รูปปั้นพระเยซูคริสต์ 1 ใน 7 สิ่งมหัสจรรย์ของโลก ยุคใหม่ ( Christ the Redeemer )

รูปปั้นพระเยซูคริสต์ แห่ง นครรีโอเดจาเนโร
รูปปั้นพระเยซูคริสต์ 1 ใน 7 สิ่งมหัสจรรย์ของโลก

Christ the Redeemer ( statue ) รูปปั้นพระเยซูคริสต์ ตั้งอยู่บนยอดเขากอร์โกวาดู ( Corcovado Mountain ) ในนครรีโอเดจาเนโร ( Rio de Janeiro ) ประเทศบราซิล ( Brazil ) ได้รับการลงคะแนนเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคใหม่ และถือเป็นสัญญาลักษณ์ของนครรีโอเดจาเนโร และที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวคริสต์ในประเทศ บราซิลทั้งหมด ทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเมือง

ข้อมูลเฉพาะ รูปปั้นพระเยซูคริสต์

  • รูปปั้นสูง 30 เมตร
  • กว้าง 38 เมตร ( วัดจากปลายแขนซ้าย ถึงปลายแขนขวา )
  • มีน้ำหนัก 635 ตัน
  • ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขากอร์โกวาดู ( Corcovado Mountain ) ที่ระดับความสูง 710 เมตร ในอุทยานแห่งชาติทิจูคา ( Tijuca Forest National Park ) ในตำแหน่งที่สามารถมองเห็น มหานครรีโอเดจาเนโร ( Rio de Janeiro ) ได้ทั้งหมด
  • ถือเป็นรูปปั้นพระเยซูคริสต์ขนาด ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ตั้งอยู่บนระดับความสูง 710 เมตร
  • ก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก หุ้มด้วยหินสบู่ ( Soapstone ) เนื่องจากมีความทนทานสูง และเหมาะต่อการใช้งาน
  • การแกะสลักดำเนินการโดยช่างแกะชาวฝรั่งเศล นามว่า Paul Landowski
  • ทีมงานออกแบบโครงสร้างนำโดยวิศวกรชื่อ Albert Caquot
  • ผู้ออกแบบสถาปัตกรรม เป็นวิศวกรชาวบราซิล ชื่อว่า Heitor da Silva Costa
ผู้ออกแบบรูปปั้นพระเยซูคริสต์ นามว่า  Heitor da Silva Costa
รูปซ้าย นาย Heitor da Silva Costa ผู้ออกแบบรูปปั้นพระเยซูคริสต์ กำลังนั่งดูโมเดลจำลองของเขา
รูปขวา คือแบบอีก 1 ทางเลือกที่ถูกเสนอแต่ไม่ได้รับการคัดเลือก

ประวัติ รูปปั้นพระเยซูคริสต์ แห่ง นครรีโอเดจาเนโร

  • 1850 แนวความคิดในการก่อสร้างรูปปั้นขนาดใหญ่บนยอดเขากอร์โกวาดู เริ่มเมื่อช่วงกลางปี 1850 เมื่อหลวงพ่อ Pedro Maria ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก เจ้าหญิง Isabel ให้ทำการก่อสร้างรูปปั้นทางศาสนาขนาดใหญ่ ทางเจ้าหญิงเองไม่ทรงเปิดกว้างในรู้แบบการก่อสร้าง แต่หลวงพ่อ Pedro Maria กลับคุ้นคิด หารูปแบบที่เหมาะสม ไม่ไ้ด้จนเวลาล่วงเลยมากว่า 39 ปี บราซิลเปลี่ยนการปกครองเป็นสาธารณรัฐในปี ค.ศ.1889
  • 1921 จึงมีการเสนอ 2 โครงการการรูปปั้นขนาดยักษ์ ที่เป็นสัญญาลักษณะของเมือง โดยรูปแบบแรกเป็นรูปพระเยซูคริสต์ และมีโลกอยู่ในมือ และอีกรูปแบบเป็นรูปพระเยซูคริสต์กางแขน และรูปแบบหลังได้รับการรับเลือก
  • 1922 เริ่มทำการก่อสร้าง การก่อสร้างใช้เวลา 9 ปี ตั้งแ่ต่ปี ค.ศ. 1922 ถึง 1931 wowboom

การก่อสร้างเส้นทางเดียวที่จะลำเลียงวัสดุก่อสร้าง และคนงานขึ้นสู่ยอดเขา โดยใช้รถไฟผ่านทางรถไฟ และปัจจุบัน ก็ยังคงใช้สำหรับขนส่งนักท่องเที่ยวขึ้นสู่ยอดเขา หรืออาจใช้เส้นทางรถยนต์ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที แล้วต่อด้วยการเดินขึ้นบันไดอีก 222 ขั้น ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นบัไดเลื่อนเรียบร้อยแล้ว

รูปขณะก่อสร้างรูปปั้นพระเยซูคริสต์ 1 ใน 7 สิ่งมหัสจรรย์ของโลก
รูปภาพซ้าย ส่วนพระเศียรของรูปปั้นที่แกะสลักด้วยหินสบู่ ที่รอการติดตั้ง
รูปภาพขวา เป็นพระหัตถ์ซ้ายของรูปปั้น มีขนาดใหญ่โตมากเมื่อ เปรียญเทียบกับขนาดคนด้านข้าง
  • 1931 รูปปั้นพระเยซูคริสต์ แห่ง นครรีโอเดจาเนโร เสร็จสมบูรณ์ และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 1931 ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้น 8,750,000 บาท ( 250,000 เหรียญสหรัฐ )
รูปส่วนพระเศียรขณะก่อสร้าง รูปปั้นพระเยซูคริสต์
รูปซ้าย เป็นรูปภ่ายเมื่อวันเปิดรูปปั้นพระเยซูคริสต์ แห่ง นครรีโอเดจาเนโร ใน วันที่ 12 ตุลาคม 1931
รูปขวา เป็นรูปภ่ายปัจจุบัน ปี 2009 ถึงเวลาจะผ่านไปกว่า 78 ปี ต่อความยิ่งใหญ่นั้นไม่เสื่อมคลาย
  • 2006 ทางบราซิลจัดการณรงณ์ ให้ประชาชนชาวบราซิลช่วยกัน โหวต ให้ รูปปั้นพระเยซูคริสต์ แห่ง นครรีโอเดจาเนโร ได้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก มีผู้สนับสนุนมากมาย รวมทั้งของรางวัลเป็นจำนวนมาก และในวันที่ 7
  • 2007 รูปปั้นพระเยซูคริสต์ แห่ง นครรีโอเดจาเนโร ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ยุคใหม่ ในวันที่ 7 เดือน 7 ปี 2007 สมตามความตั้งใจของชาวบราซิล
  • 2008 รูปปั้นพระเยซูคริสต์ แห่ง นครรีโอเดจาเนโร ถูกฟ้าฝ่าเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2008 แต่รูปปั้นไม่ได้รับความเสียหายเนื่องจากหุ้มด้วยหินสบู่

รูปภาพเหตุการณ์ รูปปั้นพระเยซูคริสต์ ถูกฟ้าฝ่าเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2008 จะสังเกตุเห็น สายฟ้า อย่างชัดเจนในภาพ


รูปกลุ่ม Greenpeace แอบขึ้นไปแขวนป้ายรณรงค์ ให้ทุกคนช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม โดยมีข้อความว่า "อนาคตของโลกอยู่ในมือคุณ ( THE FUTURE OF PLANET IS IN YOUR HAND ) "


รูปนี้ สังเกตดีจะเห็นที่อกขวาของรูปปั้นมีจุดสีดำ จุดนั้นคือนักกระโดดร่มเสี่ยงตาย ที่กระโดดลงมา

ข้อมูลอ้างอิง รูปปั้นพระเยซูคริสต์ แห่ง นครรีโอเดจาเนโร

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Christ_the_Redeemer_(statue)#cite_note-Riotur-6
  • http://girldujour.wordpress.com/2008/12/23/lightning-strikes-christ-the-redeemer/
  • http://www.copacabana.info/Christ-the-Redeemer-history.html
  • http://travel.nationalgeographic.com/places/wallpaper/brazil_christ-redeemer.html
  • http://www.flickr.com/ by andrepcgeo
  • http://www.skyscrapercity.com/showthread.php?t=720418