วันนี้มีเรื่องราวของ ก้นใหญ่ ก้นกะละมัง ก้นงอนวางแก้วได้ บั้นท้านดินระเบิด บั้นท้ายสุดเสียงสังข์ มาเล่าสู่กันฟัง
รายละเอียด
- ทางวิทยาศาสตร์ มีชื่อสำหรับเรียกขาน สถาวะ ก้นใหญ่งอนผิดปกติว่า Steatopygia
- สถา วะ Steatopygia คือ สถาวะที่มีการสะสมของไขมัน บริเวณบั้นท้าย เป็นชั้นหนาอย่างผิดปกติ บางทีมีการสะสมไล่ตั้งแต่สะโพกไล่ไปจนถึงบริเวณหัวเข่า(ต้นขาใหญ่)
- สถาวะก้นใหญ่งอนผิดปกติ นี้จะเกิดเด่นชัดในหญิงมากกว่าชาย
- ค่านิยมของชาว Khoisan เห็นว่าสถาวะก้นใหญ่ผิดปกติ นี้คือความงามสุดห้ามใจ
- สถาวะก้นใหญ่งอนผิดปกตินี้จะเกิดขึ้น อย่างเด่นชัดเมื่อ หญิงสาวตั้งครรภ์ครั้งแรก
- สถา วะก้นใหญ่งอนผิดปกตินี้ บ่อยครั้งที่เกิดร่วมกับสถาวะแคมในยื่นผิดปกติ(elongated labia คือ สถาวะที่แคมในยืนออกมาจากแคมนอกยาวกว่า 10 เซ็นติเมตร)
- ลักษณะ ก้นใหญ่งอนผิดปกติ นี้พบใน ชนเผ่า ปิ๊กมี่(Pygmies) ใน แอฟริกากลาง และเผ่า Onge ในเกาะอันดามัน พวกในอ่าวเอเดน(Gulf of Aden) และคนในแหลมกู๊ดโฮป(Cape of Goog Hope)
- การที่คุณจะได้รับสิทธิ ที่จะถูกเรียกว่าเป็นพวกก้นใหญ่งอนผิดปกติ บ้างก็ว่าคุณจะต้องมีก้นที่งอนทำมุมกับหลังไม่น้อยกว่า 120 องศา
- สถา วะ ก้นใหญ่งอนผิดปกตินี้ มีสมมุติฐานว่า เป็นการปรับตัวทางสรีรวิทยาของผู้หญิงที่อาศัยในภูมิประเทศเขตร้อน เพื่อให้เกิดอัตราส่วน พื้นผิวร่างกายหารด้วยปริมาตรร่างกายต่ำที่สุด เพื่อเป็นการรักษาระดับไขมัน ให้มากเพียงพอ ต่อการผลิตโฮโมน ที่จำเป็นในการทำให้ไข่สุก(มดลูก)
- แน่นอนแล้วทำไมต้องสะสมไขมันที่ ก้น เนื่องจาก ที่ไม่สะสมตามแขน หรือ ขา ก็เนื่องจากเพื่อให้ร่างกายสามารถระบายความร้อนได้ดีขี้น(แขนขามีพื้นที่ผิว มาก เมือเทียบต่อปริมาตร)
อันนี้เป็นหญิงชาวปิ๊กมี่(Pygmies) ก้นใหญ่งอน จนให้ลูกปีนขึ้นยืนได้ทีเดียว งงเลยอย่างนี้ก็มีด้วย
ข้อมูลอ้างอิง
- http://en.wikipedia.org/wiki/Steatopygia
- http://realhistoryww.com/world_history/ancient/Misc/Prehistoric_Art/Pre_Historic_Art.htm