คนสุดขีดนักกล้ามหญิงปลาน้ำลึกรถแต่งซิ่ง7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกสิ่งก่อสร้างสุดขีดพับกระดาษสมุดระบายสี

เดิ๋ยวนี้อะไรๆ ก็ต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม



Urinal โถฉี่ เองก็ต้องปรับตัวให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะดีแต่สวยอย่างเดียวมัน Out เสียแล้ว
  • โถปัสสาวะนี้ออกแบบโดย Yeongwoo Kim
  • โดยหลักในการออกแบบคือ การนำน้ำที่ใช้ในการล้างมือจากอ่างล้างมือด้านบนโถฉี่ มาเป็นนำที่ใช้ล้างโถฉี่ด้านล่าง
  • โถฉี่นี้ไม่เพียงแต่ ประหยัดน้ำแต่มันยัง ประหยัดพื้นที่ จากแต่ก่อนที่จะเสียพื้นที่ไปสำหรับทั้งโถฉี่ กับอ่างล้างมือ มาเหลือเพียงพื้นที่สำหรับ โถฉี่อย่างเดียว
ข้อมูลอ้างอิง

พบแล้วต้นแบบ ของ ตัวพรีเดเตอร์



Predators พรีเดเตอร์ เป็นคู่อริของ เอเรี่ยน พวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ต่างดาว ที่มีเทคโนโลยี่ขั้นสูง พร้อมทั้งมีความสามารถในการสู้รบสูงมากด้วย พวกมันเดินทางไปยังดาวต่างเพื่อหาคู่ต่อสู้ที่เก่งกาจ และ พวกมันก็พบ กับศัตรูที่คู่ควร คือเหล่า เอเลี่ยน เหล่าพรีเดเตอร์ มีหน้าตา ตามภาพที่จั่วหัวนี้ แต่วันนี้เกิดไปเจอ กิ้งก่า ที่ผมว่ามันคงเป็นต้นแบบในการออกแบบ ตัวพรีเดเตอร์ไม่มากก็น้อยแน่นอน
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v

จ๊ะเอ๋!
กิ้งก่าตัวนี้ไงที่เป็นต้นแบบของ เหล่า พรีเดเตอร์ ยังไม่เชื่อ เอาให้ดูอีกรูป
v
v
v
v
v
v
v
v
v
v

แฮ่ๆ แฮ่ๆ แฮ่ๆ
เมื่อพวกมันถูกคุกคลาม มันจะแบะปากออก เผยให้เห็นปากสีแดงสด ถึงพวกมันจะไม่มีเขี้ยวขนาดใหญ่ แต่พวกมันก็มีติ่งเนื้อ แหลมๆด้านในปาก 2 อันที่แลดูคล้าย เขี้ยวขนาดใหญ่ พวกมันมีชื่อว่า
Phrynocephalus mystaceus เป็นกิ้งก่าที่พบใน อิหร่าน ทางเหนือของอัฟกานิสถาน มีลำตัวยาวประมาณ 24 เซ็นติเมตร ดูหางมันซิ มันม้วนหางด้วย

ข้อมูลอ้างอิง


ดาบวิเศษ ดูเรนดอล



ดาบดูเรนดอล เป็น 1 ในดาบวิเศษ ในตำนาน บ้างก็ว่ามันเป็น 1 ใน 4 ดาบวิเศษ ที่มีพลังอำนาจแห่งลม บ้างก็ว่ามันเป็นดาบที่ไม่มีวันหมอง จะแวววาวอยู่ตลอดกาล บ้างก็ว่าเป็นดาบที่ไม่สามารถทำลายได้ จึงไม่แปลกอะไรที่ใน เกมส์ ต่างๆมีการหยิบยืมชื่อนี้ไปตั้งเป็น ชื่อ ดาบ ในเกมส์มากมาย

รายละเอียด เกี่ยวกับ ดาบวิเศษดูเรนดอล

  • ดาบวิเศษดูเรนดอล(Durendal) มีปรากฏในอีกหลากหลายชื่อ อย่างเช่น ในภาษาอิตาลีเรียกว่า "Durlimdana" ในภาษาสเปนเรียกว่า "Durandal"
  • ดูเรนดอล(Durendal) น่าจะมาจากรากศัพท์ภาษาฝรั่งเศลคำว่า "durer" ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า "Endure" ที่แปลว่า "ทน"
  • ดาบดูเรนดอล เป็นดาบของ อัศวินโลแลนด์(Charlemagne's paladin Roland) ซึ่งเชื่อกันว่าผู้ครอบครองมันในยุคแรก คือ เฮกเตอร์ แห่ง ทรอย(Hector of Troy)
  • มีบทเพลงที่ชื่อว่า The Song of Roland กล่าวถึง ภายในด้ามของดาบนั้นมีการบรรจุไว้ด้วย วัตถุอาถรรย์ ดังต่อไปนี้ ฟันหนึ่งซี่ของเซนต์ปีเตอร์(Saint Peter) , เลือดของเซนต์บาซิล(Saint Basil) , เ้ส้นผมของเซนต์เดนนิส(Saint Denis) และชิ้นส่วนอาภรณ์ของพระแม่มารี(Virgin Mary)
  • ตำนานกล่าวไว้ว่า ดาบดูเรนดอลเป็นดาบที่ไม่สามารถทำลายได้ ซึ่งได้รับการพิสูจน์จาก อัศวินโรแลนด์ โดยการใช้หินทุบ แต่ไม่สามารถทำลายมันลงได้
  • ภาพจั่วหัวคือ ภาพเป็นชิ้นส่วนของดาบที่หัก ที่มีการกล่าวอ้างว่าคือ ดาบดูเรนดอล ที่ถูกเสียบไว้ที่หน้าผา ที่สามารถมองเห็นได้จากลานแห่งเซนต์ไมเคิล(the Plateau of St Michel) ในเมืองโรคามาดูร์(Rocamadour) ในประเทศฝรั่งเศล (แล้วที่บอกว่าทำลายไม่ได้ ไม่หมอง แล้วทำไมดาบหักผุนี้ถึงได้เชื่อว่าเป็น ดาบวิเศษ ดูเรนดอล กันนะงงจัง)
ข้อมูลอ้างอิง

เพลย์บุ๊ค



PlayBook ในที่สุด RIM ก็เปิดตัวแทปเลทของตน หลังจากมีข่า;หลุดออกมาต่างๆนานา เดากันไปเดากันมาถูกบ้างผิดบ้าง

รายละเอียดเกี่ยวกับ เพลย์บุ๊ค (PlayBook )


เล็กกว่า เล่น File Flash ได้เพราะไม่ได้ทะเลาะกับ Adobe เป็นมิตรกับอุปกรณ์ต่อเชื่อมอื่นๆ(ไม่หยิ่ง) มีกล้องถ่ายรูป แน่นอนทาง RIM (บริษัทผู้ผลิต BlackBerry ) ได้วางตัว iPad เป็นคู่แข่งอันดับ 1 และเมื่อเห็นจุดอ่อนอะไร พี่แกเลยอัดเข้าทุกประเด็น
  • PlayBook คือชื่อของคอมพิวเตอร์แทปเลทจากค่าย RIM เจ้าของเดียวกับ BlackBerry
  • PlayBook มีหน้าจอ LCD ขนาด 7 นิ้ว ระบบสัมผัส ความละเอียด 1024 x 600 เล็กกว่า iPad ที่มีขนาด 9.7 นิ้ว
  • ในเมื่อเล็กกว่า PlayBook จึงมีน้ำหนักเพียง 0.408 กิโลกรัม เบากว่า iPad อยู่ 0.272 กิโลกรัม
  • PlayBook ใช้ระบบปฏิบัติการ BlackBerry tablet OS
  • PlayBook รองรับ File Flash เนื่องจากผู้บริหารของ RIM ไม่ได้มีปากเสียงกับ Adobe
  • รองรับการเปิดโปรแกรม หลายโปรแกรมพร้อมๆกัน ( Multitasking )
  • ที่เก๋ก็คือมีกล้อง 2 ตัว ด้านหน้า 3 MP ด้านหลัง 5 MP
  • รองรับ Memory ภายนอกทั้งแบบ MicroHDMI และ MicroUSB
  • Processor ที่ใช้ 1 GHz dual-core Cortex A9
  • แรม 1 กิกะไบต์
  • ระบบไร้สาย Wi-Fi , Bluetooth , 3G(รอก่อน ของอย่างนี้มันต้องค่อยๆปล่อย)
บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

ว่าด้วยตำนาน ความเชื่อ เรื่องเพศ



Vagina dentata ยุคสมัยนั้นเปลี่ยนไป เมื่อก่อนก็ใช้เรื่องลึกลับ ความเชื่อต่างๆ เพื่อทำการขู่ และป้องปรามกัน แต่ สมัยนี้ เป็นยุคของข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ คนเราจึงไม่เกรงกลัว บาป บุญ คุณ โทษ กันอีกแล้ว

ว่าด้วยเรื่อง Vagina dentata

  • Vagina dentata เป็นภาษา ลาติน แปลว่า Vagina แปลว่าช่องคลอด ส่วน dentata ก็เห็นอยู่ตามหน้าร้านหมอฟัน แปลว่า ฟัน
  • ความเชื่อในเรื่อง อวัยวะเพศหญิงมีฟัน นี้มีอยู่ในหลายวัฒนธรรม เพื่อเป็นการป้องปราม ว่าการไปมีสัมพันธ์กับหญิงไม่เลือก การไปข่มขืนหญิงอื่น คุณอาจพบกับ หญิงสาวประหลาด ที่มีอวัยวะเพศที่มีฟัน แล้วงับน้องชายขาดก็ได้
  • ตำนานกล่าวไว้ว่า มี Terrible Mother ที่ช่วงล่างของเธอมีปลากินเนื้ออาศัยอยู่ เธอถูกผู้กล้าที่เป็นมนุษย์หนุ่มปราบลง และถูกทำการถอนฟันทั้งหมดออกช่วงล่างของเธอ เพื่อทำให้เธอเป็นมนุษย์ผู้หญิงธรรมดา
  • บางตำนาน กล่าวไว้ว่า ผู้กล้าไม่ได้ทำการถอนฟันจนหมด แต่เหลือไว้ 1 ซี่ (มันเป็นอย่างนี้ เองเข้าใจแล้ว)

เรื่องราวนี้ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง Teeth (ภาพโปรเตอร์ เรื่อง Teeth)


คาดว่าเรื่องราวดังกล่าวน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ ผู้ออกแบบถุงยางป้องกันการข่มขืนด้วยไม่มากก็น้อยมั้ง


บ้างก็มีการโยงเรื่อง Vagina dentata กับ โลโก้กาแฟชื่อดัง Starbucks (เงือก 2 หาง) หางแต่ละข้างแทนขามนุษย์ โดยโลโก้นี้ถูกโจมตีว่ามีการสื่อถึงทางเพศ ทั้งการเปลือยอก การใช้มืออ้าหางออก และมันก็เป็นอะไรที่สอดคล้องกับการที่มีปลาอาศัยอยู่ ที่ช่วงล่าง หรือถ้าไม่ใช่ปลา ก็เป็นเกล็ดปลา และใครที่มีอะไรกับนางเงือกในตำนานฝรั่งก็มักจะตาย
ผมอ่านเรื่องนี้ผมพึ่งสังเกตโลโก้ของสตาร์บัคส์ ว่ามันก็ส่อจริงๆ
แต่ก่อนไม่รู้สึกเลย
ข้อมูลอ้างอิง

อ้างอิงในส่วน เนื้อหา vagina dentata


อ้างอิงในส่วน ถุงยางกันข่มขืน


อ้างอิงในส่วน โลโก้สตาร์บักส์

เชือ หรือ เปล่าว่ามี ริงโทนที่จะทำให้นมโตขึ้น



คำกล่าวที่ว่า "อกหักเรื่องเล็ก อกเล็กเรื่องใหญ่" สำหรับชายฟังแล้วคงขำๆ แต่ สำหรับหญิงนั้นคงขำไม่ออกถ้าใคร ถูกเรียกว่า สาวทับกระดาน น้องลูกเกด นางสาวไข่ดาว เธอหันหน้ามาคุยกันซิ จึงทำให้มีผู้ผลิตริงโทนประหลาดออกมาเพื่อ เธอๆ ทั้งหลาย จะมีโอกาสที่จะ ตูมขี้นโดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ


รายละเอียดเกี่ยวกับ เพลงริงโทน นมโต

  • ริงโทนนี้มีชื่อว่า ร็อคนมแตง(Rock Melon)
  • ผู้ประดิษฐ์ ริงโทน นี้มีชื่อว่า ด็อกเตอร์ฮิเดโตะ โทเมบิชิ(Hideto Tomabechi)
  • ด็อกเตอร์ฮิเดโตะ ออกแบบ ริงโทนร็อคนมแตง โดยให้มีเสียงเหมือนเสียงเด็กทารกร้องไห้
  • เสียงเด็กทารกร้องไห้จะไปกระตุ้นสมอง ปลุกสัญชาตญาณของความเป็นแม่ ให้ร่างกายผลิตน้ำนม ซึ่งน้ำนมนี้เองเป็นต้นเหตุให้ นมโต ขึ้น
  • โดย ด็อกเตอร์ฮิเดโตะ กล่าวว่า ปริมาณในการฟัง ประมาณ วันละ 20 ครั้ง ครั้งละ 30 วินาที
  • แต่มีรายงานว่า หญิงสาวที่ฟังริงโทนนี้ ทำให้หัวนมดำ คล้ายหญิงทั้งครรภ์ด้วยนะ
  • แต่ผู้ที่สงสัยในเรื่องนี้ ก็กล่าวว่า เนื้อเยื้อ fatty tissue นั้นไม่ได้ตอบสนอง ต่อเสียงง่ายๆ อย่างที่ ด็อกเตอร์ฮิเดโตะ คิดแล้วจะทำให้ นมโตขึ้น
  • ส่วนคนที่ไม่เชื่อได้ค่อนขอด ไว้ว่า "ริงโทนนี้ไม่เพียงแต่ไม่ทำให้อกโตขึ้น มันยังทำให้ IQ ลดลงด้วยต่างหาก"
บทความนี้ไม่ยืนยันนะครับว่า จริง หรือ เท็จ โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพกันด้วยนะครับ
ฟัง ริงโทนนมแตง ได้ที่นี้



ข้อมูลอ้างอิง


ปลาหมึก เจ้าเล่ห์ จอมหลอกลวง



Mimic octopus ปลาหมึกมิมมิค เป็นสายพันธุ์ปลาหมึกที่มีความสามารถในการ ลอกเลียน รูปแบบของสัตว์อื่น เพื่อหลอกลวง เหล่านักล่าที่จะเข้ามาทำร้ายพวกมัน


รายละิเอียด เกี่ยวกับ ปลาหมึกมิมมิค


  • ปลาหมึกมิมมิคสามารถเจริญเติบโตจนมีความยาวได้ถึง 60 เซ็นติเมตร
  • โดยทั่วไปพวกมันมีสีน้ำตาล แถบขาว แต่พวกมันสามารถเปลี่ยนสีร่างกายได้
  • พวกมันมีถิ่นที่อยู่อาศัยในเขตร้อน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเอเซีย
  • พวกมันพึ่งถูกค้นพบอย่างเป็นทางการ เมื่อไม่นานมานี้เอง ในช่วงปี 1998 ในอ่าวสุลาเวสี
  • นักวิจัยพบว่าพวกมันมีพฤติกรรมร่างกาย การเคลื่ยนไหว แปลก เลียนแบบสัตว์สายพันธุ์อื่นๆกว่า 15 สายพันธุ์
  • ปลาหมึกมิมมิค เลียนแบบเป็น งูทะเล ปลาสิงโต ปลาลิ้นหมา ปลาดาว ปูยักษ์ หอย ปลากระเบน แมงกะพรุน ดอกไม้ทะเล กุ้งแมนทิส
  • พวกมันเลียนแบบสัตว์ต่างๆ โดยการควบคุมการร่างกาย ทั้งเก็บหนวด กางหนวด เปลี่ยนสี ให้เหมือนสัตว์อื่นที่มีพิษ หรือสัตว์นักล่า หรือทำตัวให้กลมกลืนกับพื้นทะเลเช่นแกล้งเป็นหิน
  • ทำให้ปลาหมึกมิมมิค เป็น หมึกชนิดแรกที่มีรูปแบบการป้องกันตัว โดยการเลียนแบบสัตว์อื่น
ตัวอย่างการ เลียนแบบของหมึกมิมมิค



ถ้าพวกมันถูกปลา Damsel โจมตี พวกมันจะแปลงร่างเป็น งูทะเล(งูทะเลเป็นนักล่าปลา damsel) โดยพวกมันจะเปลี่ยนสีร่างกายเป็นสีเหลืองแถบดำ ซ่อนหนวดหกเส้นที่พื้น ส่วนหนวดที่เหลืออีก สอง เส้นที่อยู่ในทิศทางตรงกันข้ามกัน จะทำขดไปมาเหมือนงู


หมึกมิมมิค ทำตัวเป็นปลาสิงโต เนื่องจากปลาสิงโตเป็นปลาที่มีพิษร้ายแรงอยู่ที่ปลายคลีบ ทำให้เหล่านักล่าเข้าใจผิด คิดว่าหมึกเป็นปลาสิงโต จึงไม่กล้าเข้าทำร้าย


หมีกมิมมิค แปลงร่างเป็นปลากระเบน


หมึกมิมมิค แปลงร่างโดยลู่หนวดไปด้านหลัง ทำตัวให้แบนราบไปกับพื้น เพื่อทำตัวให้คล้ายปลาลิ้นหมาพิษ


หมีกมิมมิค เอาหนวดทั้งแปดฝังในทราย ส่วนหัวก็ฝังเอาไว้ โผล่มาแต่ตาไม่รู้ทำเพื่ออะไร


หมึกมิมมิค ฝังหนวดทั้งแปด แต่อันนี้ปล่อยหัวขึ้นมา ไม่รู้ทำเพื่ออะไรอีกแล้ว

ข้อมูลอ้าอิง

  • http://en.wikipedia.org/wiki/Mimic_Octopus
  • http://www.michaelaw.com/masite2006/gallery%20bunaken.htm
  • http://wetpixel.com/forums/index.php?showtopic=11873
  • http://outdoors.webshots.com/photo/1375182656051672862ArBQZC

ผนังหมากฝรั่ง



Gum Wall ผนังที่เต็มไปด้วยหมากฝรั่ง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ที่นักท่องเที่ยวจะต้องแวะเวียนมาเที่ยวชม หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ โสโครกที่สุดในโลก

รายละเอียดเกี่ยวกับ ผนังหมากฝรั่ง

  • ผนังนี้เดิมเป็นผนังอิฐธรรมดาๆ ของโรงละคร Seattle Theatresports ที่ตั้งอยู่ในตลาด Pike Place Market ของเมือง Seattle รัฐ กรุงวอชิงตัน (Washington) สหรัฐอเมริกา
  • ผนังหมากฝรั่งนี้เริ่มแรกมันก็เป็นพื้นที่สำหรับต่อ คิว เพื่อรอซื้อตั๋วชมละครธรรมดาๆ ที่สร้างจากอิฐ
  • แต่ประเพณีประหลาดก็เริ่มขึ้นเมื่อประมาณช่อง 1990 มีผู้รอซื้อตั๋วบางคนเริ่ม ใช้หมากฝรั่งติดเหรียญบนผนัง นานวันก็ยิ่งมากขึ้นมากขึ้น ที่มากขึ้นก็เฉพาะหมากฝรั่งเนื่องจากเหรียญถูกขโมยไปหมด
  • เจ้าหน้าที่ของโรงละครเคยทำการลอกหมากฝรั่งออกไปแล้ว 2 ครั้ง แต่มันก็เพิ่มจำนวนขึ้นมาใหม่ทุกครั้งไป จนเจ้าหน้าที่คิดว่าคงสู้ไม่ไหวจึงตัดสินใจประกาศเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปเลยในปี 1999
  • จากการสำรวจเมื่อเร็วนี้มันได้รับการ โหวต เป็น อันดับสอง ของสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ถูกสุขลักษณะที่สุดในโลก (ก็ประมาณโสโครกที่สุดมั้ง)
  • ผนังถูกติดเต็มไปด้วยหมากฝรั่งยาวกว่า 15 เมตร สูงเท่าที่จะเอี้อมมือแตะถึง มีการประเมินว่ามีหมากฝรั่งติดอยู่กว่า ล้าน ก้อน
  • ผนังหมายฝรั่งนี้ถูกใช้เป็นฉากในภาพยนตร์ Hollywood เรื่อง "Love Happens" ที่นำแสดงโดย Jennifer Aniston และ Aaron Eckhart
  • ทำให้มันเป็นอีกหนึ่งในคู่แต่งงานจะแตะหมากฝรั่งร่วมกันบนผนัง บ้างก็สร้างงานศิลปะแห่งรักจากหมากฝรั่งร่วมกัน
คลังรูปภาพ



สงสารก็คนขายตั๋ว ที่ต้องอยู่กับขี้ปากชาวบ้าน นับล้าน


หวังว่าเธอคงไม่ชิมให้ครบทุกรสนะ


หลากหลายงานศิลป์จากหมากฝรั่ง


อันนี้ทำเป็นพระอาทิตย์สีแดงสดใส


อันนี้เด็ดสุดเป็น นินจาเต่า แต่ขาดไปนิด ใช้ผ้าคาดสีดำนี้เป็นใครหรือเป็นตัวละครลับ ก็ถ้า คาดตาสีฟ้าเป็นลีโอนาร์โด ผ้าคาดสีแดงเป็นราฟาเอล ผ้าคาดสีส้มเป็นไมเคิลแองเจโล หรือ มีเกลันเจโล ผ้าคาดสีม่วงเป็นโดนาเทลโล

ข้อมูลอ้างอิง



เลือดสีชมพู



Pink Blood ,มันไม่ใช่สีประจำสถาบันการศึกษาใด แต่ มันเป็นอาการแทรกซ้อน ที่ทำให้หนูน้อยน่ารักคนนี้ เกิดมีเลือด เป็น สีชมพูนมเย็นดังภาพ

รายละเอียดเกี่ยว กับ เลือดสีชมพู

  • หนูนน้อยเพศหญิงชาวจีน วัย 40 วัน หลังจากคลอด 7 วันได้รับการตรวจจากแพทย์ว่ามีสุขภาพดี จากโรงพยาบาลท้องถิ่น
  • แต่หลังหนูน้อยอายุได้ประมาณ 20 วัน หนูน้อยเริ่มมีอาการผิดปกติปรากฏ คือ มีการเพิ่มขึ้นของไขมัน และ ฮีโมโกบิน(Hemoglobin) ในเลือด
  • หลังจากมีการส่งต่อหนูน้อยมายัง โรงพยาบาลเด็ก Hubei ผลการตรวจปรากฏว่าหนูน้อยมีอาการของ สภาวะไขมันในเลือดสูง(Hyperlipidemia) , อาการตับ และม้ามโต (hepatosplenomegaly) , ปอดติดเชื้อ(Pulmonary Infection) , ภาวะโลหิตจาง(Anemia) และ Retinopathy
  • ภาพที่จั่วหัว คือ ภาพของหลอดแก้วที่ใส่เลือดปกติที่มีสีแดง และเลือดของหนูน้อยที่เป็นสีชมพู เปรียบเทียบกัน
ขอให้หายป่วย เร็วๆ นะครับ หนูน้อย เลือด สี ชมพู
ข้อมูลอ้างอิง

แมวสีชมพู


Pink Cat แมวสีชมพูตัวนี้ไม่ใช่ญาติของ เจ้าเสือ พิ้งค์ แพนเตอร์ แน่นอน แต่มันเกิดจากอะไรก็คงเดากันออก

รายละเอียดเกี่ยวกับ แมวสีชมพู

  • แมวสีชมพูตัวนี้ถูกพบนำมาทิ้งอยู่ใน สวนของเมือง Swindon และถูกส่งมายังสมาคมคุมครองสัตว์ RSPCA
  • เมื่อเริ่มแรกที่หัวหน้าศูนย์ Carl Hone ได้รับรายงานว่ามี แมวสีชมพู ส่งเข้ามาที่ศูนย์ เขาเองนั้นไม่คาดคิดว่าจะพบแมวที่มีสีชมพูทั้งตัวเช่นนี้
  • มันได้รับชื่อว่า Pink ตามสีขนของมัน
  • ตามจริงเจ้าพิงค์ ก็คือแมวสีขาวธรรมดาๆ แต่
  • สาเหตุที่ทำให้มันมีสีขน สีชมพู นั้นก็เกิดจากมันถูกย้อมสีขนด้วย น้ำยาเปลี่ยนสีผม ของมนุษย์ แล้วสงสัยว่าเจ้าของจะอาย หรือ ถูกตำหนิว่าทรมานสัตว์ มันจึงนำมันทิ้ง
  • แต่สิ่งที่ยังดีหน่อยคือ คนที่ย้อมยังเว้นส่วน ดวงตา และรอบจมูกของ เจ้าพิงค์ เอาไว้ ไม่งั้นมันอาจได้รับอันตราย
  • ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า แมว อื่นก็ไม่ได้สนใจถึงสีขนอันแปลกประหลาดของ เธอ
  • เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่ามันจะต้องมีสีขนเช่นนี้ไปอีก 12 ถึง 18 เดือน จนกว่าจะผลัดขน แล้วจึงจะมีสีขนสีขาวดังเดิม
บทความนี้ก็ไม่มีอะไรแปลก แต่อยากจะนำเสนอว่า
สัตว์ เขา ก็มีหัวใจ รู้จักเจ็บ รู้จักกลัว ทำอะไรก็สงสารพวกเขาซักนิด

ข้อมูลอ้างอิง

ห้ามฉี่ ใน แม่น้ำอเมซอน



ชาวพื้นเมืองที่อยู่ ตามแนวแม่น้ำอเมซอน เป็นที่รู้กันว่าขณะทำกิจกรรมอะไรก็แล้วแต่อยู่ในแม่น้ำ นั้น ห้ามฉี่ในน้ำอย่างเด็ดขาด เนื่องจากพวกเขามีความเชื่อว่ามันจะนำมาซึ่ง ความเจ็บปวดแสนสาหัส เนื่องถ้าฉี่ในแม่น้ำจะถูกปลา แคนดิรู มุดเข้าไปในรูฉี่ แค่คิดก็ เจ็บ เสียว จี๊ด แล้ว

รายละเอียดเกี่ยวกับ ปลาแคนดิรู

  • ปลาแคนดิรู เป็นปลาน้ำจืด เป็นพวกปลาปรสิต
  • พวกมันมีถิ่นที่อยู่อาศัยใน แม่น้ำอเมซอน
  • ปลาแคนดิรู บางสายพันธุ์มีขนาดใหญ่ถึง ครึ่งเมตร (อย่าตกใจพวกนี้มุดเข้าไปไม่ได้แน่นอน) แต่ ไอ้พวกตัวเล็กนี้ซิ มันน่ากลัวสุดๆ
  • ปลาแคนดิรู เป็นปลาลำตัวยาว หัวเล็ก ร่างกายกึ่งใส มีหนวด และที่เหงือก มี เงี่ยง ที่ใช้ในการกรีด เกี่ยว ยัก เหยื่อ ให้เป็นแผลเลือดไหล เพื่อให้พวกมันดูดดื่มเลือดจากเหยื่อ
  • โดยปกติเหยื่อของพวกมันคือ ปลาที่ขนาดใหญ่กว่าพวกมันทั้งหลาย โดยพวกมันมักจะมุดเข้าไปในเหงือกของเหยื่อ แล้ว ยัก ให้เกิดบาดแผลแล้วกินเลือดเป็นอาหาร
  • มีบันทึกเรื่องการถูกปลาแคนดิรู โจมตีในช่วงศตวรรษที่ 19 ว่าขณะฉี่ในน้ำเขาก็ถูกปลาแคนดิรู มุดเข้าไปใน จู๋ และหลังจากนั้นก็ไม่มีบันทึกว่มนุษย์ถูกพวกมันโจมตีอย่างเป็นทางการอีกจนกระทั้งปี 1997 จึงเกิดเหตุขึ้นอีกครั้ง
  • เนื่องจากเวลาปลาหายใจผ่านเหงือก จะมีแอมโมเนียออกมาด้วย บวก มีรายงานว่าคนถูกโจมตีขณะฉี่ในน้ำ(ในฉี่มีแอมโมเนีย) ทำให้มีความเชื่อว่าพวกมันหาเหยื่อ โดยอาศัย การดมกลิ่นแอมโมเนีย
  • แต่จากการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ทำให้ทราบว่า ปลาแคนดิรู ไม่ตอบสนองต่อสารเคมีใดในน้ำเป็นพิเศษ ทำให้ความเชื่อดั่งเดิมนั้นไม่ถูกต้อง
  • สิ่งที่ค้นพบคือพวกมันหาเหยื่อโดยใช้สายตา แต่การ ฉี่ ในน้ำทำให้ รูฉี่นั้นเปิดออกเมื่อปลาเห็น ช่อง หรือ รู ตามสัญชาตญาณ พวกมันก็จุดมุดเข้าไป ในรูฉี่ แล้วใช้เงี่ยงยัก เพื่อกินเลือด
  • ชาวพื้นเมืองมีความเชื่อว่าเมื่อโดนปลาแคนดิรูโจมตี ให้ใช้สารสกัดจากต้น jagua และ Buitach apple จะสามารถฆ่ามันได้ และขับมันออกมาได้ แต่ ทางการแพทย์สมัยใหม่ ก็ต้องผ่าตัดสถานเดียว
คลังภาพ ปลา แคนดิรู

ปลาแคนดิรู จะชอนเข้าไปในเหงือกปลาตัวอื่น แล้วใช้เงี่ยงยักทำให้เหยื่อเป็นแผลเลือดไหล ให้พวกมันดื่มกิน


เมื่อกินเลือดจนอิ่มท้องพวกมันจะโตอย่างเห็นได้ชัดเจน เทียบกับรูปจั่วหัวที่ตัวเรียวยาว ผอมเพลียวทีเดียว


ภาพ X-ray ผู้ป่วยที่ถูกปลาแคนดิรูโจมตี
(ภาพนี้อาจเป็นภาพที่แต่ขึ้นมาไม่ยืนยันเนื่องจากอ่านภาษาของต้นฉบับไม่ออก Search เจอจาก Google )


หลังจากผ่าตัดเอาปลาแคนดิรู ออกจาก อวัยวะเพศ
(ภาพนี้อาจเป็นภาพที่แต่ขึ้นมาไม่ยืนยันเนื่องจากอ่านภาษาของต้นฉบับไม่ออก Search เจอจาก Google )

ข้อมูลอ้างอิง


อ้างอิงในส่วนเนื้อหา


อ้างอิงในส่วนรูปภาพ


อ้างอิงในส่วนรูปภาพ


อ้างอิงในส่วนรูปภาพ

ก้อนขน



Hair Ball ก้อนขน เคยได้ยินมันว่าแมว จะมีก้อนขนสะสมอยู่ในท้อง เนื่องจากพวกมันชอบเลียเนื้อ เลียตัว แต่ก็ไม่นึกว่าจะมี คนที่ สะสมของแปลกอย่าง ก้อนขน นี้กับเขาด้วย
  • มันเป็นของสะสมของพ่อค้าขายเนื้อชาวจีนนามว่า Pan Xueping
  • เขามีของสะสมแปลกไม่เหมือนใครคือ สะสม ก้อนขน ที่พบในท้องของหมูที่ถูกชำแหละ
  • ภาพที่เห็น เป็นก้อนขน 5 ก้อน จากกว่าร้อยก้อนที่เขามีสะสมเอาไว้
ข้อมูลอ้างอิง

ปลาหมึก หนวด เยอะที่สุดในโลก



ปลาหมึก มี 2 สายพันธุ์ คือ สควิด(squid) ที่มี 10 หนวด และ ออคโทพุส(Octopus) ที่มี 8 หนวด แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีปลาหมึกบางตัวมีหนวดมากถึง 88 หนวด

รายละเอียดเกี่ยวกับ ปลาหมึก หนวด เยอะที่สุดในโลก

  • ปลาหมึกดังกล่าวเป็นสายพันธุ์ Octopus vulgaris ซึ่งก็คือปลาหมึกแปดหนวดธรรมดาๆ เท่านั้น
  • แต่ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำในประเทศญี่ปุ่น Shima Marineland Aquarium มีตัวอย่างของปลาหมึกประหลาดที่มีหนวดมากถึง 88 หนวด ( บางแหล่งอ้างอิงอ้างว่ามี 96 หนวด ขออ้างอิงตัวเลขขั้นต่ำแทนนะครับ)
  • ปลาหมึก 88 หนวด ตัวนี้ถูกจับได้ที่ใกล้อ่าว Matoya เมื่อเดือนธันวาคม 1998 หลังจากนั้น 5 เดือนมันได้วางไข่ ปรากฏว่าไข่ที่ฟักออกมาเกิดเป็นปลาหมึกธรรมดาๆ ไม่มีลักษณะที่มีหลายหนวดแต่อย่างไร แต่หมึกน้อยมีอายุได้ประมาณเดือนก็เสียชีวิตจนหมด
  • ปลาหมึก 88 หนวด ตัวนี้มีน้ำหนัก 3.3 กิโลกรัม มีความยาว 90 เซ็นติเมตร
  • ปลาหมีก 88 หนวด มีหนวดหลักอยู่ 8 หนวด แต่ปลายหนวดเกิดการแตกแขนงเป็นหนวดย่อย จนนับรวมได้ 88 หนวด
  • ไม่มีทฤษฎีอย่างเป็นทางการถึง ปรากฏการณ์ดังกล่าว แต่คาดว่า การที่มันมีหนวดจำนวนมากมายเช่นนี้ เกิดจากการที่ปลาหมึกถูกทำร้ายมีบาดแผลที่หนวด แล้วเกิดการงอกใหม่อย่างผิดปกติแตกแขนงเป็นหนวดเล็กหนวดน้อยเต็มไปหมด

ภาพปลาหมึก 88 หนวด กำลังวางไข่

ปลาหมึก 85 หนวด


  • ปลาหมึกตัวนี้มี 85 หนวด ตัวนี้ถูกดองและเก็บรักษาอยู่ ที่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Toba ในเมือง Toba
  • มันถูกจับได้ตั้งแต่ปี 1957 ใกล้เกาะ Toshijima
  • เช่นกันมันก็เป็นปลาหมีก 8 หนวดธรรมดา ที่มีแขนงหนวดเล็กงอกออกมา
ข้อมูอ อ้างอิง ปลาหมึก หนวด เยอะที่สุดในโลก


เรื่องของหนู คุณไม่เกี่ยว แต่ หนูเก็บเกี่ยว

วันนี้ขอยุ่งเรื่องชาวบ้านหน่อย ถึงจะบอกว่าคุณไม่เกี่ยว ผมคงให้รูปชุดนี้ผ่านเลยไปเฉยนั้นไม่ได้ ถึงจะบอกว่ามันเป็นเรื่องของหนู คุณจะมายุ่งอะไรด้วย
v
v
v
v
v
v
v
v
v
ตามจริง Admin DEN ก็ฺไม่ค่อยชอบหนูซะเท่าไรแต่รูปชุดนี้น่ารักมากๆเลย

  • ต้องขอขอบคุณช่างภาพทั้งสอง Jean-Louis Klein และ Marie-Luce Hubert ชาวเมือง Alsace ประเทศฝรั่งเศล(France) ที่ได้สละเวลาถึง 12 เดือน เพื่อคอยจับภาพน่าประทับใจเหล่านี้มาให้ชมกัน
  • ซึ่งบางครั้งตั้งรอคอยกว่า 4 ชั่วโมงเพื่อจะได้ภาพน่าประทับใจซักภาพหนึ่ง
  • ภาพชุดนี้เป็นภาพของ หนูเก็บเกี่ยว(Harvest mouse) พวกมันมีลักษณะพิเศษคือ การใช้หางอย่างคล่องแคล่ว เสมือนเป็นมือที่ห้าของพวกมัน

ภาพแรกหนูเก็บเกี่ยวใช้ขาทั้งสี และหาง จับต้นหญ้าเพื่อเฝ้าสังเกต แขกแปลกหน้าที่มาจับภาพถ่ายรูปพวกมันอย่างประหลาดใจ


หนูเก็บเกี่ยวโชว์ลีลากายกรรม คว้าตั๊กแตนด้วยขาหน้าทั้งสอง โดย ใช้ขาหลังยึดกับต้นหญ้า


ภาพนี้กำลังโชว์ลีลาในการปีนลงจากต้นข้าวสาลี


ภาพนี้ โพสท์ท่าถ่ายรูปอยู่หน้าใยแมงมุม เก๋ ไปอีกแบบ


ภาพนี้กำลังเล่น ชิงช้า โดยใช้หางเพื่อนๆ แทน ชิงช้า


ม่าม้าหนู กำลังอุ้ม(คาบ) ลูกหนูอย่างทนุถนอม ไปยังรัง Love ของมัน ( แม่คับเหยียบหางผมคับ )


หนูเก็บเกี่ยว ใช้หางเกี่ยวกิ่งไม้ ใช้ขาหลังยันตัว เพื่อเอื้อมตัวไป


ดีครับ


สวัสดีครับมาหาใครครับ ไม่มีใครอยู่บ้านครับ มีแต่หนูครับ


จุ๊บๆ

ข้อมูลอ้างอิง


คนตาบอดฝัน หรือเปล่า ?



Blind ตาบอด ฝันใครๆก็ฝัน แล้ว สำหรับคนตาบอด เขาฝันกันหรือเปล่า และถ้าเขาฝันเขาจะฝันเห็นอะไร คำตอบก็คือคนตาบอด ฝัน แต่งมีลักษณะที่ไม่เหมือนเราเสียทีเดียว โดยแยกได้เป็น 2 กรณีคือ
  • กรณีที่ 1 ตาบอดตั้งแต่กำเนิด คนๆนั้น จะฝันไม่มีภาพ เนื่องจากสมองไม่เคยเห็นภาพใดๆ แต่ ภายในความฝันจะมีเฉพาะ เสียง กลิ่น สัมผัส และอารมณ์ เท่านั้นที่ คนตาบอดสามารถฝันถึงได้
  • กรณีที่ 2 ตาบอดภายหลังจากคลอด ในกรณีนี้คนตาบอดสามารถเห็นภาพร่วมในฝันได้ ขึ้นอยู่กับประสบณ์การณ์ในการได้เห็นภาพ กล่าวคือ ผู้ที่ตาบอดก่อนอายุ 5 ขวบ จะไม่เห็นภาพในฝัน ส่วนผู้ที่ตาบอดอายุระหว่าว 5-7 ขวบ มีโอกาศเห็นภาพในฝันได้ ส่วนผู้ตาบอดอายุมากว่า 7 ขวบ จะเห็นภาพในฝัน แต่ความหลากหลาย และคมชัดของฝันขึ้นอยู่กับอายุ ยิ่งตาบอดตอนอายุมากๆก็ยิ่งเห็นภาพในฝันได้ดีขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง คนตาบอด ฝันหรือเปล่า


เปลวไฟหายไปไหน



คำถาม

หลังจากพบภาระกิจบนดวงจันทร์ ยานลูน่าโมดูล ดีดตัวออกจากส่วนฐาน โดยการจุดระเบิดไอพ่นจรวด แต่ทำไมจึงไม่มีเปลวเพลิง จากจรวดเลย ที่แท้มันเป็นการชักรอกในโรงถ่ายภาพยนตร์ ใช่หรือไม่

คำตอบ

  • เนื่องจากเชื้อเพลิงที่ใช้ตอนส่งจรวดออกจากโลก กับ ตอนที่ส่งยานลูน่าโมดูลขึ้นจากดวงจันทร์ นั้นเป็นคนละประเภทกัน
  • เชื้อเพลิงที่ใช้ตอนส่งยานลูน่าโมดูล ขึ้นจากดวงจันทร์ เป็นส่วนผสมของ Hydrazine ทำหน้าที่เป็นเชื้อเพลิงจริง กับ Dinitrogen tetroxide ที่ทำหน้าที่เป็นสารจากออกซิเจน เพื่อให้เกิดการสันดาป(ให้เกิดการเผาไหม้) จึงทำให้ไม่มีเปลวเพลิง
ข้มูลอ้างอิง

เผย อพอลโล11 บทที่ 8 ใครถ่ายรูป นีล อาร์มสตรอง



คำถามคาใจ

ก็ไหนว่า นีล อาร์มสตรอง( Neil Armstrong ) คือ มนุษย์คนแรกที่เหยียบดวงจันทร์ แล้วรูปนี้ กำลังถ่าย นีล อาร์มสตรอง กำลังก้าวลงมาเหยียบดวงจันทร์ แล้ว แมวที่ไหนมันถ่ายรูปให้ ตอบมานะ ตอบมานะ นาซ่า

นาซ่า ตอบว่า

  • เมื่อเวลา 10:56 ของวันที่ 20 กรกฎาคม 1969 นีล อาร์มสตรอง กำลังก้าวออกจากยาน และภาพถ่ายนี้ถูกบันทึกภาพโดยกล้อง ถ่ายทอดสดโทรทัศน์ ที่ติดตั้งบนยานลูน่าโมดูล โดยกล้องนี้ควบคุมและสั่งการจากโลก (ภาพจั่วหัว)
  • ส่วนเส้นดำที่พาดผ่านกลางภาพ เกิดจากความผิดปกติในระบบข้อมูลภาคพื้นดิน

ส่วนภาพนี้ต้นเหตุแห่งความเข้าใจผิดว่าใครถ่ายรูป เนื่องจากภาพนี้ มนุษย์อวกาศในภาพคือ บัซ อัลดริน (Buzz Aldrin) ที่กำลังก้าวลงจากยานลูน่าโมดูล หลังจาก นีล อาร์มสตรอง ลงเหยียบดวงจันทร์ไปแล้ว 15 นาที และผู้ถ่ายรูปก็คือ นีล อาร์มสตรอง

ข้อมูลอ้างอิง ใครถ่ายรูป


อพอลโล11 เหยียบดวงจันทร์ จริงหรือเปล่า บทที่ 7 รอยไอพ่นอยู่ไหน



คำถามคาใจ

เมื่อยานลูน่าโมดูล(Lunar Module)จะลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์ จะต้องมีการเิปิดไอพ่นด้านล่างเพื่อพยุงไม่ให้ยานตกกระแทกพื้นอย่างแรง และพื้นผิวของดวงจันทร์ก็เป็นฝุ่นผง นั้นย่อยจะมีร่องรอยหลุมจากแรงไอพ่นบนพื้น แต่ทำไมในรูปถึงไม่ปรากฏร่องรอยดังกล่าว

คำตอบ

  • มันก็เหมือนเราขับรถ ก่อนที่เราจะจอดรถเข้าซอง เราไม่ได้พุ่งเข้าจอดด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ซักหน่อย
  • เป็นความจริงที่จรวดที่ใช้ชลอความเร็วของ ยานลูน่าโมดูลนั้นมีแรงผลักถึง 10,000 ปอนด์ แต่มันก็มีอุปกรณ์ในการควบคุมแรงผลักที่ขับออกจากจรวด ให้ทำงานหนักเบาตามความเหมาะสม
  • และแรงผลักที่ 10,000 ปอนด์ นั้นก็มีไว้ใช้ตอนยานอวกาศจะบินขึ้นจากดวงจันทร์ แต่ตอนลงจอดจรวดใช้แรงขับออกมาประมาณ 3,000 ปอนด์
  • ซึ่งเมื่อนำมาคำนวณจากขนาดปากกระบอกไอพ่นจรวดที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 54 นิ้ว จะได้พื้นที่ปากกระบอกไอพ่นจรวดที่ 2,300 ตารางนิ้ว
  • ฉะนั้นเมื่อ นำแรงขับที่ 3,000 ปอนด์ หาร ด้วยพื้นที่ปากกระบอกไอพ่นจรวดที่ 2,300 ตารางนิ้ว จะเหลือแรงดันประมาณ 1.3 ปอนด์/ตารางนิ้วเท่านั้นซึ่งนับว่าน้อยมาก
  • นอกจากนั้นบนดวงจันทร์ยังเป็น สุญญากาศ ทำให้ไอพ่นที่ปล่อยออกจากจรวด จะกระจายออกด้านข้างอย่างรวดเร็ว จะไม่เหมือนบนโลกที่ความดันบรรยากาศจะบีบให้ไอพ่นมีลักษณะเป็นแท่งยาว
  • ทั้งจากแรงดันไอพ่นจรวดในการลงจอดที่ต่ำ และบนดวงจันทร์เป็นสุญญากาศ ทำให้พื้นผิวของดวงจันทร์ไม่ปรากฏร่องรอยของ หลุมไอพ่น
ข้อมูลอ้างอิง รอยไอพ่นอยู่ไหน

อ้างอิงในส่วนเนื้อหา


อ้างอิงในส่วนรูปจั่วหัว

คลังบทความ wowboom

เพื่อนๆ wowboom