ทัชมาฮาล ( Taj Mahal )ทัชมาฮาล ( Taj Mahal ) เมืองอาครา ( Agra ) ประเทศอินเดีย ( India ) จัดเป็น 1 ใน
7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ( 7 wonders of the world ) ทัชมาฮาลสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิชาห์ ชหาน ( Mughal Emperor Shah Jahan )เพื่อใช้เป็นที่ฝังศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ( Mumtaz Mahal ) มเหสีที่พระองค์ทรงรักมากที่สุดซึ่งเสียชีวิตขณะมีอายุได้เพียง 39 ชันษาหลังจากที่ให้กำเนิดบุตรคนที่ 14
ทัชมาฮาลสร้างขึ้นระหว่างคริสต์ศักราช 1631-1648 สร้างโดยใช้หินอ่อนสีขาวทั้งหลัง รวมทั้งใช้วัสดุในการตกแต่งชั้นเลิศจากทั่วเอเชียซึ่งขนส่งโดยใช้ช้างกว่า 1,000 ตัว
ทัชมาฮาลได้รับการยอมรับว่าเป็นศิลปะแบบมุสลิมที่สวยงามสมบูรณ์แบบมากที่สุด ในอินเดีย นอกจากนี้
ทัชมาฮาลยังเป็นสถานที่ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดของอินเดีย มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชม
ทัชมาฮาลราวปีละเกือบ 3 ล้านคน
จักรพรรดิชาห์ ชหาน
| จักรพรรดิชาห์ ชหาน พระราชสมภพในปี พ.ศ. 2135 (ค.ศ. 1592) พระบิดา คือ จักรพรรดิ ชาห์ ชหานชีร์ จักรพรรดิองค์ที่สี่แห่งราชวงศ์โมกุล แห่งอินเดีย ทรงอภิเษกมุมตัซ มาฮาล ธิดาของรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2155 (ค.ศ. 1612) ในปี พ.ศ. 2200 (ค.ศ. 1657) จักรพรรดิชาห์ ชหานทรงพระประชวร และในปี พ.ศ. 2201 (ค.ศ. 1658) พระโอรส โอรังเซบ จับพระองค์ และขึ้นครองราชบัลลังก์เเทน พระองค์ถูกกักขังอยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปี พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1666) ตามตำนานกล่าวว่าให้วันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมอง เศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ พระองค์ถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างมเหสีซึ่งพระองค์รักไม่เคยลืม
|
ตำนานรัก ทัชมาฮาล
ตามตำนานกล่าวว่า เจ้าชายขุร์รัม ( ซึ่งต่อมาคือ จักรพรรดิชาห์ ชหาน ) ได้พบกับ อรชุมันท์ พานุ เพคุม ธิดาของรัฐมนตรี เมื่อพระองค์ มีพระชนมายุ 14 พรรษา พระองค์ทรงหลงใหลและหลงรักนาง เจ้าชายขุร์รัมจึงซื้อเพชรด้วยเงิน 10,000 รูปีและบอกแก่พระบิดาของพระองค์ว่าพระองค์มีความประสงค์ที่จะแต่งงานกับบุตร สาวของรัฐมนตรี พิธีอภิเษกถูกจัดขึ้นหลังจากนั้น 5 ปี ในปี พ.ศ. 2155 (ค.ศ. 1612) จากนั้นมาทั้งสองก็มิเคยอยู่ห่างกันอีกเลย
รูปพระนางมุมตัซ มาฮาล
หลังจากที่พระเจ้าชาห์ ชหาน ขึ้นครองราชบัลลังก์ในปี พ.ศ. 2171 พระองค์มอบความไว้วางใจแก่ อรชุมันท์ พานุ เพคุม และเรียกนางว่า มุมตัซ มาฮาล "อัญมณีแห่งราชวัง" พระมเหสีติดตามพระองค์ แม้แต่ในสนามรบ แนะนำพระองค์ในเรื่องราชการของประเทศ และพระองค์ซาบซึ้งในน้ำพระทัยของพระมเหสียิ่งนัก ครั้นในปี พ.ศ. 2174 (ค.ศ. 1631) พระมเหสีมุมตัซสิ้นพระชนม์ หลังจากให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 การสิ้นพระชนม์ของพระมเหสีทำให้พระเจ้าชาห์ ชหานโศกเศร้าอยู่ถึงสองทศวรรษ ราชสมบัติส่วนใหญ่สูญเสียไปเพื่อการสร้างอนุสรณ์แห่งความรักของทั้งสองพระองค์.
สถาปัตยกรรม ทัชมาฮาล
ทัชมาฮาลตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอาครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและ เครื่องประดับจากมิตรประเทศ ทาง เข้าด้านหน้าของอาคารตรงกลางเป็นหลังคาโค้งขนาดใหญ่ขนาบด้วยหลังคาโค้งขนาด เล็กทั้งสองด้านและเป็นสองชั้น ตรงมุมระเบียงทั้งสองด้านก็เสริมด้วยโค้งขนาดเล็กลงไปอีกและเป็นสองชั้นเช่น เดียวกัน การออกแบบเน้นความสมมาตรทั่วทุกด้านของอาคาร ตัวอาคารล้อมรอบด้วยหออะซานทั้ง 4 ด้าน แต่ละหอมีความสูง 162.5 ฟุต ภายในอาคารหินอ่อน ห้องโถงกลางที่ใหญ่ที่สุดใต้โดมยักษ์เป็นแท่นวางพระศพที่ทำด้วยหินอ่อนของ มุมตัสและชาห์จาฮานที่วางไว้เคียงกัน แต่พระศพจริงๆ หาได้บรรจุอยู่ในหีบศพนั้นไม่ หากฝังอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินตรงกับที่วางหีบศพได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด ทัชมาฮาล กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี
ทัชมาฮาลมีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ เป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องเเจ้งเวลาทำนมาซ) และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ นายช่างที่ออกแบบ ชื่อ อุสตาด ไอซา ถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้ ส่วนหัวของ
ทัชมาฮาลมีลักษณะโดมที่เรียกว่าโอเนียนโดม
ตำแหน่ง ทัชมาฮาล จากกูลเกิ้ลเม็พ ( Google Map )
รูปซ้าย แท่นฝังพระศพของ จักรพรรดิชาห์ ชหาน และพระมเหสีมุมตัซ มาฮาล โลงเปล่า
รูปขวา ภาพตัดทัชมาฮาล พระศพจะถูกฝังไว้ในห้องใต้ดิน ใต้โลงศพอีกทีหนึ่ง
รูปซ้าย แบบ Layout
ทัชมาฮาลรูปขวา ภาพภ่ายมุมสูง
ทัชมาฮาล รูปซ้าย รูปใกล้จะเห็นถึงความยิ่งใหญ่ อลังการ
รูปขวา เป็นลายเส้นอักษรจารึกโองการจากอัล-กุรอาน
อ้างอิง ทัชมาฮาล
http://en.wikipedia.org/wiki/Taj_Mahalhttp://th.wikipedia.org/wiki/ทัชมาฮาลhttp://www.panoramas.dk/7-wonders/index.html เว็บนี้แนะนำมีภาพทัชมาฮาล แบบ 360 องศาให้ดู
http://www.musliminventionsthailand.com/main/printable.php?tpv=162http://www.yenta4.com/webboard/viewtopic.php?cate_id=64&post_id=1103582