ยาวกว่า 24 เมตร ส่องตรวจสอบดูที่ท่อน้ำทิ้ง
.
ค่อยๆ ค่อยๆ สอดเข้าไปเรื่อยๆ ช้่าๆ
.
เราเห็นอะไรดำๆแล้ว เร็วสอดเข้าเรื่อยๆ
.

ภาพที่เห็นผ่านจอขนาดเล็กก็คือ ลูกแมวที่ติดอยู่ในท่อ แต่มันยังโชคดีที่ภายในท่อยังมีช่องว่างพอที่จะให้มีอากาศสำหรับมันหายใจ
.
ตำรวจดับเพลิง รู้ดีว่ามันไม่ง่ายเลยสำหรับภาระกิจนี้ แต่ก็ได้กล่าวกับ เอมมี่ ว่า
พวกเราจะพยายมให้ดีอย่างที่สุดครับ
.
เริ่มแรกพวกเขารื้อห้องน้ำ แล้วใช้สกัดพื้นคอนกรึต ออกเพื่อไล่ตามหาลูกแมว จนในที่สุดก็สามารถดึงมันออกมาจากท่อน้ำทิ้งได้ในที่สุด หลังจากใช้เวลาไปกว่า 4 ชั่วโมงในการช่วยชีวิตครั้งนี้
.

.
เอมมี่ ร้องไห้เสียใจ กับการกระทำของ เอเลนน่า และสงสารลูกแมวตัวนี้
ฮื่อๆๆ .....................
แต่ ในเวลาเดียวกัน น้ำตาแห่งความยินดีก็ไหลรินมาพร้อมๆกัน

.

เนื่องจากถึงมันจะเปียกปอน และเปอะเปื้อนไปทั้งตัว ด้วย อึ และ ฉี่ แต่มันก็ยังดูมีสุขภาพดี อยู่
.
.

ลูกแมวน้อย ก็ได้กลับไปอยู่ในอ้อมกอดของแม่มันอีกครั้ง
.
เอเลนน่า กล่าวว่า
หนูจะไม่ทิ้งอะไรลง ชักโครกอีกแล้วคะ นอกจาก อึ คะ : )
.

จริงๆนะคะ หนูจะไม่ทิ้งลูกแมวลงชักโครกอีกแล้วคะ

ข้อมูลอ้างอิง


ประโยชน์อีกอย่างของ ไอแพค ใช้เป็นกระดาษขอลายเซ็นต์ ( ipad )

มาดูประโยชน์ของ ไอแพด


ไอแพด สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็น กระดาษ ขอลายเซ็นต์ ก็ได้ แต่ถ้าไปขอคนอื่นมันคงไม่ดัง แต่งานนี้นาย Sylvester Cann IV ได้ยื่น ไอแพด ของเขาออกไปให้แด่ ประธานาธิบดี โอบามา
  • โดยบนหน้าจอทัชสกีน ของเขามีข้อความว่า 'Mr President, sign my iPad.'
  • โอบามา ยิ้มอย่างประหลาดใจ พร้อม ใช้นิ้วมือเซ็นต์ชื่อลงไปบน ไอแพด ของเขา
  • เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ มหาวิทยาลัย Washington ใน Seattle

ลายเซ็นต์ ของ โอบามา บน ไอแพด

ข้อมูลอ้างอิง

ถุงลมนิรภัย สำหรับ รถจักรยาน ( airbag for cyclists )

ถุงลมนิรภัย สำหรับ รถจักรยาน

เลิกน้อยใจกันได้แล้ว ในเมื่อจักรยานบางคันราคาเป็นแสน ทำไมถึงไม่มีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยเหมือนคนขับรถเก๋งกับเขาบ้าง วันนี้นักประดิษฐ์ชาวสวีเดน จัดให้แล้วครับ

รายละเอียดเกี่ยวกับ ถงลมนิรภัย สำหรับ จักรยาน

  • หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้ว ถุงลม นี้จะติดตั้งอยู่ที่ส่วนใดของจักรยาน ก็ ต้องขอบอกว่ามันไม่ได้ติดตั้งไว้ที่รถจักรยาน แต่ มันจะติดตั้งไว้ในปลอกคอ ที่ผู้ใช้จะต้องนำไปคล้องคอเอาไว้เมื่อต้องการใช้งาน
  • สิ่งประดิษฐ์นี้มีชื่อว่า Hvvding ได้รับการพัฒนา และวิจัยโดย 2 นักวิจัยชาวสวีเดน
  • ถุงลมนี้จะใช้การตรวจจับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งอย่างรวดเร็วฉับพลัน โดยจะทำงานภายในระยะเวลา 0.1 วินาที โดยเด้งขึ้นมาครอบส่วนศีรษะ และบริเวณก้านคอเอาไว้
  • โดยคาดว่าในช่วงแรกที่มีการออกจัดจำหน่ายจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 260 ปอนด์ (12,000 บาท )
  • โดยการใช้งานสามารถใช้ทดแทน หมวกกันน็อค ได้
  • ลักษณะของ Hvvding จะเป็นปลอกคอที่ห่อหุ้ม ถุงลมนิรภัยเอาไว้ โดยภายในจะมีกระบอกก๊าซ ฮีเลียม ที่จะขับดันออกมาเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งอย่างฉบับพลัน ดันให้ถุงลมนริภัยเด้งออกมาหุ้มศีรษะไว้ และหลังจากกระแทกพื้นไปแล้ว 2-3 วินาที
  • ทีมวิจัยได้ทำการจำลองการเกิดอุบัติเหตุนับร้อยครั้ง เพื่อทดสอบการใช้งาน จากทุกเคสที่จักรยานจะประสบอุบัติเหตุได้
  • อุปกรณ์นี้จะสามารถเข้ามาแก้ปัญหา ผู้ขับขี่จักรยานที่ไม่สามหมวกกันน็อค เนื่องจากความประมาทและไม่สวมหมวกกันน็อคเพราะกลัวผมเสียทรง ( เมืองไทยนั่งมอร์เตอร์ไซค์รับจ้าง รังเกียจ กลิ่นเหม็นสุดๆ ของหมวก )
คลังภาพ

นายแบบ นางแบบ เหล่านี้ได้สาธิตการสวมใส่ ถุงลมนิรภัยนี้ที่สามารถออกแบบให้เข้ากับเครื่องแต่งกายได้อย่างเหมาะเจาะ (ถุงลมนิรภัยคือสิ่งที่เหมือนผ้าพันคอ ที่นายแบบ นางแบบสวมใส่อยู่รอบลำคอ)

ภาพการใช้หุ่น จำลองการประสบอุบัติเหตุ และ

ข้อมูลอ้างอิง

แมว ยาวที่สุดในโลก ( world's longest Cat )

แมว ยาวที่สุดในโลก


หลายคนอาจจะคิดว่ามันจะยาวขนาดไหนกัน แมวตัวนี้ ถ้าบอกว่ามันยาวเมตรกว่า จะเชื่อไหม

รายละเอียดเกี่ยวกับแมว ยาวที่สุดในโลก

  • แมวตัวนี้มีความยาว 1.23 เมตร เมื่อวัดจากปลายจมูกถึงโคนหาง ทำให้มันเป็นเจ้าของสถิต แมวบ้าน ที่ ยาวที่สุดในโลก ของ กินเนสบุ๊ค
  • แมวตัวนี้มีชื่อว่า สทีวี้(Stewie)
  • มันเป็นแมวสายพันธุ์ Maine Coon
  • สทีวี้ อาศัยอยู่กับเจ้าของมันที่ชื่อว่า Robin Henderson ในเมือง Reno รัฐ Nevada สหรัฐอเมริกา
  • โดยเฉลี่ยแมวจะมียาวประมาณ 45 เซ็นติเมตร
บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

ปลาดุกไฟฟ้า ( Electric Catfish )

ปลาไหลไฟฟ้า มันธรรมดาไป ปลาดุกไฟฟ้ามันถึงจะแปลก


Electric Catfish ปลาดุกไฟฟ้า ผมเองก็รู้จักแต่ปลาไหลไฟฟ้า เคยเห็นในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งก็รู้สึกประหลาดใจมากแล้วว่า ทำไมสัตว์จึงมีอาวุธในการป้องกันตัว และล่าเหยื่อที่ประหลาดเช่นนี้ คือ ใช้กระแสไฟฟ้า แต่ เมื่อรู้ว่ามีปลาดุกไฟฟ้าด้วย ก็ต้องมารู้กันให้ลึกขึ้นอีกซักนิด กับ wowboom


รายละเอียดเกี่ยวกับ ปลาดุกไฟฟ้า

  • ขึ้นชื่อว่าปลาดุกไฟฟ้า มันก็ต้องปล่อยกระแสไฟฟ้าได้ และมันก็สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าได้ 350 โวลท์
  • แล้วมันสร้างกระแสไฟฟ้าโดยปฏิกริยาทางเคมีในเซลล์ที่เรียกว่า electroplaques ในอวัยวะสร้างกระแสไฟฟ้า(electric organ)
  • โดยเซลล์ electroplaques จะมีลักษณะแบน กลม ที่ด้านหนึ่งของเซลจะมีประจุบวก ส่วนอีกด้านจะมีประจุลบ โดยเซลดังกล่าวจะเรียงซ้อนทับกันร้อยนับพัน โดยแต่ละเซลล์จะผลิตกระแสไฟฟ้าไม่กี่ โวลท์ ส่งผ่านกันไปเรื่อยๆ โดยการฉีด โซเดียมบวก และ ไอออนโปแทสเซี่ยม ออกจากเซลล์ผ่านโปรตีน
  • ปลาดุกไฟฟ้า พบได้ในทวีปแอฟริกา ในแม่น้ำไนล์ โดยพวกมันชอบออกหากินในเวลากลางคืน อาหารหลักคือปลาเล็ก โดยใช้กระแสไฟฟ้าช็อตเหยื่อ
  • โดยปลาดุก สายพันธุ์ Malapteruridae มีขนาดใหญ่ที่สุด คือสามารถโตได้ถึง 1 เมตร หนักได้ถึง 20 กิโลกรัม
  • มีหนวด 3 คู่อยู่รอบริมฝีปากหนาๆ ไม่มีครีบหลัง
  • ในอียิปต์โบราณใช้ปลาดุกไฟฟ้าในการรักษาโรค
ข้อมูลอ้างอิง

สัตว์แปลก ที่มีรูปร่างเหมือน ต้นอ่อนพืช

หนอน ที่มีรูปร่างเหมือน แครอทสีเขียว


Green Spoonworm ภาพที่เห็นนี้เหมือน ซากพืช แต่ถ้าจะบอกว่าพวกมัน เป็น สัตว์ แต่นั้นยังไม่ประหลาดเท่า เรื่องราวทางเพศ ของพวกมัน

รายละเอียดเกี่ยวกับ หนอนทะเลช้อนเขียว


  • หนอนทะเลช้อนเขียว ( Green Spoonworm ) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Bonellia viridis
  • พวกมันเป็นสัตว์จำพวกที่เรียกว่า sexual dimorphism คือ มีความแตกต่างระหว่างเพศอย่างมาก
  • พวกมันมีสาร ไบโอไซค์(ฺBiocidal) เป็นเม็ดสีเขียวเข้มในผิวของมัน ที่เรียกว่า Bonellin ที่มีพิษร้ายแรงอยู่
  • หนอนทะเลช้อนเขียว สามารถพบกระจายตัวอยู่ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก มหาสมุทรอินเดีย มหาสมุทรแปซิฟิก ทะเลทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทะเลแดง
  • หนอนทะเลช้อนเขียว มีรูปร่างเรียวยาว คล้ายแครอท สีเขียวเข้ม มีงวงอยู่ส่วนล่างของร่างกาย ที่ ปลายแยกเป็น 2 แฉก ส่วนปลายจะมีตะขอ ที่ไว้สำหรับจับเหยื่อ งวงนี้สามารถยืดยาวได้ถึง 10 เท่าของความยาวร่างกาย
  • พวกมันอาศัยอยู่บนพื้นทะเล ที่ระดับความลึก 10 ถึง 100 เมตร โดยจะซ่อนตัวอยู่ในกรวด หรือ ฝังตัวอยู่ในหิน หรือฝังตัวในสัตว์อื่น
  • อาหารหลักของพวกมัน คือ พวกซากอินทรีย์ แต่บางครั้งมันก็กินสัตว์ตัวเล็กๆ
รายละเอียดเกี่ยวกับ เรื่องเพศ ของ หนอนทะเลช้อนเขียว

  • ตัวเมียจะมีขนาดยาวประมาณ 10 เซ็นติเมตร ส่วนตัวผู้นั้นยากที่จะพบเห็นตัวเนื่องจากมีขนาดเพียง 1 ถึง 3 มิลลิเมตร
  • ตัวผู้นั้นแทบจะไม่มีโครงสร้าง หรือ อวัยวะอื่นใดเลย นอกจะระบบสืบพันธุ์
  • แรกเริ่มที่พวกมันเกิดมานั้น พวกมันจะมีขนาดเล็กคล้ายแพลงตอน ที่ไม่สามารถระบุเพศได้แน่นอน พวกมันจะมีการเปลี่ยนเพศ อันเป็นผลจากสารเคมี และสภาพแวดล้อม
  • ตัวอ่อนที่ตกลงสู่พื้นทะเล และอาศัยอยู่บนพื้นเป็นระยะเวลามากกว่า ปี พวกมันจะเปลี่ยนเพศเป็นตัวเมีย
  • ส่วนตัวอ่อนที่ลอยตกลง บน ตัวหนอนทะเลช้อนเขียวตัวเมียเต็มวัย คือ เมื่อตัวอ่อนสัมผัสสาร Bonellin บนร่างกายของตัวเมีย สารเคมีจะทำให้ตัวอ่อนพัฒนาเป็นเพศผู้ตัวเล็กๆ
  • ตัวผู้จะอาศัยอยู่ในตัวของตัวเมีย กินอาหารจากตัวเมีย เหมือนปรสิต โดยตัวผู้มีหน้าที่เพียงอย่างเดียวคือ ปล่อยน้ำเชื้อให้ตัวเมียเพื่อ ผสมพันธุ์ กับ ไข่ ของเธอ
คลังภาพ


หนอนที่เหมือน แครอทสีเขียว


อันนี้เหมือนหัวไชเท้าสีเขียว

ข้อมูลอ้างอิง


สัตว์แปลก ค้างคาวหน้าเหมือน ลา ( Hammer-headed bat )

ค้างคาวประหลาด หน้าเหมือนลา


Hammer-headed bat ค้างคาวหัวค้อน ดูรูปแล้วคงอดสงสัยไม่ได้ว่ามันตัวอะไร มันเป็นลา หรือ กวางที่มีปีกหรือเปล่า ไปรู้จักมันให้ดีขึ้นซักนิดกันดีกว่า

รายละเอียดเกี่ยวกับ ค้างคาวหัวค้อน

  • ค้างคาวหัวค้อน(Hammer-headed bat) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hypsignathus monstrosus และรู้จักกันในอีกชื่อว่า ค้างคาวริมฝีปากหนา ( big-lipped bat )
  • ค้างคาวหัวค้อน มีถิ่นที่อยู่อาศัยกระจายตัวอยู่ตามแนวเส้นศูนย์สูตร ในทวีปแอฟริกา
  • ค้างคาวหัวค้อน เป็น ค้างคาวขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา มีช่วงปีกกว้าง 68 ถึง 97 เซ็นติเมตร
  • ตัวผู้มีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย โดยตัวผู้มีน้ำหนักประมาณ 400 กรัม ส่วนตัวเมียมีน้ำหนัก 275 กรัม
  • สามารถพบเห็น ค้างคาวหัวค้อนได้ตามบริเวณ ป่าชายเลน(riverine forests) ป่าโกงกาง ป่าต้นปาร์ม และตามหนองบึง ที่ระดับความสูงน้อยกว่า 1800 เมตร
  • ค้างคาวหัวค้อน มี ขนสีเทาอมน้ำตาล ถึง น้ำตาล และช่องคอมีสีค่อนข้างขาว โดยมีปีกสีน้ำตาล หูสีน้ำตาลเข้ม บริเวณปากมีแผ่นหนังยาวอยู่รอบปาก
  • ระหว่างเพศผู้ และเพศมีมีความแตกต่างทางกายภาพอย่างมาก คือ ค้างคาวตัวเมียก็มีหน้าตาเหมือนค้างคาวทั่วไปคือคล้ายหมาจิ้งจอก แต่ เพศผู้ จะมีหน้ายาวริมฝีปากใหญ่ กล่องเสียงใหญ่ เพื่อใช้สำหรับส่งเสียงร้องได้ดัง
  • ค้างคาวหัวค้อน เป็น ค้างคาวกินผลไม้ โดยมากพวกมันจะกินเฉพาะน้ำผลไม้ส่วนเนื้อ และกากจะถูกคายทิ้ง พวกมันหากินในเวลากลางคืน กลางวันจะใช้ต้นไม้เป็นที่หลับนอน
  • ค้างคาวหัวค้อน เป็นพาหะไวรัส อีโบล่า จากสัตว์ สู่ มนุษย์
บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

ค้างคาวผลไม้ จมูกหลอด ( tube-nosed fruit bat )

ค้างคาวจมูกหลอด

เป็นค้างคาวที่หน้าตาแปลก ทั้งจุดสีเหลืองทองบนปีก บนหู และขอตาสีทองนี้มันแนวจริงๆ พวกมันคือ ค้างคาวผลไม้จมูกหลอด ซึ่งเป็นค้างคาวสายพันธุ์ใหม่ที่พึ่งมีการค้นพบ ในป่าฝนห่างไกล ของ นิวกินี โดยจมูกหลอดของมันมีประโยชน์คือ เมื่อค้างคาวกำลังซุหน้าดื่มด่ำกับ น้ำผลไม้หอมหวาน ท่อจมูกนี้ จะมีหน้าที่เป็นทื่หายใจให้พวกมัน เหมือนนักดำน้ำใส่ snorkels

เอารูปหน้าตา ไปดูแบบเต็ม ผมว่ามันเหมือนลิง ที่มีหู ตา ปากสีทอง

ข้อมูลอ้างอิง



สัตว์แปลก ตุ่นตาบอดขนทอง ( Golden blind digger )

สัตว์แปลกๆ

Golden blind digger นักขุดตาบอดขนทอง หลายคนอาจจะสงสัยว่า ไอ้ก้อนขนนี้มันคืออะไร ถ้าบอกว่ามันถือสิ่งมีชีวิตจะเชื่อหรือเปล่า

รายละเอีดย เกี่ยวกับ ตัวตุ่นตาบอดขนทอง

  • พวมมันดู เป็น สัตว์ที่แปลกประหลาดอย่างมาก เนื่องจาก ดูเหมือนก้อนขน บนกองทราย
  • ตัวตุ่นนี้มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ ว่า Notoryctemorphia ซึ่งมาจากคำสองคำคือ notos ซึ่งแปลว่า แดนใต้ และ oruktes ซึ่งแปลว่านักขุด เมื่อรวมกันจึงแปลว่า นักขุดจากแดนใต้ ( ในที่นี้ก็คือ ตอนกลางของทะเลทรายในออสเตรเลีย ที่มีชื่อว่า Itjaritjari )
  • พวมมันเป็นสัตว์ที่มี เล็บขนาดใหญ่ที่เท้าหน้า ที่ใช้ในการขุดรู อุโมงค์
  • มีทฤษฏีที่ว่าเมื่อครั้งที่ ทวีปออสเตรเลีย พึ่งแยกตัวออกมาเป็นทวีปใหม่ๆนั้น พวกมันก็ยังขุดรู และอุโมงค์ในดินที่ชุ่มชื้น เหมือน ญาติๆของพวกมัน แต่เมื่อ ทวีปเริ่มร้อนขึ้น แห้งแล้งขึ้นพวกที่สามารถปรับตัวได้ก็ หันมาขุดอุโมงค์ในทรายแทน จึงทำให้มันเป็นสัตว์เพียงไม่กี่ชนิดที่สามารถปรับตัวอาศัยอยู่ในทรายได้
  • พวมมันเป็นสัตว์ที่พบเห็นได้ยากยิ่ง เนื่องจากพวกมันอาศัยอยู่ใต้ผืนทรายเกือบทั้งชีวิต
  • เนื่องจากอาศัยอยู่ใต้ทรายเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ไม่มีการใช้สายตา จนพวกมันตาบอดในที่สุด ดวงตาของมันอยู่ใต้ผิวหนังเพื่อป้องกันทราย เข้าตา
  • พวกมันมีขนละเอียดสั้น สีครีม ประกายทอง ทำให้พวกมันถูกเรียกว่า ตุ่นตาบอดขนทอง (Golden blind digger)
  • พวมมันมีขนาดร่างกายยาว 10 - 15 เซ็นติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 40 - 60 กรัม
  • ตุ่นตาบอดขนทอง ก็เหมือนสัตว์บนทวีปนี้ คือมีกระเป๋าหน้าท้อง แต่ที่พิเศษกว่า สัตว์อื่นก็คือ กระเป๋าหน้าท้องของมันหันปากกระเป๋าไปทางก้นของมัน เพื่อป้องกันทรายที่ขุดหลุดเข้ากระเป๋า
  • พวกมันไม่มีใบหู มีเพียงรูเล็ก ที่อยู่ใต้ขน เชื่อกันว่าพวกมันได้ยินเสียง
  • ส่วนจมูกมีผิวหนังลักษณะคล้ายยางครอบ กันทรายเข้า
  • พวมมันจะไม่ขุดรูถาวร แต่จะใช้การขุดจากด้านหน้าไปกลบด้านหลังไปเรื่อยๆ
คลังภาพ


มันดูเหมือนตุ๊กตา ที่ไม่มีหู ไม่มีตา ไม่มีปาก มีแต่ขนเต็มตัว


จะเห็นตาเป็นเพียงจุดเล็กๆสีแดง ที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวหนัง


กำลังกินกิ้งก่าอยู่อย่างอร่อยทีเดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง


ข้อมูลอ้างอิง