แบคทีเรีย พันธุ์ใหม่ กำลังกัดกิน ซากเรือไททานิค (Titanic Bacteria)

แบคทีเรีย ใหม่


เมื่อไม่นานมานี้ได้เคยนำเสนอ 1 ใน 10 สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ประจำปี 2011 แมลงสาบกระโดด วันนี้ก็ขอนำเสนออีก 1 ชนิด แต่มันอาจจะตัวเล็กซักหน่อย

รายละเอียด

  • มีการค้นพบแบคทีเรียพันธุ์ บนซากเรือไททานิค ที่มีชื่อว่า Halomonas titanicae
  • แบคทีเรียพวกนี้เป็นส่วนหนึ่งของ วงศ์(Family) ที่ไม่เคยพบในระดับความลึก 3.8 กิโลเมตร จากผิวน้ำมาก่อนมาก่อน
  • พวกมันกิน สนิมเหล็ก(Iron oxide)เป็นอาหาร เป็นเหตุให้ขบวนการผุพังของซากเรือไททานิคนั้นถูกเร่งให้รวดเร็วกว่าปกติ
  • นักวิทยาศาสตร์กำลังหาวิธีในการกำจัด แบคทีเรีย เหล่านี้ และหาขบวนการชลอการผุฟังของเรือในตำนานลำนี้ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้เห็นและทำการศึกษามันต่อไป
  • ปล.ทำไม สนิมถูกกัดกินถึงทำให้เหล็กผุพังเร็วขึ้น ก็เนื่องจากสนิมนั้นก็เหมือน สะเก็ดแผลของมนุษย์ เมื่อสนิมที่ปกปิดผิวเหล็กหายไปเนื้อเหล็กด้านในก็จะก่อตัวเป็นสนิมขึ้มาใหม่เพื่อปิดผิวเหล็กแต่มันก็จะถูกกินไปอีก ขบวนการณ์นี้จะเกิดซ้ำไปซ้ำมาอย่างรวดเร็วกว่า ตอนไม่มีแบคทีเรียมาช่วยกินสนิม ทำให้เหล็กผุกร่อนเร็วขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://news.nationalgeographic.com/news/2010/12/101210-new-species-bacteria-metal-titanic-wreck-science/

ศิลปะ บน เปลือกตา

เพ้นท์เปลือกตา


แนวการแต่งหน้าตอนนี้ในเมืองไทยที่มาแรงสุดๆ ก็คงไม่พ้นการเขียนขอบตาเข้มๆ วันนี้เลยเอาแบบตัวแม่มาให้ชมกัน

รายละเอียด

  • ภาพชุดที่จะเห็นต่อไปนี้เป็นผลงานการเขียนเปลือกตาโดย นักแต่งหน้านามว่า Katie Alves
  • ส่วนสีที่ใช้ในการเขียนเปลือกตา ก็เป็นเครื่องสำอาง ธรรมดาที่คุณผู้หญิงใช้กันอยู่ทุกวันเป็นประจำ
  • เนื่องจากเธอมีความชอบภาพยนตร์การ์ตูน ของ วอลต์ ดิสนีย์ ทำให้ผลงานที่เห็นจึงเป็นฉากในภาพยนตร์ อย่างเช่น ไลอ้อนคิง เดอะ ลิตเติล เมอร์เมด เป็นต้น
  • ผลงานแต่ละชิ้น(ดวงตาหนึ่งคู่) เธอใช้เวลาในการสร้างสรรค์ประมาณ 2 ชั่วโมง

อันนี้จากภาพยนตร์ เรื่องโปรดของผม Tim Burton's Nightmare Before Christmas


เรื่องนี้ก็ชอบสุดเหมือนกัน อริสในเมืองมหัศจรรย์


อันนี้ไม่บอกใครๆก็รู้ ไลอ้อนคิง (Lion King)


อันนี้เห็นยักษ์เขียว บวกกับอาคารแบบอาหรับ จะเป็นเรื่องใดไปไม่ได้นอกจาก อะลาดิน กับ ตะเกียงวิเศษ(Aladdin)


อันนี้จาก เรื่อง สโนไวค์ กับ คนแคระทั้ง 7

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-1391832/Blinking-incredible-Artist-uses-eyebrows-canvas.html

เห็ด ใต้น้ำ เห็ดพันธุ์ใหม่ (Underwater Mushroom)

เห็ด


อีก 1 ใน 10 สิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ประจำปี 2011 คือ เห็ดดอกนี้ มันเป็นเห็ดเพียงสายพันธุ์เดียวในขณะนี้ที่ค้นพบว่า สามารถงอก และเจริญเติบโตอยู่ใต้น้ำ


รายละเอียด

  • เห็ดนี้มีชื่อว่า "Psathyrella aquatica"
  • พบได้ในตอนบนของแม่น้ำ ใน โอรีกอน(Oregon) ในแหล่งน้ำสะอาด และเย็น
บทความที่เกี่ยวข้อง
รายละเอียด

  • http://news.nationalgeographic.com/news/2011/05/pictures/110524-top-ten-new-species-2010-t-rex-leech-lizard-mushrooms-science-spider-fish-titanic/#/top-10-species-2010-underwater-mushroom_35912_600x450.jpg

แมลงสาบกระโดด แมลงสาบพันธุ์ใหม่ ล่าสุด (Jumping cockroach)

แมลงสาบกระโดด


ในโลกนี้มีการประมาณกันว่ามี แมลงสาบกว่า 4,000 ชนิด แต่มีเพียงหนี่งเดียวเท่านั้น ที่กระโดดได้เหมือนตั๊กแตน

รายละเอียด

  • แมลงสาบกระโดดมีชื่อเล่นในภาษาอังกฤษว่า "leaproach" มันเป็น 1 ใน 10 สัตว์สายพันธุ์ใหม่ของปี 2011
  • พวกมันถูกพบที่อุทยานแห่งชาติ the Table Mountain National Park ใกล้เมือง Cape Town ในประเทศ อัฟริกาใต้
  • แมลงสาบกระโดดมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า "Saltoblattella montistabularis" เป็นภาษาลาติน ส่วนแรกมีความหมายว่า แมลงสาบกระโดด ส่วนที่สองมีความหมายถึง อุทยานแห่งชาติ the Table Mountain National Park
  • แมลงสาบกระโดด เป็นแมลงสาบสายพันธุ์ใหม่ที่ค้นพบโดยบังเอิญในปี 2006 โดยนักสัตววิทยา 2 คนนามว่า Mike Picker และ Jonathan Colville ระหว่างกำลังใช้ตาข่ายไล่จับแมลงวันเพื่อนำมาศึกษา เมื่อตรวจดูตาข่ายพวกเขาพบแมลงคล้ายตั๊กแตน และเมื่อนำกลับมายังห้องทดลอง ก็พบว่ามันไม่ใช่ตั๊กแตน แต่เป็นแมลงสาบ
  • และสิ่งที่ใำห้มันโดดเด่น กว่า แมลงสาบทั่วไปคือ ขาหลังขนาดใหญ่ และทรงพลังที่ทำให้มันสามารถกระโดดได้เ้หมือนตั๊กแตน
  • พวกมันยังใช้ชีวิตในตอนกลางวัน ไม่เหมือนแมลงสาบบ้านที่หากินในเวลากลางคืน
  • พวกมันเป็น แมลงขนาดประมาณ 1/2 นิ้ว
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1391588/Jumping-Jiminy-cockroach-Discovery-worlds-LEAPING-roach-thrills-scientists-makes-wince.html

นอแรด ไม่ใช่ ยาวิเศษ (rhinoceros horn)

นอแรด


มีความเชื่อว่า นอแรด นั้นเป็นยาโด๊ป ขนานเอกที่น่าจะมาจากความเชื่อที่เห็นว่า นอ นั้นแข็งตั้งโด่ไม่มีล้ม ถ้าคนกินเข้าไปคงจะ โด่ไม่รู้ล้มเหมือนกัน แต่ ความจริง นอแรด นั้นเป็นเพียงแท่งเคราทิน(Keratin) ที่เป็นโปรทีนแข็ง ที่เหมือนกับเส้นผม และเล็บของเรา ฉะนั้นถ้าจะกินนอแรด ก็กัดเล็บกินได้ประโยชน์เหมือนกัน มันดีราคาไม่แพง

อ้างอิง

  • http://www.yesmag.ca/Questions/rhino.html

การค้นพบใหม่ล่าสุด ของ มหาพีระมิดกิซ่า

การค้นพบใหม่ล่าสุด


wowboom เคยนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับ มหาพีระมิดกิซ่า 1 ใน ปริศนาที่เหล่านักวิทยาศาสตร์ต้องการจะคลี่คลายก็คือ ช่องระบายอากาศปิดตาย ใน โถงแห่งราชินี(Queen's Chamber) ว่าหลังหินที่ผนึกช่องระบายอากาศนี้มีอะไรซ่อนไว้

รายละเอียด พีระมิดกิซ่า

  • มหาพีระมิคกิซ่า เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคเก่า ปัจจุบัน พีระมิดกิซ่าไม่ติดอยู่ในการจัดอันดับสิ่งมหัศจรรย์ที่มีการจัดอันดับครั้งล่าสุด
  • มันคงไว้ซึ่งปริศนามากมาย ด้วยหินกว่า 8.3ล้านลูกบาศก์เมตร สูง 138 เมตร ยืนยงมากว่า 4500 ปี ยากเกินจินตนาการว่า เป็นผลงานของมนุษย์
  • ภายในพีระมิด มีห้องโถงขนาดใหญ่อยู่ 3 แห่งคือ ห้องโถงแห่งกษัตริย์(เป็นห้องที่ตั้งพระศพของฟาโรห์คูฟู) , แกรนด์ แกลเลอรี่(เป็นท้องพระโรงก่อนเข้าสู่ห้องโถงแห่งกษัตริย์) และสุดท้าย ห้องโถงแห่งราชินี ห้องที่มีคำความลับมากมาย
ห้องโถงแห่งราชินี และความลับ

  • โถงแห่งนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่ามีไว้สำหรับทำอะไร?
  • ทำไมบนผนังของห้องแห่งนี้จึงมีคราบเกลือจับตัวหนาถึง 1.3 เซ็นติเมตร
  • บนผนังด้านเหนือ และใต้มีช่องเล็กๆขนาด 0.20x0.20 เ้มตร ที่แต่เดิมมีหินปิดปากช่องไว้มีการค้นพบช่องนี้ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1872 จากการสำรวจพบสิ่งดังต่อไปนี้ 1.ไม้ซีดาร์ ยาวประมาร 13 เซ็นติเมตร โดยนาย Piazzi Smyth คาดว่าจะเป็นไม้วัดระยะ 2. หินแกรนิตสีเขียว ทรงกลม หนัก 11 ปอนด์ 3 ออนซ์ 3.ตะขอสัมฤทธ์ ยาว 5 เซ็นติเมตร ด้วยเทคโนโลยีในสมัยนั้นไม่สามารถสำรวจเข้าไปได้ลึกนัก
  • ต่อมาในปี 1993 นาย Rudolf Gantenbrink ได้พัฒนาหุ่นยนต์สำรวจระยะไกล หลังจากส่งหุ่นยนต์เข้าไปสำรวจในช่องระบายอากาศทางทิศเหนือเป็นระยะทาง 63.3 เมตร พบว่ามีหินปิดผนึกขวาง การสำรวจจึงต้องหยุดลง
  • ต่อมาในวันที่ 17 กันยายน 2002 ได้มีการส่งหุ่นยนต์สำรวจที่ชื่อว่า Pyramid Rover ที่มีการติดตั้งสว่านเพื่อเจาะหินหุ่นยนต์ได้ทำการเจาะรูขนาด 2 เซ็นติเมตร ลึกได้ประมาณ 7.5 เซ็นติเมตรผ่านก้อนหินที่ขวางอยู่ สิ่งที่พบคือความว่างเปล่า และเบื้องหน้าก็เป็น หินที่ผนึกขวางไว้อีกชั้น การสำรวจจึงต้องหยุดลงอีกครั้ง
  • การสำรวจครั้งใหม่ ได้มีการส่งหุ่นยนต์งู ที่ติดตั้งกล้องที่หมุนได้รอบทิศทาง ทำให้พบว่า พื้นภายในช่องระบายอากาศปิดตายนี้มีตัวอักษรฮีโรกริฟฟิค(hieroglyphs)ขนาดเล็กสีแดง
  • บ้างก็ว่าหากสามารถไขรหัสอักษรเหล่านี้มันอาจจะนำไปสู่การค้นพบห้องลับ หรือความลับหลังหินที่ปิดผนึก บ้างก็ว่ามันเป็นเพียงสัญลักษณ์ที่ใช้ช่วงในการเรียงหิน
[gatendoormap[1].gif]
แผนผัง ตำแหน่งห้องโถงแห่งราชินี และหุ่นยนต์ที่ใช้ในการสำรวจครั้งที่ 2

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1390843/Pyramid-finally-reveals-hidden-secrets-robot-captures-images-ancient-markings.html

การเข้ารหัส แคปช่า ถูก แฮ็กเกอร์ เจาะผ่านได้ในที่สุด (Captcha VS Hacker)

แคปช่า ตีแตก


Captcha เป็นโปรแกรมในการพิสูจน์ตัวตนว่าผู้กำลังทำคำสั่งอยู่นั้นเป็นมนุษย์ หรือ โปรแกรมอัตโนมัติ โดยอาศัยข้อจำกัดที่คอมพิวเตอร์นั้นโง่ ขาดไหวพริบ และความคิดสร้างสรรค์ โดย ใช้รูปชุดตัวอักษรที่บิดเบี้ยว ในการพิสูจน์ตัวตน เนื่องจากถ้าเป็นมนุษย์จะสามารถพอเข้าใจว่าตัวอักษรดังกล่าวนั้นเป็นอะไร และสามารถพิมพ์ตอบกลับได้อย่างถูกต้อง แต่ ในที่สุดเหล่าแฮ็กเกอร์ก็พบ ช่องโหว่ ของแค็ปช่าในที่สุด


รายละเอียด

  • แคปช่า(Chptcha) ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาในช่วงปี 2000 โดย Luis von Ahn และโปเพสเซอร์อีก 2 ท่านจากมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon University
  • แคปช่า เป็นโปรแกรมในการพิสูจน์ ว่าผู้ทำคำสั่งผ่านคอมพิวเตอร์นั้นเป็น มนุษย์ ไม่ใช่โปรแกรมอัตโนมัติ อย่างพวกโฟส์ท Spam Mail เป็นต้น
  • แคปช่า อาศัยการใช้รูปชุดตัวอักษรที่บิดเบี้ยว ที่คอนพิวเตอร์ไม่สามารถเข้าใจแต่มนุษย์สามารถเข้าใจและพอจะเดาออกได้ เพื่อให้พิมพ์กลับเพื่อเป็นการยืนยันตัวเอง และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก เรายังสามารถกดปุ่มให้แคปช่า เปล่งเสียงชุดตัวอักษรแทนก็ได้ แต่ การเปล่งเสียงนี้กลับกลายเป็นช่องโหว่ เสียเอง
  • การกระทำที่พยายามเจาะผ่าน แคปช่า ถูกเรียกว่าการดีแคปชา(dechptcha)
  • โปรแกรมในกลุ่ม ดีแคปช่า อาศัยหลักการ ฟังเสียงแคปช่าแล้วพยายามจับคู่ว่าเสียงนั้นควรจะเป็นตัวอักษรอะไร หรือเป็นตัวเลขอะไร ไปเรื่อยอาศัยจุดเด่นที่คอมพิวเตอร์สามารถทำอะไรซ้ำๆได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ถูกบ้างผิดบ้าง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที โปรแกรมดีแคปชา ก็สามารถเขาใจเสียงที่ได้ยินว่าเป็น ตัวอักษร หรือ ตัวเลขอะไรในที่สุด
  • โดยโปรแกรมดีแคปช่า มีอัตราในการเจาะผ่านสำเร็จค่อนข้างสูง โดยถ้าแยกเป็นรายๆไปอัตราการเจาะผ่านมีดังนี้ eBay82% Microsoft48.9% Yahoo45.5% และ Digg42%
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1390796/Captcha-cracked-Security-fears-online-word-test-proved-vulnerable-hacking.html

วาง ปลิงทะเล ไว้บน ฟางข้าว จะเกิดอะไรขึ้น

ปลิง กับ ฟางข้าว


วันนี้(26/5/54)ดูรายการสปั้นฉลาดสุด เขาถามว่าถ้าวางปลิงทะเลไว้บนฟางข้าวจะเกิดอะไรขึ้น มีคำตอบให้เลือก 2 ข้อคือ
  1. ปลิงทะเลจะละลาย
  2. ปลิงทะเลจะบวมขึ้น
เฉลย

  • ฟังๆดูมันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ทั้ง 2 อย่างแต่พอเขา เฉลยก็อึ้งไปเลย เมื่อทางรายการทำการทดลอง โดยวางปลิงทะเลไว้บนฟางข้าว พวกมันละลายหายไปหมดเลย
  • แต่มันก็จากสาเหตุอะไรเขาได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยสัตว์ทะเลในทะเลตะวันตก นามว่า ด็อกเตอร์ปาร์คกวังเจ มาไขปริศนา โดยมีคำตอบว่า ในฟางข้าวมีจุลินทรีย์เฮย์บาซิลลัส(เป็นจุลลินทรีย์ที่ใช้ในการหมักเบียร์) จุลินทรีย์พวกนี้จะทำปฎิกริยากับฟางข้าวทำให้เกิดฤทธิ์เป็นกรด
  • โดยที่ปลิงทะเลมีร่างกาย 95%เป็นน้ำ ที่เหลือเป็นกระดูกอ่อน ทำให้ปลิงทะเลถูกกรดย่อยสลายเมื่อสัมผัสถูกฟางข้าวเป็นระยะเวลานาน
อ้างอิง

  • จากรายการสปั้นฉลาดสุดทางช่อง 9 เมื่อวันที่ 26/5/54

โรคประหลาด ทำให้คน กลายเป็น ปาป้าสเมิร์ฟ (SMURFS)

ผิวสีฟ้า


ไม่รู้ว่าสมัยนี้จะมีใครรู้จัก สเมิร์ฟ(Smurfs) กับบ้างหรือเปล่า เมื่อก่อนเคยเป็นการ์ตูนดังที่เป็นเรื่องราวของคนตัวจิ๋ว มีผิวสีฟ้า เชื่อกันหรือเปล่าว่า มีมนุษย์ที่มีสีผิวสีฟ้า เหมือน สเมิร์ฟ (นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าไม่สบายไปหาหมออย่า ทำอะไรพิเรน)


รายละเอียด

  • ลุงที่กลายร่างเป็น ปาป้าสเมิร์ฟ คือ นายพอล คาราสัน(Paul Karason)
  • ย้อนไปเมื่อ 18 ปีก่อน เมื่อหลังการเสียชีวิตของพอของลุงพอล เขาเริ่มมีอาการของโรคผิวหนัง ซึ่งทำให้เกิดอาการคัน
  • ถ้าเป็นคนทั่วไปคงไปหาหมอ หรือ ซื้อยาจากร้านขายยากิน แต่ ลุงพอลไม่อย่างนั้นเขาปรุงยาเอง ซึ่งตัวยาสำคัญคือ colloidal silver(คือ ธาตุเงินที่แขวนลอยอยู่ในของเหลว ในเคสที่ลุงพอลปรุงยา ของเหลวคือน้ำ)
  • ลักษณะผิวสีฟ้า ที่ผิดปกตินี้มีชื่อเรียกว่า Argyria อันเป็นผลมาจากการ แสงทำปฎิกริยากับแร่เงิน เหมือนฟิล์มในกล้องถ่ายรูปสมัยก่อนจะมีการฉาบด้วยวัสดุไวแสงไว้ วัสดุไวแสงในที่นี้ก็คือ เงินเฮไลด์ ( Silver halide)
  • ในเคสของ ลุงพอล จะต้องใช้ชีวิตที่เหลือ กับ ผิวสีฟ้าตลอดชีวิต เนื่องจากแร่เงินได้มีการสะสมในผิว และร่างกายของเขาและไม่สามารถขับออกมาได้
  • ในปี 1999 ทาง FDA ได้ประกาศห้ามใช้ แร่เงิน(Silver) เป็นส่วนผสมของ ยา เนื่องจากมันจะทำให้คนมีสีผิวเป็นสีฟ้า

การ์ตูนเรื่อง สเมิร์ฟ(Smurfs) จะเห็นว่า ลุงพอล เหมือนปาป้าสเมิร์ฟ ตัวที่ใส่หมวก และกางเกงแดง

ข้อมูลอ้างอิง


  • http://en.wikipedia.org/wiki/Argyria

รถกันกระสุน ของ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (The Beast)

รถกันกระสุน
วันนี้(24/5/54)ดูข่าว โอบามา ไปเยือนยุโรป รถเจ้ากรรมที่ขับออกจากสถานทูตเกิดไปติดลูกระนาด เล่นซะต้องเอารถตู้มาบัง งานนี้เหล่าผู้ก่อการร้ายก็เลยรู้จุดอ่อนของโคตรรถคันนี้แล้ว ว่าถึงมัน จะบึก ถึก ตามรายละเอียดข้างล่างนี้ แต่ก็ตายน้ำตื้น แค่ลูกระนาด

ข้อมูลเกี่ยวกับ ตัวรถประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา

  • ด้วยความแข็งแกร่ง จนยากยิ่งที่จะมีใครที่จะสามารถเจาะปราการเหล็กนี้เข้าไปทำอันตรายผู้ที่โดยสารมาในยนตกรรมคันนี้ได้ มันจึงมีฉายานามว่า สัตว์ร้าย(The Beast)
  • สัตว์ร้ายตัวนี้ถูกสร้างโดย GM(General Motors) ออกแบบมาเพื่อป้องกันภัยคลุกคลาม ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ปืน ระเบิด เครื่องยิงลูกระเบิด ไม่เว้นแม้แต่อาวุธเคมี หรืออาวุธชีวะภาำพ
  • การที่จะได้มาซึ่งพลังป้องกันอันแข็งแกร่งถึงปานนี้ ทำให้รถมีน้ำหนักมากถึง 8 ตัน
  • ตัวรถมีความยาว 5.4 เมตร กว้าง 1.75 เมตร
  • ด้วยขนาดมหึมา และน้ำหนักมหาศาลขนาดนี้จึงเป็นต้องมีขุมพลัง เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 6.5 ลิตร
  • มันทำความเร็วสูงสุดได้ 96.5 กิโลเมตร/ชั่วโมง(60 ไมล์/ชั่วโมง) อัตราเร่ง 0-96.5 ใช้เวลา 15 วินาที
  • ซดน้ำมันประมาณ 2.83 กิโลเมตร/ลิตร(8 ไมล์/แกลลอน)
  • ไม่ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐจะไปที่ไหนในโลก สัตว์ร้ายตัวนี้จะนั่งเครื่องบินตามไปอารักขาทุกหนแห่ง ไม่มีการใช้รถคันอื่นที่ประเทศนั้นจัดหาให้เป็นอันขาด
รายละเอียดเกี่ยวอุปกรณ์ประกอบ เพื่อความปลอดภัยระดับสูงสุด

  • ถังน้ำมันมีเกราะหุ้มไว้ชั้นนอก เสริมด้วยโฟมชนิดพิเศษเพื่อป้องกันการระเบิด แม้จะถูกโจมตีโดยตรงด้วยอาวุธ
  • มีการติดตั้งระบบผลิตออกซิเจน ให้แก่ผู้โดยสารภายในรถ ในกรณีถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมี หรือชีวะภาพ
  • กระจกกันกระสุนรอบคัน โดยส่วนกระจกในส่วนที่นั่งประธานาธิบดีนั้นจะถูกเปิดได้จากภายในโดย การกดปุ่มฉุกเฉินโดยประธานาธิบดีเท่านั้น
  • ประตูหนาถึง 20 เซ็นติเมตร หุ้มด้วยเกราะ ทำให้มันมีน้ำหนักพอกับประตูเครื่องบินเจ็ทโบอิ้ง 757
  • พนักงานขับรถ ถูกฝึกโดย US Secret service เพื่อรับมือทุกสภาพการณ์ เพื่อนำท่านประธานาธิบดีหลบหนีออกมาอย่างปลอดภัย
  • ตัวถังโดยรวมใช้วัสดุเกรดที่ใช้กับยุตภัณฑ์ในกองทัพ หนาถึง 10 เซ็นติเมตร ที่ทำจากวัสดุเหล็กชุบแข็ง อลูมิเนียม ไทเทเนียม และเซรามิก ซ้อนทับกันจนสามารถป้องกันได้แม้แต่เครื่องยิงลูกระเบิดแบบโปเจคไทค์
  • ใต้ท้องรถมีการกรุด้วยแผ่นเหล็ก ป้องกันระเบิด
  • ภายในรถยังมีอุปการณ์ ทั้งปืนลูกซอง อุปกรณ์มองในเวลากลางคืน หน้ากากป้องกันแก๊สพิษ เครื่องยิงแก๊สน้ำตา แม้แต่ขวดเลือดสำรองสำหรับท่านประธานาธิบดีหากต้องมีการให้เลือดหรือผ่าตัด ระบบโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมที่เชื่อมต่อสายตรงสู่ แพนตาก้อน
  • ส่วนล้อรถใช้เทคโนโลยี่ Run-Flat Tyre คือยางที่จะต้องใช้กระทะล้อชนิดพิเศษที่มีการเสริมพลาสติกพิเศษไว้ด้านใน เมื่อยางแตก หรือรั่วซึมยางจะยุบตัวมาแค่สัมผัสพลาสติกพิเศษนี้ ไม่ยุบตัวถึงกระทะล้อจึงทำให้สามารถวิ่งต่อได้ ตัวยางเสริมด้วยเส้นใยเคฟลาร์(Kevlar ใช้ทำเกราะอ่อนกันกระสุน)ทำให้ยากยิ่งที่จะมีอะไรเจาะทะลุ
คำถาม จากคุณไม่ระบุชื่อ

พอดีผมเองก็ไม่ได้ลงรถตอนรถไปติดลูกระนาด หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมจึงมีจุดอ่อนที่ลูกระนาด
ตอบ : เนื่องจากรถมีช่วงล้อยาวมาก บวกกับมีน้ำหนักรถมาก เมื่อล้อหน้าพ้นยอดเนินลูกระนาดไปเมื่อกำลังไต่ลงเนินใต้ท้องรถจะไปติดยอดเนิน ดังภาพครับ

ซ้ายรถช่วงสั้น จะเห็นว่าใต้ท้องรถมีช่องว่างระหว่างยอดเนินกับท้องรถ
ขวารถช่วงยาว เมื่อเนินสูงเท่ากัน ใต้ท้องรถสูงเท่ากัน จะเห็นว่าเมื่อแล่นพ้นยอดเนินไปได้ระยะหนึ่งใต้ท้องรถจะไปครูดกับยอดเนิน ดังภาพ

ส่วนมันกันปืนอะไรได้ ทนระเบิดอะไรไหว เป็นความลับ
กลัวโดนจัดหนักกว่า ที่จะทานทนไหว
สิ่งเดียวที่จะหยุดรถคันนี้ได้ คือ เนินลูกระนาดดดดดด..
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/worldnews/article-1109082/The-Obamamobile-New-presidential-limo-unveiled--withstand-rocket-chemical-attacks.html

น้ำ จะเป็นพิษต่อร่างกาย เมื่อดื่มมากๆ (hyponatremia)

น้ำเป็นพิษต่อร่างกาย


ร่างกายของมนุษย์ มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึงกว่าครึ่ง คือ 57% (ของน้ำหนักร่างกาย) เพราะฉะนั้นน้ำจึงมีความจำเป็นต่อร่างกายมนุษย์อย่างมาก และขาดมิได้ แต่ ถ้าอะไรที่มันน้อย หรือ มากเกินไปนั้นย่อมไม่ดีต่อร่างกายทั้งนั้นไม่เว้นแม้แต่ น้ำ ก็ตาม

รายละเอียด

  • การที่เราดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไป จะส่งผลให้ปริมาณ โซเดียม ในร่างกายตกลง
  • และโซเดียมก็เป็น สารอิเล็กโทรไลท์(Electrolyles)ที่สำคัญของร่างกายมนุษย์ โดยโซเดียมมีหน้าที่ควบคุมการทำงานข้อต่อ กล้ามเนื้อ และระบบประสาท
  • ซึ่งการที่ ปริมาณโซเดียมลดลงอย่างมาก จะทำให้มนุษย์เกิด อาการชัก ซึ่งอาจรุนแรงถึง หมดสติขั้นโคม่า ซึ่งอาการดังกล่าวเรียกว่า hyponatremia
  • แต่ก็ไม่ต้องวิตกกังวลใจ ว่าเราจะดื่มน้ำมากเกินไปจึงถึงขั้นเป็นอันตรายเช่นนี้ เนื่องจากร่างกายเรานั้นมีระบบป้องกันตัวเองอยู่แล้ว คือเมื่อเราดื่มน้ำมากเราจะหมดกระหาย เพื่อป้องกันอาการ hyponatremia

มั่นใจ ล้าน% คนอ่าน wowboom จะไปเลือกตั้ง

มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์

มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ คนที่อ่าน wowboom จะไปเลือกตั้งกันทุกคน อย่าลืมนะครับวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 เรามีนัดกันอย่างพร้อมเพรียงกันที่หน่วยเลือกตั้งทั่วประเทศ

วันนี้ผมออกไปใช้สิทธิเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกออกไปจนถึงที่หน่วยเลือกตั้ง ตลาดศรีเอี่ยม แดดกำลังร่ม มีคนต่อแถว 2-3 คน แต่ดันลืมบัตรประชาชนซะงั้น ต้องเดินกลับมาบ้านเอาบัตร พอเดินออกมารอบสองซิมันต่างกันมากทีเดียว แดดร้อน แถมคนต่อแถวเกือบสิบคนแล้ว แต่ก็แอบดีใจที่มันคึกคักขึ้น

ส่วนใครยังไม่ออกไปใช้สิทธิ ต้องรีบแล้วนะครับอย่ามัวรอ เดิ๋ยวจะไม่ทันนะ จ๊ะ

ผมอ่านหนังสือพิมพ์ มีคอลัมนิสต์ กล่าวว่า

  • การเลือกตั้งก็เหมือนผู้หญิงจะเลือกสามี ถ้าหาสามีดีๆไม่ได้ก็อยู่บนคานดีกว่า
  • แต่ ผมไม่เห็นด้วยในเมื่อถึงแม้เราไม่ไปเลือกตั้งเพราะเห็นว่าไม่มี สส ดีๆก็อย่าไปเลือกมันเลยดีกว่า
  • แต่ ในความเป็นจริงถึงเราไม่ไปเลือกตั้งยังไง ก็มีคนอื่นไปเลือก ยังไงเราก็ต้องมี สส อยู่ดีถ้าซวยๆ มันเป็น สส ที่ชั่วที่สุด คราวนี้จะโทษใคร ในเมื่อ ผัวชั่วนี้ มาจากการที่คุณไม่ยอมออกไปใช้สิทธิ์เลือก ผัวที่ชั่วน้อยที่สุด

นก เป็น สัตว์มีพิษ ( POISONOUS BIRDS )

สัตว์มีพิษ


ถ้าจะถามถึง สัตว์มีพิษ จะลึกถึงอะไร แน่นอนคงเป็นพวกสัตว์ในตระกูล สัตว์เลื้อยคลาน พวก งู กิ้งก่า กบ คงไม่มีใครนึกถึง นก ที่เป็นสัตว์มีพิษแน่นอน
รายละเอียด

  • มีนกที่ชื่อว่า Hooded Pitohui (มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pitohui dichrous )เป็นนกเพียงชนิดเดียวในตอนนี้ ที่พบว่าเป็น สัตว์มีพิษ
  • นก Hooded Pitohui เป็นนกที่พบในเกาะนิวกีนี(New Guinea) ประเทศอินโดนีเซีย
  • พวกมันเป็นนกที่มีขน สีดำ และ สีส้ม
  • มันเป็นนกที่มีพิษในกลุ่ม Neurotoxin (พิษในกลุ่มที่ออกฤทธิ์ เฉพาะเจาะจงต่อเซลล์ประสาท) ที่ชื่อว่า homobatrachotoxin
  • พิษจะพบได้ในผิว และขนนก ที่จะทำให้เกิดเมื่อสัมผัสถูกจะเกิดอาการมึนงง และแสบ
  • หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมนกถึงกลายร่างเป็นสัตว์มีพิษได้ ตามจริงพวกมันไม่ใช่สัตว์มีพิษโดยธรรมชาิติ แต่พวกมันได้รับพิษมา แมลงเต่าทอง Choresine ที่พวกมันกิน

เต่าทอง Choresine

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Hooded_Pitohui

โชว์เสี่ยงตาย ล่องตกลงจาก น้ำตกไนแองการา (Niagara Falls)

กล้าหรือเปล่า


ถ้ามีคนท้าให้คุณ ล่องมาในถังเพื่อไหลลงมาจากน้ำตกไนแองการา คุณจะกล้าหรือเปล่า ถ้าผมถ้าบอกว่ามีคนกล้าหลายคน และพยายามจะโชว์เสี่ยงตายนี้ คุณจะเชื่อหรือเปล่า

รายละเอียด

  • ผู้ที่แสดงโชว์เสี่ยงตายนี้มีชื่อว่า นาย บ็อบบี้ ลีช(Bobby Leach) เขาได้แสดงโชว์โดยการเข้าไปอยู่ในถังเหล็ก แล้วปล่อยให้ลอยตกลงมาจากน้ำตกไนแองการา ในวันที่ 25 กรกฎาคม 1911 เขารอดตายแต่ ก็ต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มในโรงพยาบาลกว่า 6 เดือน จากอาการบาดเจ็บสาหัส
  • แต่ บ็อบบี้ ไม่ใช่มนุษย์คนแรกที่แสดงโชว์นี้สำเร็จ เพราะก่อนหน้านี้มีหญิงที่ชื่อว่า แอนนี่ เทย์เลอร์(Annie Taylor) ทำสำเร็จมาก่อนแล้ว
  • บ็อบบี้ ประกอบอาชีพในคณะละครสัตว์ที่ชื่อว่า the Barnum and Bailey Circus ตอนอยู่ในคณะเขาไม่ใช่นักแสดงเสี่ยงตายอะไร เป็นแค่ตัวตลก และก่อนหน้านั้น เขาเคยเป็นเจ้าของแผงขายอาหาร และบ็อบบี้ก็มักจะคุยโม้กับเหล่าลูกค้าของเขาว่า สิ่งที่แอนนี่ทำได้เขาก็ทำได้และทำได้ดีกว่าด้วย
  • หลังจากหายดี บ็อบบี้ยังไม่หายซ่า เขาย้อนกับมาที่ ไนแองการา ในปี 1920 และเปิดแสดงโชว์ว่ายน้ำในแองน้ำวน ด้วยวัย 60 กว่าเขาพยายามแสดงโชว์หลายต่อหลายครั้งแต่ล้มเหลวจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด
  • ในปี 1926 ขณะออกเดินทางโชว์อยู่ เขาเกิดลื่นล้มจากเปลือกส้ม(บ้างว่าเปลือกกล้วย) เขาได้รับบาดเจ็บที่ขา ต่อมาแผลติดเชื้อจนต้องถูกตัดขา และหลังจากนั้น 2 เดือนเขาก็เสียชีวิต(ปล. ที่ควรจะตายดันไม่ตายเรื่องที่ไม่ควรตายดันตาย ซะงั้น)

แอนนี่ เทย์เลอร์ โฟสท์ท่าถ่ายรูปกับ ถังของเธอ เธอแสดงโชว์ในวันคล้ายวันเกิดครบรอบปีที่ 63 ในวันที่ 24 ตุลาคม 1901 (เธอคือมนุษย์คนแรกที่แสดงโชว์ ตกจากน้ำตกไนแองการา แล้วรอดชีวิต) เธอสร้างถังใบนี้เองกับมือ โดยใช้ไม้โอ๊ก กับเหล็กภายในบุด้วยที่นอน เธอสามารถแสดงโชว์สำเร็จโดยมีบาดแผลหัวแตกเล็กน้อยเท่านั้น

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Bobby_Leach
  • http://en.wikipedia.org/wiki/Annie_Edson_Taylor

เคยสังเกต หู มิกกี้เมาส์ หรือเปล่า (Micky mouse's ear)

หู มิกกี้เมาส์

ไม่ว่ามิกกี้เมาส์ จะหันหน้าทางด้านไหน ก็จะเห็นหูของมิกกี้เมาส์ 2 ข้างเสมอ และไม่ว่ามุมไหนหูก็จะเป็นวงกลมเสมอ แปลกดีเพราะมันเป็นไม่ได้ในความเป็นจริง นอกเสียจากมิกกี้เม้าส์จะ
  1. มีหูที่สามารถเคลื่อนที่ได้ทั่วหัว
  2. มีหูเป็นทรงกลม(ทรงกลมคือเป็นลูกกลมๆ ไม่ใช่วงกลมที่เป็นเป็นแบน)

เพลง ที่ สั้นที่สุดในโลก (shortest song)

เพลงสั้นที่สุดในโลก


เชื่อหรือเปล่า ว่ามีบทเพลงที่สั้นที่สุดในโลก คือ มีระยะเวลาขับร้องเพียง 1.316 วินาที
wowboom
รายละเอียด

  • ด้วยบทเพลงที่มีความยาวเพียง 1.316 วินาทีทำให้เพลงที่มีชื่อว่า "You Suffer" เป็นเพลงที่สั้นที่สุดในโลก รับรองโดยกินเน็ตบุ๊ค
  • เพลงนี้มีเนื้อเพลงสั้นๆว่า "You suffer, but why?" จบแล้ว
  • ขับร้องโดยวงดนตรีสัญชาติอังกฤษ นามว่า Napalm Death บทเพลงนี้อยู่ในอันบั้มที่มีชื่อว่า Scum
  • แต่งเพลงโดย 2 สองสมาชิกวง นามว่า Nicholas Bullen และ Justin Broadrick
คลิปวีดีโอ



ตอนแรกผมดูจากคลิปอื่น ผมฟังไม่ออกว่า นักร้องมันร้องตอนไหน? พอมาเจอคลิปถึงได้รู้ว่าเขาร้องโดยใช้เทคนิคการคำรามว่า "You suffer, but why?"
พอ Get ผมก็ ฮากลิ้งกันทีเดียว!
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/You_Suffer

ไดโนเสาร์ สุดไฮเทค ชื่อว่า เทคโนซอรัส (Technosaurus)

เทคโนซอรัส


เทคโนซอรัส เห็นชื่อแล้วคงคิดว่ามันเป็นของเล่นในรูป ถ้าจะบอกว่าคุณเข้าใจผิดเนื่องจาก มันเป็นชื่อของไดโนเสาร์จริง ในอดีตจะเชื่อหรือเปล่า

รายละเอียด

  • เทคโนซอรัส เป็นไดโนเสาร์โบราณในยุค Triassic มันได้ชื่อสุดเท่นี้มาจากแหล่งที่พบ เนื่องจากมีการขุดพบพวกมันใน เทกซัส(Texas) ใกล้ๆกับ บริเวณมหาวิทยาลัย Texas Tech.
  • พวกมันเป็นไดโนเสาร์ขนาดเล็ก ตัวไม่ใหญ่ไปกว่าหมา
  • เป็นไดโนเสาร์กินพืช มีสี่ขา แต่ใช้เฉพาะขาหลังสองข้างในการเดิน
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Technosaurus
  • http://www.tpwd.state.tx.us/kids/wild_things/dinosaurs/technosaurus.phtml

เหมือน ภาพวาด

ดุจดั่งภาพวาด

หากจะบอกว่าภาพนี้เป็นภาพวิวธรรมชาิติ ไม่ใช่ภาพวาด หรือภาพที่ตกแต่งโดยคอมพิวเตอร์ มันแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าภาพนี้เป็นภาพยามเช้า เมื่อแสงอาทิตย์ทอแสงสาดส่องไปยังเนินทรายด้านหลังจนก่อเกิดเป็นสีส้ม ในอุทยานแห่งชาิติ Namib-Naukluft ประเทศนามิเบีย(Namibia) ส่วนต้นไม้ด้านหน้าเป็นต้นอคาเซีย(Acacia erioloba)

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/news/article-1389242/Incredible-photograph-Namibian-landscape-looks-like-painting.html

ทำไม แมวถึง ลิ้นหยาบ และ สาก (Why are cats' tongues rough?)

ทำไม


เมื่อวานก่อนเคยนำเสนอเรื่อง ลิ้นหอยทาก ที่มีฟันไปและส่วนท้ายของบทความก็มีการกล่าวถึง ลิ้นแมว ก็เลยสงสัยว่าทำไม ลิ้นแมวถึงสากก็เลยลองค้นหาดูว่าทำไม

ตอบ

มีผู้รู้ได้ให้คำตอบไว้ว่าทำไมแมวถึงมีลิ้นที่สาก แล้วสากเพื่ออะไร?
  • อย่างแรก แมวใช้ลิ้นที่สากๆนี้ แทน หวี ในการทำความสะอาดขน ลิ้นที่สากจะสางขนที่ตายแล้ว หลุดออกมาได้ง่ายดายกว่า ลิ้นนิ่ม
  • อย่างที่สอง แมวใช้ลิ้นในการลอกเศษเนื้อ ออกจากระดูก ก้าง จากเหยื่อของพวกมัน
  • อย่างที่สาม ลิ้นสากนี้ทำให้แมวสามารถใช้ลิ้น วัก น้ำได้ดีขึ้น(พอพูดถึงเรื่องทำให้ผมนึกถึง Clip VDO อันหนึ่งที่เป็นภาพสโลโมชั่น ที่ถ่ายทำตอน หมา กับ แมว กินน้ำ หมาจะต้องงอลิ้นเป็นตัว J เพื่อช้อนน้ำขึ้นมา แต่แมวไม่ต้องพวกมันชุ่มลิ้นลงไปตรง แล้วใช้ความสากของลิ้นดึงน้ำให้ติดตามลิ้นขึ้นมา)
  • รู้หรือไม่ว่า ส่วนที่สากบนลิ้นแมวนั้น มีลักษณะเป็นตะขอ ที่น่าแปลกที่คือ ตะขอพวกนี้มีโครงสร้างเป็นโปรทีน ที่ เรียกว่า เคราติน(Keratin ใช่เลยคุ้นใช่ไหม ก็ เคราติน นี้ก็คือ เส้นผม และเล็บของเรานั้นเอง)
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://wiki.answers.com/Q/Why_are_cats%27_tongues_rough

แชมเปญ แพงที่สุดในโลก (Most Expensive Champagne in the World)

แชมเปญ แพงที่สุดในโลก


พอจะลงบทความเรื่องนี้ ทำให้ผมนึกถึง 2 หนุ่นหน้าตาไม่เหมาะจะมาเป็นพิธีกรนำเที่ยว 2 คน จากรายการ หนังพาไป(ปล.แต่ผมชอบพิธีกรสองคนนี้นะ ดูธรรมชาิติดีดูเป็นคนธรรมดาเหมือนผม) ในตอนที่ไปเที่ยว ปารีส นครแห่งแฟชั่น ได้มีการสัมภาษณ์(น่าจะเป็น Designer) เกี่ยวกับว่าทำไมคนถึงต้องใช้สินค้า Brand Name ผู้ให้สัมภาทย์ตอบประมาณว่า "การใช้สินค้า Brand name ก็เหมือนการเสพเรื่องราว และตำนาน ที่ผู้ผลิตได้สั่งสมชื่อเสียงจากอดีตถึงปัจจุบัน" แชมเปญขวดนี้ก็เช่นกัน

รายละเอียด

  • แน่นอน แชมเปญ ที่แพงที่สุดในโลกก็ต้องย่อมมาจากประเทศ ฝรั่งเศล และผลิตจากองุ่นในไร่องุ่น จากเมือง แชมเปญ อยู่แล้ว
  • แน่นอนถ้ามันเป็นเพียง แชมเปญ เก่าเก็บเพียงอย่างเดียวมันก็คงจะไม่แพงขนาดนี้แต่ มันมีตำนานและเรื่องราว จำนำพาให้มันเป็นจำแชมเปญที่แพงที่สุดในโลกด้วยราคา ขวดละ 275,000 เหรียญสหรัฐอเมริกา(ถ้าคูญด้วย 30 ก็ตกประมาณขวดละ 8 ล้านกว่าเท่านั้นเอง)
  • แชมเปญเหล่านี้ เป็น แชมเปญที่พบในซากเรืออับปาง ของ ราชวงศ์รัสเซีย ที่อับปางลงในบริเวณนอกชายฝรั่งของประเทศฟินแลนด์(Finland) ในปี 1916
  • จนกระทั่งในปี 1997 มีการค้นพบพวกมันกว่า 150 ขวด
  • เมื่อทำการเก็บกู้แชมเปญเหล่านั้นขึ้นมา ฉลากต่างๆนั้นสูญหายไปหมดทำให้ไม่สามารถระบุ ยี่ห้อ หรือแหล่งผลิตแชมเปญเหล่านั้น
  • แต่สามารถระบุยี่ห้อได้จากการ ฝาไม้ก๊อก ที่ใช้อุดปากขวดทำให้ทราบว่า มีแชมเปญ 3 ยี่ห้อดังต่อไปนี้ Juglar , Veuve Clicquot และ Heidsieck & Co Monopole house
  • โดยยี่ห้อ Heidsieck นี้มีการค้นพบเพียง 4 ขวดเท่านั้น และมีเพียง 1 ขวดเท่านั้นที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ยอดเยี่ยม
  • โดย Heidsieck หนึ่งเดียวในตำนานก็ ถูกประมูลด้วยราคา 275,000 เหรียญ โดยโรงแรม Ritz-Carlton ในมอสโก ประเทศรัสเซีย เพื่อให้ลูกค้ากระเป๋าหนัก ได้ดื่มด่ำกับตำนาน และฟองระเบียดของพวกมัน
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://most-expensive.net/champagne-in-world
  • http://www.independent.co.uk/life-style/food-and-drink/worlds-oldest-heidsieck-champagne-found-in-shipwreck-2188344.html
  • http://news.discovery.com/history/zooms/heidsieck-champagne-200-years-old-110117.html

มอเตอร์ไซค์ แปลงร่างได้ (UNO3)

มอเตอร์ไซค์ พับได้ ยืดได้ หดได้

UNO3 ยูโนทรี คือ ยนตกรรมมอเตอร์ไซค์ ใหม่ล่าสุด ที่ตอบสนองต่อผู้ใช้ในเมืองใหญ่ที่ต่างประสบปัญหา รถติด อย่างแท้จริง

รายละเอียด

  • จากมอเตอร์ไซค์ 2 ล้อทั่วๆไป เพียงคุณสัมผัสปุ่มกดเพียง 1 ครั้ง ระบบไฟฟ้าจะทำงานเปลี่ยนร่างมันโดยการ แยกล้อหลังออกห่างจากกันเป็น 2 ซีก พร้อมกับหดล้อหน้าเ้ข้ามาแทรกระหว่างล้อหลังทั้งสอง(ล้อหน้าจะลอยสูงจากพื้นถนน ยกเลิกการใช้งาน)โดยต่อไปจะเรียกสภาพนี้ว่า "ยูโนโหมด"
  • ด้วยรูปทรงที่กระทัดรัดขึ้น มันสามารถซอกแซกได้ดีขึ้น สามารถนำเข้าจอดลิฟท์โดยสารได้ ขับขี่บนอาคารได้ หาที่จอดได้ง่ายขึ้น
  • แต่รูปทรงที่กระทัดรัดนั้น ก็ต้องแลกด้วยไม่สามารถทำความเร็วได้สูงนัก คือ ในระหว่าง"ยูโนโหมด"นี้สามารถทำความเร็วได้เพียง 48 กิโลเมตร/ชั่วโมง เท่านั้น
  • หลายคนอาจจะสงสัย ว่าระหว่างอยู่ใน"ยูโนโหมด"นี้ รถจะสามารถวิ่งได้โดยปลอดภัยหรือไม่ คำตอบคือเมื่ออยู่ในโหมดนี้ระบบควบคุมสมดุลย์จะทำการปรับระดับล้อหลังทั้งสองให้สามารถยกยุบได้อย่างอิสระต่อกัน โดยที่ตัวรถยังคงรักษาสมดุลย์ไม่โยกล้ม
  • UNO3 นี้เป็นผลงานของนักประดิษฐ์รุ่นใหม่นามว่า Benjamin Gulak ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเมื่อ 4 ปีก่อนเขาได้เดินทางไปเอเซียกับพ่อและพบการจลาจรที่แออัดในเมืองจีนทั้งหมอกควัน เขาจึงคิดว่าน่าจะประดิษฐ์ยนตกรรมที่ไม่ก่อมลพิษ และสามารถแล่นได้ในการจลาจรที่แออัดเช่นนี้
เมื่อไม่อยู่ใน ยูโนโหมด ก็เหมือนมอเตอร์ไซค์ทั่วไป


ภาพร่างซ้าย(ยูโนโหมด) ขวาโหมดมอเตอร์ไซค์ธรรมดา

ข้อมูลอ้่างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1388074/Uno-III-Streetbike-unveiled-The-transforming-U3-fit-lift.html

แชมเปญ ต่างจาก ไวน์ อย่างไร ( Difference between Champagne and Wine ))

แชมเปญ


เมื่อเหล่านักแข่งรถชนะการแข่งขัน เรามักจะเห็นภาพการเปิดแชมเปญฉลอง โดยการฉีดฟองฟู่จากขวด แชมเปญ ใส่ใครต่อใครอย่างสนุกสนาน

รายละเอียด

  • ตามจริง แชมเปญ(Champagne) ก็คือไวน์ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะสำคัญ คือ จะต้องเป็นไวน์ที่มีฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์(Sparkling wine) และที่สำคัญที่สุด ไวน์นั้นต้องผลิตจากฝรั่งเศลจากเมืองแชมเปญ เท่านั้น
  • เรื่อง แชมเปญ นี้สร้างความหงุดหงิด และรำคาญ ใจให้ชาวฝรั่งเศลอย่างมาก เมื่อมีผู้ผลิตไวน์มีฟอง(Sparkling wine) จากประเทศอื่นนำชื่อ แชมเปญ ไปเรียกขาน ไวน์ที่ไม่ได้ผลิตจากเมืองแชมเปญ
  • ชาวฝรั่งเศลไม่พอใจกับสิ่่งนี้เหลือเกิน ที่ ไวน์จากแห่งอื่นมาใช้ชื่อ แชมเปญ ของพวกเขา ถึงขั้น เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่1 และมีการทำ สนธิสัญญาแวร์ซายส์(Treaty of Versailles) ชาวฝรั่งเศลได้เพิ่ม ข้อสัญญาลงไปใน สนธิสัญญาแวร์ซายส์ ว่าห้ามผู้ใด ใช้ชื่อ แชมเปญ ไปเรียกขาน ไวน์มีฟอง ที่ไม่ได้ผลิตจากเมือง แชมเปญ อีกต่อไป มีเพียงประเทศที่ไม่ลงนามในสนธิสัญญานี้อย่าง สหรัฐอเมิกาเป็นต้น ที่ยังใช้ คำว่าแชมเปญ เรียกขาน ไวน์มีฟองของพวกเขาเรื่อยมา
  • จนกระทั่งในปี 2006 สหรัฐถึงยอม ว่าไวน์มีฟองที่ผลิตหลังจากปี 2006 จะไม่ใช้ชื่อ แชมเปญ บนฉลากของพวกเขา แต่ ไวน์ที่ผลิตก่อนปี 2006 ในอเมริกายังสามารถใช้ชื่อ แชมเปญ ได้ต่อไป
แค่ชื่อก็เล่นซะ เป็นวาระโลก กันทีเดียว
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Champagne_%28wine%29

ความลับ ความอร่อย และลอนโค้ง ของ มันฝรั่ง Pringles

มันฝรั่งทอด ยี่ห้อ Pringles


เคยกินมันฝรั่งทอด ที่มีหีบห่อเป็นกระบอกกลมทรงสูง มีโลโก้เป็นตาลุงหนวดงาม ภายในมีมันฝรั่งแผ่นเป็นลอนโค้งอยู่ภายใน ต้องยอมรับว่ารสชาตินั้นละเมียดละไม เหลือเกิน อร่อยมากๆ แต่ก็แพงเอาการ แต่ กว่าที่อะไรจะกลายเป็นตำนาน นั้นย่อมมีที่มาที่ไม่ธรรมดา

รายละเอียด

ก่อน อื่นต้องบอกว่า ตามจริง Pringles นั้นไม่ใช่มันฝรั่ง100% แต่พวกมันมีส่วนผสมเป็นแป้งมันฝรั่งเพียง 42% ที่เหลือเป็นส่วนผสมของแป้งสาลี แป้งข้าวโพค ที่ใช้วิธีการทอดในน้ำมัน ไม่ใช่ใช้วิธีอบตามที่เข้าใจผิดกัน และเพื่อเคย สังเกตหรือเปล่าว่า มันฝรั่งยี่ห้อนี้ มีแผ่นเป็นลอนโค้ง ลอนโค้งนี้ถูกสร้างมาตาม สูตรทางคณิตศาสตร์ โดยมีลักษณะเป็น โค้งแบบ ไฮเปอร์โบลิก พาราโบลอยด์(hyperbolic paraboloid)
  • แต่เดิมในยุคแรก Pringle ก็เป็นมันฝรั่งสดฝานเป็นแผ่นเหมือนยี่ห้ออื่นทั่วไป แต่มันก็มีการเปลี่ยนแปลงจากความต้องการตอบสนองบางประการ ของ เหล่าลูกค้า
  • เนื่องจากทาง P&G มักถูกลูกค้าร้องเรียนว่า แผ่นมันฝรั่งที่มีกลิ่นหม็นหืน และแผ่นมันฝรั่งที่มักจะแตกหักในถุง
  • ทาง P&G จึงได้มอบหมายงานให้นักเคมีนามว่า Fredric Baur เพื่อทำการแก้ไขข้อบกพร่องเหล่านั้นในปี 1956 นาย Fredric Baur ได้ทำการออกแบบมันฝรั่งนี้เป็นรูปอานม้าที่มีลอนเป็น พาราโบล่า และบรรจุมันในกระบอกแทน(วิธีนี้ใช้แก้ปัญหา แผ่นมันฝรั่งแตกหัก) Fredric Baur เลือกที่จะใช้การผสมแป้งมันฝรั่งกับแป้งธัญพืชอื่นๆ แทนการใช้มันฝรั่งสดฝาน แต่ เขาไม่สามารถสร้างหัวใจของอาหารได้คือ มันไม่อร่อย เขาจึงถูกไล่ออกในที่สุดในปี 1958
  • ต่อในมาทาง P&G ได้มอบหมายให้นักวิจัยชุดใหม่ที่นำโดย Alexander Liepa เพื่อสานต่องานของ Fredric Baur และ อเล็กซานเดอร์ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เขาสามารถทำให้มีรสชาติ อร่อย สำเร็จโดยคงรูปแบบลอนโค้ง และใช้การแป้งมันฝรั่งแทนมันฝรั่งสด
จะเห็นว่าถ้า Pringles ไม่ใส่ใจต่อข้อเรียกร้องของลูกค้า มันก็อาจจะเหมือนมันฝรั่งยี่ห้ออื่นๆทั่วไปที่มีขายอยู่มากมายในท้องตลาด ไม่แปลกนักที่หลักการตลาด ถึงบอกว่า ลูกค้าคือพระเจ้า
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Pringles

ของแพงที่สุดในโลก ที่มีการซื้อขายผ่าน อีเบย์ ( ebaY )

อีเบย์

หากจะถามเพื่อนๆว่า เคยซื้อของ หรือประมูลของผ่าน อิเบย์ กันบ้างหรือเปล่า? ถ้าเคยแล้ววงเงินสูงสุดที่ใช้ซื้อนั้นเท่าไร? เชื่อหรือไม่ว่าสถิติวงเงินสูงสุดที่เคยมีการซื้อขายสิ่งของชิ้นเดียวผ่าน อีเบย์ นั้นสูงถึงหลัก ร้อยล้านบาท

รายละเอียด

  • เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2001 เครื่องบินเจ็ทธุรกิจถูกขายผ่าน อีเบย์ ด้วยราคา 4.9 ล้านเหรียญสหรัฐ มันถือเป็นตัวเงินสูงที่สุด ในหน้าประวัติศาสตร์โลก Online ทีเดียว
  • เดิมเครื่องบินลำนี้เป็น สมบัติของ Texas-based Tyler Jet เป็นเครื่องบินเจ็ทส่วนบุคคล รุ่น Gulfstream II jet มีที่นั่ง 12 ที่นั่ง ภายในตกแต่งอย่างหรูหรา
  • มันถูกเปิดขายผ่านหน้าร้าน www.ebay.com/aviation ที่ยังมีเครื่องบินอีกหลายรุ่นขาย รวมถึงอะไหร่ เครื่องยนต์ และอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องบินขายด้วย
  • ผู้ที่ซื้อนั้นเป็นบริษัทสายการบินในอัฟริกา
ข้อมูลอ้างอิง
  • http://investor.ebay.com/releasedetail.cfm?releaseid=55600

สถานที่ดำน้ำ สุดแปลก เที่ยวชมแผ่นทวีป

สุดแปลก สุดสวย

wowboom เคยนำเสนอสถานที่ดำน้ำแปลกไปแล้ว อย่างเช่น ดำน้ำเที่ยวชม ถ้ำสองน้ำ วันนี้มีอีกสถานที่ดำน้ำที่สวย และแปลกไม่เหมือนที่ใดในโลกมาให้ชมกันอีกครั้ง

รายละเอียด

  • สถานที่ดำน้ำสุดแปลกนี้ คือ แผ่นเปลือกโลก 2 ชิ้น ที่อยู่ ใกล้ๆประเทศ ไอซ์แลนด์ ระหว่างแผ่นเปลือกโลก อเมริกาเหนือ กับ แผ่นเปลือกโลกยูเรเซีย
  • สถานที่แห่งนี้มีชื่อเรียกว่า canyons Silfra ในบริเวณทะเลสาบ Þingvallavatn Lake ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ the Þingvellir National Park ประเทศไอซ์แลนด์
  • พื้นที่บริเวณนี้อาจจะเห็นว่าสวยงาม แต่ มันก็ค่อนข้างจะเป็นสถานที่ค่อนข้างไม่แน่นอน ซึ่งมีทั้ง สภาภแวดล้อมแบบ หุบเขา ภูเขาไฟ และน้ำพุร้อน อันเป็นผลมาจากแผ่นเปลือกโลกทั้งสองที่ กำลังเคลือนตัวออกจากกัน โดยมีระยะทางเคลื่อนที่ประมาณ 1 นิ้ว/ปี
  • นักดำน้ำที่เห็นคือ นาย Alex Mustard วัย 36 ปี
จะเห็นว่าน้ำนั้ใสสุดๆ แผ่นเปลือกโลกนั้นก็ดูแข็งแกร่งสุดๆ เช่นกัน

บางแห่งนั้นมีความลึกถึง 800 ฟุต(240 เมตร) กันทีเดียว


ดูภาพใต้น้ำมาหลายรูป เลยนำรูปลักษณะภูมิประเทศมาให้ชาเพิ่ม จะเห็นว่าภาพด้านบนก็ดูธรรมดา แต่พอดำน้ำไปสำรวจเบื้องล่างก็จะพบ ความงดงาม (จะสังเกตุเห็นว่าทาง ไอซ์แลนด์ได้สร้างบันไดใ้ห้นักดำน้ำสามารถลงไปดำน้ำได้อย่างสะดวกขึ้น)

ภาพรายละเอียก แผ่นเปลือกโลกแต่ละแผ่น โดยแผ่นเปลือกโลกอเมิรกาเหนือจะเป็นแผ่นที่มีสีน้ำตาลอ่อนด้านบนสุด ส่วนแผ่นเปลือกโลกยูเรเซียจะเป็นสีเขียวมุมบนขวามือ

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1385589/The-growing-gap-Eurasia-North-American-tectonic-plates.html

ชาวยิว ชอบ อยู่อเมริกา มากกว่าอยู่ อิสราเอล (Jewish population)

ชาวยิว

อาจจะฟังดูแปลก แต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่ว่า ในอเมริกา มีชาวยิวอาศัยอยู่มากกว่าในประเทศ อิสราเอลเสียอีก โดย

รายละเอียด

  • ชาวยิวเหมือนดั่งเป็น ชนชาติต้องคำสาป ต้องผจญกับภัยสงครามจนสูญสิ้นแผ่นดินในครั้งสงครามโรมบุกถล่มเยรูซาเลมในปี ค.ศ.70 เมื่อสิ้นชาติชาวยิวก็กระจายตัวไปเป็นชนกลุ่มน้อยในชาติต่าง
  • แต่ด้วยความอุสาหะ ความฉลาดหลักแหลม(อัลเบิร์ต ไอสไตน์ เจ้าของ ทฤษฎีสัมพัทธภาพ ที่นำพามนุษยชาติสู่ยุคปรมาณู ก็เป็นนักวิทยาศาสตร์เชื้อสายยิว) หรือพรแห่งพระเจ้า(ตามพระคัมภีรย์ไม่ว่าจะศาสนาคริสต์ หรือ อิสลาม ชาวยิวสืบเชื้อสายมาจาก อับราฮัม ซึ่งเป็น ศาสนทูตของพระเจ้า) ที่นำพาชาวยิวขึ้นสู่ชนชั้นผู้นำในหลายชาติ
  • แต่ด้วยเวร หรือ กรรม ที่คอยจองล้างจองผลาญชนชาติต้องสาปนี้ ชาวยิวต้องผจญการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ โดย แผนการของจอมเผด็จการฮิตเลอร์ มีการคาดการณ์กันว่าในครั้งนี้มีชาวยิวเสียชีวิตมากถึง 7 ล้านคน
  • และก็ด้วยความพยายาม วิริยะอุสาหะ ก็นำพาชาวยิวกลับมาก่อตั้งรัฐอิสราเอล ได้สำเร็จ(ได้รับการสนับสนุนจากอังกฤษ) ในดินแดนที่เป็นประเทศอิสราเอลในปัจจุบัน พลิกฟื้นทะเลทรายเป็นพื้นที่การเกษตร แต่ ก็ยังมีภัยก่อการร้าย และสงครามไม่ว่างเว้นจนถึงปัจจุบัน
  • การที่เคยสิ้นชาติ ทำให้มีชาวยิวกระจายตัวอยู่ตามประเทศต่างๆมากมาย และมีข้อมูลที่น่าสนใจอย่างเช่น
  • ในอเมริกา มี ชาวยิว อาศัยอยู่ถึง 6.5 ล้านคน คิดเป็นประชากร2.1%ของชาวอเมริกัน , คิดเป็น 45% ของชาวยิวทั้งโลก
  • ส่วนในประเทศอิสราเอล ที่เป็นประเทศของชาวยิวแท้ กับ มีชาวยิวอาศัยอยู่เพียง 5.8 ล้านคน คิดเป็น
คราวนี้คงไม่แปลกใจว่าทำไม อเมริกาถึงให้การสนับสนุน อิสราเอล มากมายถึงเพียงนี้
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Jewish_population
  • http://th.wikipedia.org/wiki/ชาวยิว

ข้อมูลหายจ้า

พูดได้คำเดียวว่าเซ็งเป็ด เมื่อวานผมทำการ Up blog ตุนไว้จนถึงวันที่ 20 / 5 /54 แต่ ฺBlogspot ที่ผมเขียน Blog อยู่เกิดทำการบำรุงรักษาเครื่อง Server ทำให้ข้อมูลระหว่างวันที่ 11/5/54 นั้นหายเกลี้ยง เขาว่าเขากำลัง Rolledback ข้อมูล

ใครที่คอมเม้นท์ไว้เมื่อวาน ก็หายหมด เขาว่าเขากำลังพยายามอย่างเต็มความสามารถในการแก้ไขอยู่

ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
Admin DEN

ตลกร้าย เรื่อง ตุ๊กตาหมี ฆ่าคนตาย มากกว่า หมีจริง

ตุ๊กตาหมีฆาตกร


อาจจะฟังดูเหมือนเป็นเรื่องตลก ว่า ตุ๊กตาหมีจะฆ่าคนตาย มากกว่า หมีจริงๆ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง และก็เป็น ตลกร้าย ที่ทำให้พ่อแม่จำนวนมากต้องนั่งร้องไห้มานักต่อนักแล้ว

รายละเอียด

  • ทางเว็บบล็อก Child Injury lawyer Blog ออกมาเปิดเผยข้อมูล ตลกร้ายอันนี้
  • แน่นอน ตุ๊กตาหมีคงไม่ได้ออกมาถือมือไล่แทงใคร หรือกระโดดกัดคนชาวบ้านชาวช่อง แน่ๆ
  • จากบันทึก และข้อมูลย้อนหลังไป 89 ปี มีชาวอเมริกันถูก หมี(จริงๆ) ทำร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิตไป 82 คน (เฉลี่ยแล้วไม่ถึงปีละ 1 คน)
  • แต่ ตุ๊กตาหมี และของเล่นที่มีชิ้นส่วนขนาดเล็ก ที่สามารถจะหลุดเข้าโพรงจมูก ติดคอ ทำให้เด็กๆเสียชีวิตปีละประมาณ 22 คนต่อปี และเด็กเกือบ 1.5 แสนคน/ปี ที่ได้รับบาดเจ็บจากของเล่นเหล่านี้
  • การที่ทางทาง Child Injury lawyer Blog ออกมาเพ่งเล็งที่ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ ก็เป็นผลมาจากในอเมริกา ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ เป็นของเล่นยอดนิยมของเด็ก และ ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ ก็มี ลูกตาเป็นแก้ว และ จมูกเป็นพลาสติกขนาดเล็กๆ ที่สามารถจะหลุดเข้าอุดตันระบบทางเดินหายใจของเด็กๆได้
  • ทั้งเมื่อเด็กอุ้มตุ๊กตาเดินไปมา มันมักจะทำให้เด็กเดินสะดุด หกล้มไปพาดกับมุมโต๊ะ และยิ่งอันตรายยิ่งเมื่ออุ้มเดินลงบันได อาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตกันทีเดียว
อุบัติเหตุป้องกันได้ ถ้าไม่ประมาท
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.childinjurylawyerblog.com/2010/03/are_teddy_bears_more_likely_to.html

เบื้องหลัง ฉากสยองขวัญ ในภาพยนตร์ Psycho

เบื้องหลังคนบางคนมีเกลื้อน เบื้องหลังภาพยนต์มี..

เบื้องหลัง ฉากสยองขวัญ ที่ได้รับการกล่าวขานว่าดีที่สุดตลอดกาล ความยาว 45 วินาที ในภาพยนตร์เรื่อง Psycho ฉากที่หญิงสาวกำลังอาบน้ำฝักบัวอยู่ในอ่างอาบน้ำอย่างสบายอารมณ์ มีเพียงเสียงน้ำฝักบัว พลันก็มีเงาปรากฏขึ้นที่ด้านหลังของม่านพลาสติกอาบน้ำ ฆาตกร กระชากเปิดออกความเงียบงันถูกแทนที่ด้วยเสียงดนตรีประกอบเป็นจังหวะที่บาดลึก พร้อมกับการกระหน่ำแทงจ้วงแทงด้วยมีดปลายแหลม อย่างไม่ยั้ง

เบื้องหลัง ภาพยนตร์

  • เชื่อหรือไม่ว่า เพียงฉากนี้ฉากเดียว ที่ออกฉายเป็นเวลาสั้น 45 วินาที แต่ทางทีมงานต้องใช้เวลาถึง 7 วัน ในการถ่ายทำ
  • เลือดที่สาดกระเช็น นั้นทำจาก ช็อกแลคเหลวยี่ห้อ Bosco
  • เสียงใบมีดที่พุ่งเฉือนผ่านเนื้อของหญิงสาว ดัง ฉับๆ นั้นใช้วิธี เอามีดเสียบแตง casaba melon
  • ภาพยนตร์เรื่อง Psycho นี้อิงจาก เหตุการณ์ฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ของ เอ็ด เกน(Ed Gein หรือชื่อจริงคือ เอ็ดเวิร์ด ธีโอดอร์ Edward Theodore )
  • เอ็ด อาจจะไม่ใช่ฆาตกรที่ฆ่าคนมากมายอะไร คาดว่าเขาฆ่าคนไปเพียง 2 คน แต่ ที่แน่นอนคือ เขาคือ ฆาตกรที่วิกลจริตที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกแน่นอน
  • จาก หลักฐานที่พบภายในบ้านของเขา ทั้งหัวกะโหลกที่ที่เลือยด้านบนออกเพื่อทำเป็นแก้ว หน้ากากหนังมนุษย์ เข็มขัดหัวนม โคมไฟหนังมนุษย์ และซากศพจำนวนมากภายในบ้าน ที่เกิดจากการฆาตกรรมของเข และการขโมยศพจากสุสาน
  • ปล.โปรดระวังการเข้าชมเว็บที่มีเรื่องราวของเขาจากเมืองนอก ไวรัส บานกันเลยทีเดียว เดิ๋ยวจะหาว่าไม่เตือน
มาดูกัึนว่า สิ่งที่พบในบ้านเขา และนำเขาสู่ทำเนียม สุดยอดฆาตกรวิกลจริต มีอะไรบ้าง

  • จมูกมนุษย์ 4 อัน
  • หน้ากากหนังมนุษย์ 9 อัน
  • หม้อต้มที่สร้างจากหัวกะโหลกมนุษย์
  • หัวของผู้หญิง 10 หัว
  • เก้าอี้หุ้มด้วยหนังมนุษย์
  • หัวของ Mary Hogan ในถุงกระดาษ (1 ใน 2 ศพที่เขาลงมือฆ่า)
  • หัวของ Bernice Worden ในถุงผ้าใบ (อีก 1 ใน 2 ศพที่เขาลงมือฆ่า)
  • อวัยวะเพศหญิง 9 ชิ้น ในกล่องรองเท้า
  • หัวกระโหลกประดับหัวเตียง
  • ชิ้นส่วนอวัยวะจำนวนมากในตู้เย็น
  • ริมฝีปาก คู่หนึ่งบนเชือกดึงผ้าม่าน
  • เข็มขัดที่ประดับประดาด้วยหัวนม
  • โคมไฟหนังมนุษย์
ข้อมูลอ้างอิง
  • http://news.bbc.co.uk/2/hi/entertainment/3732949.stm

ความสัมพันธ์ทาง ภูมิประเทศ อันซับซ้อน ของ ภูเขาไฟ Taal Volcano

ตอนแรกอ่านแล้ว งง มากๆ


ทะเลสาบที่ก่อความสับสน แห่งนี้ มีสถานที่ตั้ง ชวนปวดหัว คือ มันเป็นทะเลสาบที่ตั้งอยู่ ซ้อนทะเลสาบ ซ้อนทะเลสาบอีกแห่ง ซ้อนทะเลสาบอีกแห่ง ซ้อนกันอยู่ถึง 3 ซ้อน

ภูมิประเทศ ภูเขาไฟ Taal

  • ภูเขาไฟ Taal ตั้งอยู่บนเกาะลูซอน(Luzon เป็นเกาะใหญ่ที่สุดในประเทศฟิลิปปินส์)
  • ภูเขาไฟ Taal ล้อมรอบด้วยทะเลสาบ ต่อไปจะเรียกทะเลสาบนี้ว่า "B"
  • ภายในปากปล่องภูเขาไฟ Taal มีทะเลสาบ ต่อไปจะเรียกทะเลสาบนี้ว่า "C"
  • ในทะเลสาบ"C" มีเกาะเล็กๆ ที่ต่อไปจะเรียกว่า "D" ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ Taal ในปี 1965
  • ภายในเกาะ "D" มีทะเลสาบเล็กๆๆ ที่ต่อไปจะเรียกว่า "E"ฉะันั้นขอสรุปว่า เกาะลูซอนเป็นที่ตั้งของทะเลสาบ"B" ภายในทะเลสาบ"B"เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟTaal ภายในปากปล่องภูเขาไฟTaalเป็นที่ตั้งของทะเลสาบ"C" ภายในทะเลสาบ"C"เป็นที่ตั้งของเกาะ"D" ภายในเกาะ"D"เป็นที่ตั้งของทะเลสาบ"E" เข้าใจกันหรือเปล่า (ตรงลงผมอธิบายถูกเปล่าเนี้ย!)
  • สรุป มันเป็นเกาะซ้อนเกาะ ทะเลสาบซ้อนทะเลสาบ น่าจะประมาณนี้มั้งครับ : )
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Taal_Volcano

มหันตภัย เบียร์ล้างเมือง (ฺLondon Beer Flood)

เบียร์ท่วมสงสัย ได้เมากันทั้งเมือง

น้ำท่วม เป็น ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้บ่อยๆสำหรับเมืองไทย แต่เมื่อย้อนไปกว่าเกือบ 200 ปี ล่วงมาแล้วในอังกฤษ นั้นเคยเกิดเหตุการณ์ เบียร์ท่วมเมือง เรื่องนี้ไม่ใช่เล่น มันทำให้คนตายไปถึง 9 คน ทีเดียว

รายละเอียด

  • ย้อนเวลาไปเกือบ 200 ปี สู่วันที่ 17 ตุลาคม 1814 เหตุกาณ์เกิดขึ้นใน St.Giles กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ที่ โรงงานผลิตเบียร์ Meux and Company Brewery ที่ตั้งอยู่ริมถนน Tottenham Court Road
  • ถังเบียร์ขนาดใหญ่ที่มีความจุถึง 6.1 แสนลิตร เกิดแตกออก พาลไปพังถังเบียร์อีกถัง รวมแล้วมีเบียร์ปริมาณกว่า 1.47 ล้านลิตร ไหลบ่าออกมาก่อตัวเป็นคลื่นเบียร์ขนาดใหญ่ยักษ์ พัดทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า
  • เบียร์ไหลบ่าไปตามถนน ทำลายบ้านไป 2 หลัง พัดกำแพงผับ Tavistock Arms พังลงมาทับลูกค้า นามว่า Eleanor Cooper ตาย
  • โรงเบียร์ตั้งอยู่ในบริเวณ ชุมชนแออัด ที่มีชาวบ้านบางส่วนพักอาศัยอยู่ในชั้นใต้ดิน เบียร์ที่ไหลท่วมจำนวนมากมายไหลเข้าท่วมภายในชั้นใต้ดินอยู่รวดเร็ว ก็ให้มีผู้เสียชีวิตตามมาอีก 8 ศพ
ข้อมูลอ้างอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/London_Beer_Flood

ชาวรัสเซีย ตื่นตะลึง พบ ยูเอฟโอ กลางเมือง (UFO)

ยูเอฟโอ


ชาวรัสเซียในเมือง Ekaterinburg ต้องตื่นตะลึงเมื่อพบ วัตถุประหลาดส่องแสงสีฟ้าเป็นเส้นยาวพุ่งผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน มันคืออะไร wowboom จะพาไปพบคำตอบ


รายละเอียด


  • สี่ที่เห็นนี้คือเกิดจาก จรวด Soyuz ของรัสเซีย ที่กำลังปฎิบัติภาระกิจ ส่งดาวเทียมสื่อสารทางทหาร ขึ้นสู่วงโคจร
  • แสงสว่างที่เห็นเป็นสีฟ้าสดใส วิ่งผ่านต้องฟ้านี้เกิดจาก แสงจันทร์ที่สะท้อนกับ อนุภาคที่ปลดปล่อยออกมาจากไอพ่น จรวด
  • สิ่งที่เห็นนี้อาจจะดูคล้าย ปรากฎการณ์ธรรมชาติ แสงเหนือ แต่อย่างไรก็ตามเมือง Ekaterinburg นั้นอยู่มาทางใต้มากกว่า ที่จะทำให้เกิดปรากฎการณ์ แสงเหนือ ได้

แน่นอนที่ถ้ามีใครเห็นสิ่งเหล่านี้วิ่งผ่านท้องฟ้าในยามค่ำคืน ย่อมเข้าใจผิดว่ามันเป็น ยูเอ็ฟโอ แน่ๆ
wowboom

เมื่อช่วงแรกที่มัน โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้า

ข้อมูลอ้างอิง

  • http://www.dailymail.co.uk/sciencetech/article-1384340/Launch-Russian-military-communications-satellite-produces-spectacular-light-show.html